Digiqole ad

เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว รัฐบาลกำลังจะทำผิดซ้ำซาก

 เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว รัฐบาลกำลังจะทำผิดซ้ำซาก
Social sharing
Digiqole ad

มาช้าดีกว่าไม่มาสำหรับ “วัคซีน” แอสตร้าเซนเนก้าป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รัฐบาลไทยลุ้นตัวโก่งมานานและเพิ่งรับมอบล็อตแรก 1.8 ล้านโดสเมื่อต้นเดือนมิถุนายน  ก่อนจะรีบกระจายส่งมอบต่อสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศเพื่อฉีดให้ประชาชนตามนัดหมาย “คิกออฟ” ฉีดวัคซีนเพื่อชาติในวันที่ 7 มิถุนายนได้อย่างฉิวเฉียด

ดูยอดรวมผู้รับวัคซีนแล้วทั้งประเทศเกือบ 6 ล้านโดส(ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิถุนายน) หลังจากรัฐบาลสั่งเร่งระดมฉีดวันละเกือบ 5 แสนโดสซึ่งยังห่างไกลเป้าหมายที่จะฉีดให้ครอบคลุมประชากร 50 ล้านคนหรือ 70% ของประชากรภายในสิ้นปีนี้   แต่อย่างน้อยก็ช่วยเรียกขวัญกำลังใจชาวบ้านให้กลับคืนมาบ้างกับการมีโอกาสได้รับวัคซีนที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการนอนเตียงไอซียูหรือเสียชีวิตแบบไม่ได้ร่ำลาญาติพี่น้อง   เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันยังเกินระดับ 2,000 คน และเสียชีวิตอีกวันละ 30-40 คน

 

ยังไม่ทันไรจะเปิดประเทศ

ตอนที่ยังไม่เกิดการระบาดระลอกสามรัฐบาลมีแผนจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนกรกฎาคมเพราะคิดว่าสถานการณ์แพร่ระบาดน่าจะผ่อนคลายมากแล้ว  แต่ถึงวันนี้ที่ยังมีการติดเชื้อรายวันทั่วประเทศ  ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่เกือบ 5 หมื่นคน  พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ยังฝืนนำประเทศไทยก้าวสู่ความเสี่ยงอีกครั้งด้วยการประกาศจะเปิดประเทศวันที่ 1 กรกฎาคมนี้เพื่อรับนักท่องเที่ยวเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามแผน “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” และแผนเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติของ 10 จังหวัดนำร่อง ในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปี 2564

เหตุที่รัฐบาลเลือกภูเก็ตเพราะมีชื่อเสียงระดับโลกสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยือนปีละกว่า 14 ล้านคน  เคยสร้างรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 4 แสนล้านบาท   วันนี้ภูเก็ตมีผู้ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มแล้ว ประมาณ 400,000 คน มากกว่า 60% ของจำนวนประชากร  โดยรัฐมีแผนฉีดวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่และประชากรแฝงให้ได้สัดส่วน 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่

ผู้นำรัฐบาลอ้างว่านักท่องเที่ยวต่างชาติต้องผ่านการคัดกรองและติดตามอย่างเข้มงวด  เช่นต้องมีใบรับรองการฉีดวัคซีนที่ฉีดครบโดสแล้วอย่างน้อย 14 วัน ก่อนการเดินทาง  เป็นผู้เดินทางจากประเทศเสี่ยงต่ำ-กลาง  ต้องเข้าพักในโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA หากพัก14คืนขึ้นไปจะสามารถเดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆในประเทศได้ เป็นต้น

 

ฝันปลายปีกวาดเงิน 11,492 ล้าน

เครื่องล่อใจที่จะเปิดเมืองภูเก็ตรับนักท่องเที่ยวต่างชาติคือตัวเลขนักท่องเที่ยว 129,000 คน และรายได้ 11,492 ล้านบาท ในระยะเวลา 3 เดือน (กรกฎาคม – กันยายน 2564)  ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเสกสรรค์ปั้นแต่งเสนอผ่านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอต่อคณะรัฐมนตรีและส่งต่อศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ที่พล.อ.ประยุทธ์นั่งคุมเบ็ดเสร็จ

ททท. กำหนดเป้าหมายตลาดเอเชียเดือนกรกฎาคมไว้  6,000 คน รายได้ 284 ล้านบาท เดือนสิงหาคม 15,000 คน  รายได้ 743 ล้านบาท เดือนกันยายน 23,000 คน  รายได้ 1,151 ล้านบาท

ตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง เดือนกรกฎาคม  23,700 คน รายได้ 2,597 ล้านบาท เดือนสิงหาคม 32,300 คน รายได้ 3,539 ล้านบาท  เดือนกันยายน 29,000 คน รายได้ 3,177 ล้านบาท

นี่เป็นความสวยหรูดูดีของไตรมาส 3 ซึ่งจะนำมาสู่อีก 9 จังหวัดที่เดิมกำหนดจะเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในไตรมาส 4 เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม  ได้แก่ สุราษฎร์ธานี(เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า)  กระบี่(เกาะพีพี)  พังงา  เชียงใหม่   ประจวบคีรีขันธ์(หัวหิน)  เพชรบุรี(ชะอำ)  เมืองพัทยา ชลบุรี  บุรีรัมย์ มหานครของตระกูลชิดชอบแห่งพรรคภูมิใจไทย  และกรุงเทพมหานคร

