Digiqole ad

เรืองไกร ร้อง ป.ป.ช. สอบ ตลก.ศาลรัฐธรรมนูญ

 เรืองไกร ร้อง ป.ป.ช. สอบ ตลก.ศาลรัฐธรรมนูญ
Social sharing
Digiqole ad

เมื่อวันที่  12  ธันวาคม  2564 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า ตนได้อ่านคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 19/2564  ทั้งส่วนกลางและส่วนตนโดยละเอียดแล้ว มีกรณีที่ต้องขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า อาจมีการใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง หรือไม่

นายเรืองไกร กล่าวว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 19/2564 (กลาง) ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ระบุไว้ส่วนหนึ่งว่า “การใช้สิทธิหรือเสรีภาพของผู้ถูกร้องที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยไม่สุจริต เป็นการละเมิดกฎหมาย  มีมูลเหตุจูงใจเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ  มาตรา 49  วรรคหนึ่ง  แม้เหตุการณ์ตามคำร้องผ่านพ้นไปแล้ว  แต่หากยังคงให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 รวมทั้งกลุ่มในลักษณะองค์กรเครือข่าย กระทำการดังกล่าวต่อไป  ย่อมไม่ไกลเกินเหตุที่จะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  รัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง ให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีอำนาจสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคตได้

อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น  จึงวินิจฉัยว่า  การกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ  มาตรา 49 วรรคหนึ่ง  และสั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 รวมทั้ง กลุ่มองค์กรเครือข่ายเลิกกระทำการดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย  ตามรัฐธรรมนูญ  มาตรา 49 วรรคสอง

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง บัญญัติว่า “ผู้ใดทราบว่ามีการกระทำตามวรรคหนึ่ง ย่อมมีสิทธิร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวได้”

นายเรืองไกร กล่าวตามมาว่า   รัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง ไม่มีข้อความใดที่บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำในอนาคตแต่อย่างใด อีกทั้งยังวินิจฉัยไปถึงกลุ่มองค์กรเครือข่ายซึ่งไม่รู้ว่าคือใคร และไม่ใช่คู่กรณีหรือผู้ถูกร้อง กรณีจึงมีปัญหาที่ควรตรวจสอบว่า คำวินิจฉัย(กลาง)ที่ 19/2564 ในส่วนที่มีคำสั่งห้ามถูกร้องที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 รวมทั้งกลุ่มองค์กรเครือข่ายเลิกกระทำการดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย โดยอ้างว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง ให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ นั้น ชอบหรือไม่ (ข้อสังเกต ทำไมไม่อ้างว่า มีหน้าที่ตามตามรัฐธรรมนูญ  มาตรา 49 วรรคสอง ด้วย)

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า   เมื่อพิจารณาจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง ประกอบกับพรป.วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 และข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562  จะเห็นได้ว่า มีเฉพาะกรณีตามความในพรป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 74 ซึ่งศาลอาจกำหนดให้มีผลไปในอนาคตขณะใดขณะหนึ่งหลังวันอ่านคำวินิจฉัย หรือ อาจกำหนดเงื่อนไขหรือมาตรการในการบังคับอย่างหนึ่งอย่างใด ทั้งนี้ ตามความจำเป็นหรือสมควร ตามความเป็นธรรมแห่งกรณี เท่านั้น ซึ่งกรณีคำสั่งดังกล่าว จึงมีปัญหาว่าอาจไม่เป็นไปตามมาตรา 74 อีกด้วย

นายเรืองไกร กล่าวว่า กรณี จึงมีเหตุที่ควรขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบว่า การที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญสั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 รวมทั้ง กลุ่มองค์กรเครือข่ายเลิกกระทำการดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย  ตามรัฐธรรมนูญ  มาตรา 49 วรรคสอง โดยอ้างว่ามีอำนาจตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง นั้น ชอบหรือไม่ คำวินิจฉัยส่วนนี้เป็นไปตามพรป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (3) มาตรา 73 และมาตรา 74 หรือไม่ และจะปฏิบัติตามได้อย่างไร รวมทั้งคำวินิจฉัยในส่วนนี้จะมีสถานะหรือสภาพบังคับที่จะผูกพันองค์กรใด ๆ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 211 วรรคสี่ ได้หรือไม่  และคำสั่งดังกล่าวเป็นการกระทำที่ขัดแย้งรัฐธรรมนูญเสียเอง หรือไม่ เป็นการตีความอำนาจเกินเลยจนไกลไปจากหลักนิติธรรม หรือไม่

นายเรืองไกร สรุปว่า เรื่องนี้จึงต้องส่งให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) เพื่อทำการ ตรวจสอบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในกรณีมีคำวินิจฉัยที่ 19/2564  เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการมีคำสั่งห้ามถูกร้องที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 รวมทั้งกลุ่มองค์กรเครือข่ายเลิกกระทำการดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต โดยอ้างอำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง ว่า มีการใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง และพรป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (3) มาตรา 73 และมาตรา 74 หรือไม่ และขัดต่อหลักนิติธรรมตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง และขัดต่อมาตรา 188 หรือไม่
โดยในวันพรุ่งนี้ จะส่งคำร้องไปถึง ป.ป.ช. ทางไปรษณีย์ EMS

Facebook Comments

Related post