เลือกสีทาบ้านให้สวยงาม มีคุณภาพ เลือกอย่างไรดี

การเลือกสีทาบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสีทาภายนอก หรือสีทาภายในนอกจากจะต้องเลือกสีที่ได้คุณภาพมาตรฐานแล้ว ควรจะเลือกให้ตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งานให้มากที่สุด เพราะการเลือกสีที่ดี นอกจากจะทำให้บ้านสวยงามคงทน ยังได้ทั้งความคุ้มค่าแล้วช่วยให้เราประหยัดได้มากมาย เพราะการทาสีบ้านในแต่ละครั้งนั้น เราไม่ได้ทากันได้บ่อย ๆ เพราะมีความยุ่งยากและสิ้นเปลืองพอสมควร ดังนั้นใครที่กำลังสร้างบ้านใหม่หรือปรับปรุงทาสีใหม่ควรให้ความสำคัญกับการเลือกสีทาบ้านให้มาก วันนี้เราจะมาแนะนำ เรื่องหลักๆ ที่ต้องรู้เลือกสีแบบไหนต้องพิจารณาคุณสมบัติอะไรเป็นส่วนประกอบเพื่อให้การเลือกซื้อสีเป็นเรื่องง่ายดายกับการเลือกสีทาบ้านให้สวยงาม มีคุณภาพ เลือกอย่างไรดี

1.เลือกสีที่ชอบ

แน่นอนว่าลำดับแรกของทุกคนจะต้องมีในใจก่อนเลยว่าจะใช้สีอะไร หรือสีโทนไหน และจะเอาไปใช้กับส่วนไหนของบ้าน สีทาภายในหรือสีทาภายนอก เพราะทั้ง 2 ชนิดนั้นมีลักษณะแตกต่างกัน สีภายนอก ต้องเจอกับสภาพอากาศต่าง ๆ ทั้งความร้อนจากแดด ทั้งลม ทั้งฝน จึงต้องมีความทนทานและมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น สะท้อนความร้อนได้ดี ส่วนสีทาภายในจะเช็ดถู ทำความสะอาดได้ง่ายกว่าเมื่อรู้ประโยชน์ในการใช้งานแล้ว เราก็สามารถเลือกสีที่ชอบได้เลยโดยพิจารณาจากสีทาบ้านที่เหมาะสมถูกใจ การเลือกสีจะบ่งบอกไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยหากชอบให้บ้านดูสว่างก็ควรจะเลือกใช้สีโทนอ่อน ๆ หรือสีหวาน ๆ มีคุณสมบัติสะท้อนแสงจะช่วยให้บ้านสะสมความร้อนน้อยกว่าสีเข้ม

2.ปริมาณของสี

เรื่องที่คนส่วนใหญ่มักนึกไม่ถึงในการเลือกสีทาบ้านก็คือการเลือกขนาดและปริมาณของสีให้เหมาะกับขนาดของพื้นใช้งาน การเลือกปริมาณของสีไม่ใช่แค่การใช้งาน เพราะจะเกี่ยวพันกับค่าใช้จ่ายและงบประมาณในการทาสีด้วย หากเราซื้อสีทาบ้านถังใหญ่ราคาจะถูกกว่าซื้อสีถังเล็กหลาย ๆ ถัง หรือการที่ต้องซื้อบ่อย ๆ ก็อาจจะเป็นเรื่องที่เสียเวลาโดยใช่เหตุ เมื่อเราต้องทาสีบ้านขึ้นมาจริง ๆควรคำนวณพื้นที่หน้างานให้ชัดเจน วางแผนให้ดีว่าต้องใช้สีมากน้อยแค่ไหนจะต้องทาสีบ้านกี่รอบ จะได้ซื้อสีถังที่ใหญ่ครั้งเดียวไปเลย

3.คุณภาพของสี

ส่วนใหญ่แล้วสียี่ห้อต่าง ๆ ก็จะมีมาตรฐานที่แตกต่างกันออกไป สีทาบ้านแต่ละแบรนด์อาจจะมีแบ่งคุณสมบัติย่อย ๆ อีก เช่น วิธีการผลิต ส่วนผสมของสีผลิตจากอะไรหากเราเลือกสีที่มีคุณภาพดีกว่า ราคาก็อาจจะสูงมากกว่าด้วยเช่นกัน ส่วนใหญ่สีทาบ้านจะระบุคุณภาพ และการใช้งานไว้ข้างถังสี โดยมีให้เลือกใช้งานได้หลากหลายเช่นPremium Grade, High Quality Grade, Medium Grade และแบบStandardซึ่งคุณภาพของเกรดสีนั้นจะส่งผลต่อความทนทาน การยึดเกาะ ไม่ซีดจางเร็ว สะท้อนความร้อน ป้องกันคราบเลอะ เช็ดล้างง่าย ช่วยให้บ้านเย็นการป้องกันรอยกระแทกขีดข่วน ฯลฯ

4.คุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ

ปัจจุบันนวัตกรรมการผลิตสีทาบ้านนั้น มีการผลิตสีคุณสมบัติพิเศษออกมามากมาย เพื่อให้เราเลือกใช้ได้ตรงกับการใช้งาน เช่น มีคุณสมบัติป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งจะเป็นสีทาบ้านที่เหมาะจะใช้กับห้องน้ำ เพราะมีความชื้นสูง หรือสีที่สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะกับทาห้องครัว ที่มีคราบเขม่าหรือคราบสกปรกง่ายหรือสีที่ปราศจากส่วนผสมของสารปรอท ก็จะเหมาะกับห้องนอน นอกจากนั้นสีหลาย ๆยี่ห้อยังมีระดับความเงาและการสะท้อนแสง (Sheen) ที่แบ่งออกเป็นประเภท เช่นGloss, Semi-Gloss, Satin และ Flat ซึ่งเรียงลำดับจากความเงาไปหาความด้าน

5.อายุการใช้งาน

คุณสมบัติของสีทาบ้านแต่ละยี่ห้ออาจไม่แตกต่างกันมาก แต่การเลือกสีทาบ้านที่ดีมาใช้งาน ก็ควรดูที่อายุการใช้งานของสีด้วยเช่นกัน เพราะสีที่ซื้อมาหากใช้ไม่หมดอาจจะต้องเก็บไว้ใช้อีกในครั้งต่อไป อายุการใช้งานของสีแต่ละประเภท จะมีระบุไว้ข้างถังสี โดยอายุการใช้งานของสีมีระยะเวลาตั้งแต่ 1 ปี3 ปี 5ปี 7ปี หรือ 10ปี สีทาบ้านบางยี่ห้ออาจจะไม่บอกวันหมดอายุ จะบอกแค่เพียงวันที่ผลิตเท่านั้น การเลือกอายุการใช้งานจึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องพิจารณาให้ดีด้วยเช่นกัน

จริง ๆ แล้วการเลือกสีทาบ้านนั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเจ้าของบ้านเป็นหลัก และการเลือกสีแบบไหนก็เป็นเรื่องตัดสินใจยากอยู่พอสมควร เพราะต้องขึ้นอยู่กับงบประมาณเป็นสำคัญด้วย หรือบางครั้งเลือกไปแล้วเกิดลังเลกลัวจะไม่สวยขึ้นมาก็มี แต่ไม่ว่าอย่างไรการเลือกสีทาบ้าน โดยอิงจากปัจจัยทั้ง 5 ข้อที่เราแนะนำนั้น จะช่วยให้ได้สีที่คุ้มค่าคุ้มราคาอย่างแน่นอน