ความกระตือรือร้นของนักการเมืองในรัฐบาลประกอบกับความเดือดร้อนของคนในพื้นที่ทำให้เกิดข้อเรียกร้องจาก 2 จังหวัดขอเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัวพร้อมกับจังหวัดภูเก็ตในเดือนกรกฎาคม  ได้แก่กระบี่  และสุราษฎร์ธานี   ส่วนจังหวัดพังงาและเชียงใหม่ขอเปิดเมืองในเดือนสิงหาคม

จีนยังไม่มาหลายชาติยังเข้ม

มีการเผยแพร่ข้อมูลที่สร้างความหวังต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยว่า  พอเปิดประเทศปุ๊บ นักท่องเที่ยวจีนที่เคยมาเยือนไทยปีละกว่า 10 ล้านคนจะแห่แหนกลับมาอีกทันที  เพราะมีการสำรวจความคิดเห็นทางออนไลน์พบว่า  ชาวจีน 55% ยังเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว โดยอยากมาเยือน กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา  เกาะสมุย  รองลงไปคือญี่ปุ่น 24%  สิงคโปร์ 11% เกาหลีใต้ 5% และยุโรป 4%

แต่หากศึกษาให้ดีจะพบว่า 93% ของผู้ตอบแบบสอบถามเน้นว่าต้องดูจำนวนการฉีดวัคซีนในไทยก่อน อีก  77% รอการยกเลิกมาตรการกักตัวก่อนถึงจะวางแผนมาเที่ยวไทย

ผู้บริหารท่านหนึ่งในวงการท่องเที่ยวจีน-ไทย กล่าวว่า ความหวังจะให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาเที่ยวประเทศไทยเป็นชาติแรกไม่ง่ายนัก  เพราะรัฐบาลจีนก็ยังมีมาตรการคุมเข้มอยู่ เช่นเดียวกับหลายประเทศที่ยังเป็นห่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด

ตัวอย่างหนึ่งที่รัฐบาลในต่างประเทศเขาออกมาเตือนประชาชนคือ นายจอร์จ ยูสติซ รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมของอังกฤษ กล่าวแนะนำชาวอังกฤษให้หยุดพักอยู่บ้านในปีนี้ และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศยกเว้นมีเหตุจำเป็น สืบเนื่องจากยังมีความเสี่ยงจากการระบาดของโควิด-19

วันนี้ชาวอังกฤษสามารถเดินทางไปยัง “กลุ่มประเทศสีเขียว”ได้โดยไม่ต้องกักตัวหลังเดินทางกลับอังกฤษ  แต่ถามว่าไทยอยู่ใน “กลุ่มประเทศสีเขียว” หรือไม่  เพราะหลายประเทศยังประกาศเตือนเดินทางมาไทย  หรือมาเที่ยวไทยแล้วกลับไปต้องกักตัวดูอาการ

 

ททท.อะเมซซิ่งยิ่งกว่าเดิม        

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเคยพลาดเดือนเมษายนที่ส่งเสริมท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์จนโควิด-19แพร่ระบาด  ตอนนี้นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการททท.ไม่เพียงจะลุ้นให้เปิดภูเก็ตรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังจะเปิดโครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2021 กระตุ้นการท่องเที่ยวและการช็อปปิ้งให้เกิดความเสี่ยงของการระบาดอีกรอบระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม – 15 กันยายน 2564 ภายใต้แนวคิด “AMAZING ยิ่งกว่าเดิม”

ข้ออ้างของททท.ในการใช้งบจัดงานนี้คือกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่พำนักในประเทศไทย และส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็น Shopping Destination รวมถึงเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

แต่สิ่งที่จะตามมาที่อาจจะได้ไม่คุ้มเสียและพล.อ.ประยุทธ์ควรจะถ่วงน้ำหนักผลได้-ผลเสียคือความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดระลอกที่สี่ตามมา  เพราะอย่าลืมว่าแม้จะมีการฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม  แต่ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วก็ยังมีโอกาสติดเชื้อหรือแพร่เชื้อต่อได้อีก

ในการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนสมัยพิเศษเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา  มีกรอบความร่วมมือ 7 แนวทาง  หนึ่งในนั้นคือการดำเนินนโยบายและมาตรการที่มีความชัดเจนเพื่อเพิ่มความมั่นใจของทั้งนักท่องเที่ยวภายในอาเซียนและนักท่องเที่ยวนานาชาติที่เดินทางมายังอาเซียน รวมทั้งการกำหนดมาตรฐานและแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่เหมาะสม เพื่อคุ้มครองผู้ปฏิบัติงานและชุมชนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศสมาชิกอาเซียน

ถามว่า ณ วันนี้ประเทศไทยมีความชัดเจนเรื่องอะไรบ้าง

Facebook Comments

Related post