
เลือกสีทาภายในอย่างไรให้ห้องสวยเงางาม และดีต่อสุขภาพ

Office desk interior with mockup yellow wall.3D rendering
ห้องแต่ละห้องภายในบ้านมีการใช้งานที่แตกต่างกันไป การตกแต่งสีสันของห้องจึงขึ้นกับไลฟ์สไตล์ ซึ่งนอกจากตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สวยๆ แล้ว การเลือกสีทาภายในให้เข้ากับห้องก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน บรรยากาศของห้องจะออกมาแนวไหน ให้ความรู้สึกอย่างไร ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้สีที่ลงตัวด้วย แต่ก่อนจะเลือกโทนสีก็ต้องรู้จักกับประเภทของสีที่จะใช้งานก่อนว่า สีชนิดไหนเหมาะกับห้องแบบไหน แบบไหนทนทานใช้งานได้นาน วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีเลือกสีทาภายในบ้านให้สวยลงตัว และดีต่อสุขภาพ มาดูพร้อมๆ กันเลย
รู้จักกับประเภทของเนื้อสีทาภายในก่อนเลือกใช้งาน
- สีแบบ Flat หรือเนื้อสีที่ผิวสัมผัสเรียบ เป็นชนิดด้าน ไม่สะท้อนแสง และไม่มีความเงา เหมาะกับห้องหรือพื้นที่ใช้งานที่ไม่ได้ใช้เป็นประจำ ข้อดีของสีแบบ Flat คือ เนื้อสีจะช่วยปกปิดร่องรอยต่าง ๆ บนพื้นผิวได้ดี แต่ทำความสะอาดค้อนข้างยาก เพราะลักษณะผิวสัมผัสที่ฝุ่นสามารถจับตัวได้ง่าย ทำให้ต้องใช้น้ำยาเฉพาะในขจัดคราบฝุ่น
- สีแบบ Matte เนื้อสีที่ผิวสัมผัสเรียบลื่น เป็นชนิดที่มีความใกล้เคียงกับสีแบบ Flat แต่ผิวสัมผัสจะเรียบลื่นมากกว่า คุณสมบัติในการสะท้อนแสงน้อย เหมาะสำหรับทาในห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น แต่มีข้อเสียคือเนื้อสีที่ค่อนข้างด้าน ทำให้เป็นรอยเปรอะเปื้อนได้ง่าย จึงไม่เหมาะกับห้องที่เกิดคราบสกปรกต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น ห้องครัว หรือห้องน้ำ
- สีแบบ Eggshell เนื้อสีมีความมันวาว เรียกกันว่าสีแบบเปลือกไข่ เนื้อสีแบบนี้จะยึดเกาะพื้นผิวได้ดี เนื้อสีแน่นทนทาน ให้ผิวสัมผัสที่สวยงามโดดเด่น สีจะไม่ลอกร่อนง่าย ทนต่อการเช็ดถู ทำความสะอาดง่าย เป็นสีที่เหมาะกับห้องที่เกิดคราบได้ง่ายๆ เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว และสีแบบ Eggshell ยังมีคุณสมบัติในการป้องกันเชื้อรา แบคทีเรีย ตะไคร่น้ำ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สีแบบ Satin เนื้อสีที่ผิวสัมผัสดูอ่อนนุ่ม มีความมันเงากว่า สามารถปกป้องคราบสกปรกได้ดีกว่า ทนทานมากกว่าแบบ Eggshell แต่ก็ยังไม่เงาเท่ากับแบบ Semi–Gloss เป็นสีทาภายในที่ทำความสะอาดง่ายได้ ดูดซับความชื้นได้ดี เหมาะสำหรับห้องที่ใช้งานบ่อย ๆ เช่น ห้องอาหาร ห้องครัว ห้องน้ำ
- สีแบบ Semi–Gloss หรือแบบกึ่งมันเงา เป็นเนื้อสีชนิดที่ต้องใช้ความละเอียด และต้องพิถีพิถันในการทาสีเป็นพิเศษ เพราะเมื่อสีแห้ง เนื้อสีจะสะท้อนแสง ทำให้เห็นร่องรอยหรือรอยร้าวบนพื้นผิวชัดขึ้น แต่ก็มีคุณสมบัติที่ทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะสำหรับใช้ทาห้องน้ำหรือห้องนอนเด็ก
- สีแบบ Gloss หรือแบบมันเงา เป็นเนื้อสีที่มีความทนทานมากกว่าชนิดอื่นๆ เนื้อสีเป็นมันเงาสะท้อนแสงได้มากที่สุด ข้อดีของเนื้อสีแบบ Gloss คือ ทำความสะอาดง่าย จึงเหมาะกับห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว หรือพื้นที่ที่ใช้งานบ่อยๆ
เลือกสีทาภายในแบบไหนที่ดีต่อสุขภาพ
นอกจากจะเลือกสีทาภายในจากคุณลักษณะของสีแล้ว ปัจจุบันยังมีสีทาภายในที่ผลิตออกมาให้มีความปลอดภัยต่อผู้พักอาศัย ไม่ทำลายสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย รายละเอียดมีดังนี้
- เลือกสีที่ปราศจากสารเคมี (Low VOCs) ซึ่งสาร VOCs เป็นสารอินทรีย์ที่ระเหยเป็นไอในอากาศได้ง่าย เป็นมลภาวะเสียที่ทำให้อากาศเป็นพิษ สีทาภายในที่มีคำว่า Low VOCs จึงเป็นสีที่ลดการใช้สารระเหย ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
- เลือกสีทาภายในชนิดที่ไม่มีกลิ่น หรือมีกลิ่นอ่อน ลดความเสี่ยงการเกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน หรือเลือกสีทาภายในที่มีคุณสมบัติช่วยฟอกอากาศในบ้าน ช่วยป้องกันการเกิดภูมิแพ้ได้
- เลือกสีทาภายในแบบไร้สารปรอท สารตะกั่ว หรือสารโลหะหนัก นวัตกรรมสีรุ่นใหม่หลายๆ ยี่ห้อ มีคุณสมบัติในการย่อยสลายสารฟอร์มาลดีไฮด์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของสารก่อมะเร็ง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีเลือกสีทาภายในบ้านให้สวยลงตัว และดีต่อสุขภาพ การเลือกสีอาจจะเลือกจากโทนสีที่ชอบเป็นลำดับแรก แต่การเลือกสีทาภายในจากคุณสมบัติการใช้งานก็สำคัญไม่แพ้กัน นอกจากสีที่ดีจะช่วยดูแลปกป้องบ้านที่เรารักแล้ว ความปลอดภัยในการอยู่อาศัยก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย
ใครที่กำลังมองหาข้อมูลสีทาบ้าน หรือผลิตภัณฑ์สีทาบ้านที่หลากหลาย แนะนำให้เข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ TOAGROUP ผู้เชี่ยวชาญด้านสีทาบ้านที่อยู่คู่ประเทศไทยมาหลายปี ได้รวบรวมสาระความรู้ต่าง ๆ ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ เป็นการตอบโจทย์คนที่ต้องการหาสีทาบ้านสวยๆ และดีต่อสุขภาพ