เฟกนิวส์ฝีมือไอโอ

ในยุคสมัยของการแบ่งแยกแตกขั้วทางความคิดอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นกับสังคมไทยมาตั้งแต่ปี 2548 ก่อนที่จะเกิดรัฐประหารในปี 2549 ลากยาวนานมาจนถึงตอนนี้ก็ปาเข้าไป 16 ปีแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรที่ดีขึ้น

เป็น 16 ปีแห่งความหลังที่ขมขื่น เจ็บปวดเสียยิ่งกว่าเพลง 16 ปี แห่งความหลัง ของครูเพลง สรพล สมบัติเจริญ เสียอีก

เพราะจนวันนี้ ยังจมปลักความเชื่ออยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เสพจนติดไปแล้วของแต่ละฝ่าย

ฝ่ายคนที่ยกตน อ้างว่าเข้ามาเพื่อเป็นกรรมการ แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ได้มีการแก้ไขเรื่องการบิดเบือนข้อมูลที่ทำให้สังคมแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

คือความล้มเหลวในการสร้างความปรองดอง ที่ยากจะบอกได้ว่า เป็นการจงใจ หรือไร้ฝีมือ

แต่บนคำว่า Divide and Rule Policy หรือ Divide and Rule Theory หรือ ทฤษฎีแบ่งแยกแล้วปกครอง ทำให้สามารถที่จะสงสัยได้

เพราะคำประกาศในการทำรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 เรื่องจะสร้างความปรองดองนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่สามารถทำได้ตามสัญญา ที่ว่าขอเวลาอีกไม่นาน

วันนี้สังคมไทยก็ยังคงแบ่งฝ่ายซัดกันเละเทะ โดยไม่ได้นึกถึงอนาคตของประเทศ

ซ้ำร้าย เมื่อบรรดาบุคคลที่จะต้องเป็นอนาคตของประเทศแทนคนรุ่นปัจจุบัน พอออกมาทวงคืนอนาคตของพวกเขา อนาคตของประเทศ กลับถูกเล่นงาน ถูกด่าว่าอย่างหยาบคาย โดยไม่คำนึงเลยว่า สิ่งเหล่านั้นเป็นต้นแบบของความหยาบคายที่เกิดขึ้นกับสังคมไทยในวันนี้นั่นเอง

วันนี้เราจึงได้เห็นการด่าทอ และการสาดใส่ความหยาบคายกันไปมาบนประเทศที่เคยได้รับการเรียกขานว่าเป็น สยามเมืองยิ้ม

ในสถานการณ์วิกฤตไวรัสโควิด 19 และความล้มเหลวผิดพลาดในการบริหารจัดการวัคซีนให้กับประชาชน แล้วเกิดเสียงสะท้อนที่ระบายความอึดอัด คับข้องใจ ข้อสงสัย ตลอดจนผลกระทบที่ได้รับจากการดำเนินการที่ผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า

ยังคงเห็นการแก้ต่างให้รัฐบาล ให้คนชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา แบบที่ไม่ฟังเหตุผล หลายคนที่ออกมาปกป้อง ทำราวกับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของวัคซีนไปแล้วอย่างนั้นแหละ แถมตลกตรงที่ข้อความเหล่านี้ถูกส่งถูกแชร์กันซ้ำไปซ้ำมา เพียงเพื่อให้เห็นว่าวัคซีนที่รัฐบาลประยุทธ์เลือกนั้นดีที่สุดแล้ว

เฟกนิวส์ ที่อ้าง New York Times จัดอันดับวัคซีนที่ดีที่สุดในโลก 4 อันดับแรกเป็นวัคซีนของจีนทั้งหมด เป็นข่าวปลอมมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งทาง New York Times ปฏิเสธข่าวไปแล้วตั้งแต่มีนาคม แถม AFP ก็ร่วมยืนยันด้วยว่าเป็นข่าวปลอม

แต่จนวันนี้ ก็ยังวนเวียนส่งต่อ เป็นเฟกนิวส์ โดยที่ไม่มีที่หน่วยงานไทยออกมาเตือน มาแตะเลย

หรือเฟกนิวส์ จากฝีมือ ไอโอ ไม่ถือเป็นเฟกนิวส์ในสายตารัฐบาล

อัคคี กัมปนาท