Digiqole ad

“เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉิน (Rapid Response Center) ในการดูแลความปลอดภัยคนไทยในอิสราเอล

 “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉิน (Rapid Response Center) ในการดูแลความปลอดภัยคนไทยในอิสราเอล
Social sharing

Digiqole ad
วันที่ 23 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉิน (Rapid Response Center) ในการดูแลความปลอดภัยคนไทยในอิสราเอล ซึ่งผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายประเมินและเห็นพ้องกันว่าหากมีการปฏิบัติการภาคพื้นดินอาจทำให้เหตุการณ์เลวร้ายลงไปอีก จึงขอร้องให้แรงงานไทยเดินทางกลับไทยทันทีเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยรัฐบาลมีความพร้อมที่จะรับคนไทยกลับประเทศ รวมทั้งเตรียมพร้อมในเรื่องแรงจูงใจและแนวทางรองรับเรื่องการทำงานให้กับแรงงานเดินทางกลับมา
.
1.นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากข้อมูลในปัจจุบันนี้ มีผู้แจ้งความประสงค์กลับไทยแล้วประมาณ 8,500 คน จนถึงวันนี้สามารถเดินทางกลับมาได้แล้ว 3,000 กว่าคน และขีดความสามารถนำแรงงานกลับไทยอยู่ที่ 800 ถึง 1,000 คนต่อวัน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้คือ มีแรงงานไทยจำนวนมากเปลี่ยนใจไม่กลับไทยด้วยเหตุผลคือ นายจ้างที่อิสราเอลเลื่อนการจ่ายเงินไปเป็นวันที่ 10 พฤศจิกายน และ มีการขึ้นค่าจ้างเพื่อจูงใจให้แรงงานไทยอยู่ทำงานต่อ
.
2.รัฐบาลร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายการทหาร ฝ่ายการต่างประเทศ ยืนยันว่าแม้ว่าข่าวเรื่องเหตุรุนแรงจะเบาบาง แต่ความเข้มข้นของสถานการณ์สงครามไม่ได้ลดลง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและจะขยายวงกว้างออกไปในบางประเทศใกล้เคียงซึ่งเป็นเรื่องน่าห่วง และเชื่อได้ว่าเหตุการณ์จะเลวร้ายลงไป ซึ่งได้ทราบมาว่าจะมีปฏิบัติการภาคพื้นดินในอีก 2-3 วันนี้ จึงขอเตือนพี่น้องแรงงานไทยทุกคนว่า จะต้องกลับไทย และฝากบอกครอบครัวแรงงานทุกคนให้ไปบอกญาติที่ยังทำงานอยู่ที่อิสราเอลว่าขอให้ตัดสินใจกลับไทยเพราะช่วงนี้ยังเดินทางกลับมาได้อยู่ แต่เมื่อมีการปฏิบัติการภาคพื้นดินแล้ว การเดินทางกลับจะยากลำบากมากขึ้น ทั้งเรื่องการเดินทางมายังศูนย์อพยพและการเดินทางไปยังสนามบินจะลำบากมากขึ้น ตรงนี้รัฐบาลเห็นตรงกันและจำเป็นต้องพูดสื่อสารไปยังพี่น้องประชาชนทุกคนให้ได้ทราบ
.
3.นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงแรงงาน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานรับปากว่า จะไปดูแลแรงงานที่จะเดินทางกลับไทยด้วยการเพิ่มแรงจูงให้รีบกลับ เพราะคนกลับมาจะได้รับเงินคนละ 15,000 บาท และอาจจะเพิ่มค่าแรงเพื่อให้รีบกลับไทย อีกทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้แสดงความเป็นห่วงและหาแนวทางช่วยเหลือแรงงานไทยเมื่อเดินทางกลับมาแล้วจะทำงานอะไร เพราะแรงงานไทยที่อิสราเอลจะเป็นแรงงานเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความจำเป็นที่จะต้องใช้แรงงานกลุ่มนี้ จึงขอเรียนว่าหากกลับมาก็จะหางานให้ทำได้
.
4. นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า รัฐบาลพยายามใช้ทุกวิถีทางในการช่วยคนไทย อีกทั้งในช่วงที่ไปประชุมสุดยอดอาเซียน-จีซีซี ได้พูดคุยกับกษัตริย์โอมาน กษัตริย์บาห์เรน และมกุฏราชกุมาร ซาอุดีอาระเบีย ทุกท่านตระหนักดีและทราบถึงสถานภาพของคนไทยว่าไม่ได้เป็นคู่กรณีหรือคู่ขัดแย้ง และเราเป็นผู้สูญเสียที่สูงมากและมีตัวประกันถึง 19 คนที่ยังไม่รู้ชะตากรรม แต่เราจะพยายามทำทุกหนทาง รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงเดินทางไปทำภารกิจแต่เราไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันได้ว่า เราจะทำทุกวิถีทางที่ทำได้เพื่อให้พี่น้องปลอดภัยสูงสุด
.
5.“ทุกฝ่ายเห็นตรงกัน ขอให้กลับมาเถอะ ถ้าญาติพี่น้องที่ไทยฟังการแถลงข่าวอยู่ ก็ขอให้ไปโน้มน้าวจิตใจญาติในอิสราเอล ขอให้กลับมาเถอะ เงินเท่าใดก็ไม่คุ้ม และเราจะพยายามดูแลให้ดีที่สุดก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายลงไปและไม่สามารถกลับมาได้” นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่สุด
ที่มา : พรรคเพจเพื่อไทย
Facebook Comments


Social sharing

Related post