![Digiqole ad](http://bangkok-today.com/wp-content/uploads/2024/06/แก้ปัญหาคอม.jpg)
“เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงการคลัง พบหารือกับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในโอกาสเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ
![“เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงการคลัง พบหารือกับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในโอกาสเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ](https://bangkok-today.com/wp-content/uploads/2023/10/4-7-850x560.jpg)
![Digiqole ad](http://bangkok-today.com/wp-content/uploads/2024/01/Nishikawa_Banner728x90px.gif)
วันที่ 11 ตุลาคม 2566 เวลา 15.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศมาเลเซีย ณ ทำเนียบรัฐบาลมาเลเซีย ณ เมืองปุตราจายา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พบหารือกับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม (H.E. Dato’ Seri Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในโอกาสเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ นายชัย วัชรงค์ สรุปสาระสำคัญดังนี้
.
1.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสย้ำความมุ่งมั่นและต้องการที่จะทำงานเพื่อเดินหน้าศักยภาพและความร่วมมือระหว่างกัน บนพื้นฐานของสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนทั้งสองประเทศ พร้อมเชิญนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเยือนไทยในโอกาสแรกที่สะดวก โดยนายกรัฐมนตรียังได้เสนอความร่วมมือทางด้านอาหาร สินค้าเกษตร ซึ่งไทยมีความมั่นคงทางอาหาร จึงหวังที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านอาหารฮาลาล ส่งออกไปยังประเทศต่างๆ
.
2.ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะตั้งคณะทำงานร่วมกัน (Task force group) ในด้านที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน เช่น ด้านการท่องเที่ยว เพื่อผลักดันการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันให้มีผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
.
3. ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นต่าง ๆ ร่วมกัน ดังนี้ ไทยและมาเลเซียต่างเห็นพ้องที่จะกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยจะตั้งเป้าหมายการค้า (Bilateral trade) ระหว่างกันใหม่ โดยต่างฝ่ายต่างเป็นคู่ค้าอันดับต้นๆ ของกันและกันในอาเซียน ซึ่งการปรับปรุงการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการเชื่อมโยงข้ามพรมแดนจะเป็นกุญแจสำคัญ
.
4.นายกรัฐมนตรี หวังที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล และเศรษฐกิจสีเขียว โดยต่อยอดจากความร่วมมือที่มีอยู่ รวมถึงสำรวจความร่วมมือในการเชื่อมโยงห่วงโซ่คุณค่าและระบบนิเวศสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง (hi-tech sectors) รวมถึงการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (proton) รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI)
.
5.นายกรัฐมนตรีมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงภาคใต้ของประเทศไทย และตอนเหนือของมาเลเซียให้เป็นพื้นที่การเติบโตใหม่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งสองประเทศ รวมทั้งเร่งรัดความคืบหน้าโครงการเชื่อมโยงที่สำคัญต่าง ๆ ที่จะเชื่อมต่อสองประเทศเข้าด้วยกัน และจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้า และการเดินทางของประชาชน ซึ่งหากประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางข้ามชายแดนได้ง่ายขึ้น และทั้งสองฝ่ายร่วมกันส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณชายแดน ก็จะช่วยเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยว และส่งเสริมการเชื่อมโยงธุรกิจท้องถิ่นให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เปลี่ยนพื้นที่ความขัดแย้งเป็นพื้นที่การค้า
.
6.นายกรัฐมนตรีย้ำในตอนท้ายว่า ไทยและมาเลเซียเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อพัฒนาความร่วมมือระดับภูมิภาคภายใต้อาเซียน รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีพร้อมร่วมมือกับมาเลเซียเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับอาเซียน และส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค
.
Facebook Comments