
เปลือยเบื้องหลังหมดเปลือก “ยิ้มสยาม” แรงงานอารมณ์ที่เปราะบาง


ดินแดนที่ได้ชื่อว่า “land of smile” ที่คนทั่วโลกยกนิ้วให้ในมิตรไมตรีของชาวไทย แต่ภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มละมัยนั้น จะมีเหตุผลอื่นใดซุกซ่อนอยู่หรือไม่ สารคดี “SOME ONE…หนึ่งในหลาย” วันอาทิตย์นี้ จะพาไปแกะรอยเบื้องหลังรอยยิ้ม เพื่อหาความจริงกัน
ไม่เพียงเป็นดินแดนสวรรค์ของนักท่องเที่ยว แต่ทว่าด่านแรกของการต้อนรับ คือ “รอยยิ้ม” ตรงตามสโลแกน “สยามเมืองยิ้ม” ที่มีมาแต่ไหนแต่ไร ยิ่งทำให้คนต่างชาติมีความประทับใจ ตั้งแต่แรกที่ก้าวเท้าเหยียบพื้นดิน
แต่ใช่ว่าทุกคนจะยิ้มออกมาจากหัวใจแห่งไมตรีจิตจริงๆ หรือว่ามีความสุขจนเอ้อล้นออกมาเปื้อนใบหน้า เพราะว่ากันตามจริงแล้ว เบื้องหลังรอยยิ้มของแต่ละคนนั้น ล้วนมาจากพื้นฐานที่แตกต่างกัน
สิ่งที่เราไม่รู้อย่างแท้จริงจากภาพเบื้องหน้า เขาและเธออาจจะแบกภาระไว้ข้างหลังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาครอบครัว ปัญหาปากท้อง เงินในกระเป๋า หรือสุขภาพของตัวเอง แล้วเหตุใดพวกเขายังยิ้มออกมาได้
สำหรับผู้ที่ต้องยิ้มเพื่อต้อนรับใครต่อใคร เป็นไปได้ว่าต่อให้ทุกข์ยากแค่ไหนก็คงต้องฝืนยิ้ม…
ใช่หรือไม่ว่า “การยิ้ม” เป็นภาระหน้าที่ เป็นการแสดงออกที่มาพร้อมกับความอดทน เพื่อให้ผู้มาเยือนหรือผู้มาใช้บริการประทับใจในแรกเห็น และรู้สึกสบายอกสบายใจ ช่วยทำให้บรรยากาศดีขึ้น พูดคุยกันง่ายขึ้น หรือตกลงร่วมงานกันอย่างสะดวกใจ
ถ้าเป็นเพราะเหตุผลนี้ การยิ้ม ก็ไม่ต่างอะไรกับการใช้ “แรงงาน” ชนิดหนึ่ง เป็น “แรงงานอารมณ์” ที่ผู้ให้บริการจำเป็นต้องมี และเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างมากด้วย
กลุ่มผู้ใช้แรงงานอารมณ์ จะต้องปรับอารมณ์ตัวเองให้เหมาะกับงานที่ทำ ถ้ามีอะไรไม่สบายใจจากที่บ้าน หรือมีปัญหาส่วนตัวต่างๆ ก็จะต้องซุกซ่อนเอาไว้ให้สุดใจ และพร้อมที่จะสวมบทบาทของผู้ให้บริการที่ดี และมีรอยยิ้มอาบใบหน้าตลอดเวลา
แต่ความจริงอย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ วันหนึ่งแรงงานอารมณ์ อาจจะมีความเหนื่อยล้าจากการทำแบบนี้ซ้ำๆ ทำนานๆ เป็นความเหนื่อยล้าที่มองไม่เห็น และต่างจากคนที่ใช้แรงงานปกติทั่วไป ซึ่งความเหนื่อยล้าทางอารมณ์นี้จะทำให้เกิดความทดท้อใจ ไม่มีความสุข จนไปสู่ภาวะที่เรียกว่าหมดไฟในการทำงานไปเลยก็เป็นได้
ขณะเดียวกัน การดูแลเอาใจใส่ลูกค้าหรือผู้มารับบริการผ่านรอยยิ้ม อาจไม่ใช่เป็นเพราะ “หน้าที่” เพียงอย่างเดียว เพราะมีคนอีกไม่น้อย ที่มีความภาคภูมิใจในการยิ้ม อย่างเช่น พี่น้องชาวหัวหิน ที่ทุกคนตระหนักดีว่า สถานที่ที่เขาอยู่แห่งนี้มีความผูกพันต่อพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงมาประทับที่พระราชวังไกลกังวล ดังนั้น หัวหินคือบ้านพ่อ และพวกเขาก็อยู่บ้านพ่อ การเปิดประตูรับนักท่องเที่ยว จึงเสมือนเป็นการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองของประเทศ ทุกหน่วยงานของที่นี่จึงร่วมมือกันพัฒนาเมือง พัฒนาธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว เพื่อให้ผู้มาเยือนมีความสุขมากที่สุด
“หัวหิน” จึงเป็นเมืองตัวอย่างก็ว่าได้ ที่เห็นคนตั้งแต่หน่วยเล็กๆ ไปจนถึงการบริหารระดับมหภาค ที่เข้าใจถึงเรื่องภาพพจน์ การสื่อสาร บุคลิกภาพ และ “ยิ้ม” ด้วยความเต็มใจ
อย่างน้อยอาชีพ “แคดดี้” ก็เป็นรูปธรรมอย่างหนึ่งที่ถือว่าเป็น brand ambassador ของกิจกรรมกีฬากอล์ฟแห่งเมืองหัวหิน ที่นักกอล์ฟจากทั่วโลกสัมผัสได้ ขณะที่เสียงจากคนทำงานเอง ก็บอกว่ารักที่จะบริการ แม้ต้องพบเจอกับความหลากหลายในอุปนิสัยของแต่ละคนก็ตาม
ยังมีอีกหลากหลายอาชีพ ไม่ว่าพนักงานโรงแรม คนทำงานในร้านอาหาร ผับ บาร์ สปา หมอนวดแผนไทย ฯลฯ ที่ต้องทำงานภายใต้ความกดดันและการคาดหวัง รวมไปถึงการแก้ไข “การด้อยค่า” จากภาพจำของสังคม แต่เมื่อทุกคนถือธงในการทำงานด้วยความเข้าใจ และรักในอาชีพของตัวเองแล้ว พวกเขาและเธอจึงทำงานอย่างมีความสุข
แม้จะเห็นทัศนคติที่ดีของอาชีพผู้ให้บริการ แต่ก็ยังถือเป็นกลุ่มคนนอกภาคแรงงานที่เป็นทางการ และมีความเปราะบางในชีวิต จึงน่าจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยโอบอุ้มดูแลพวกเขาในระยะยาวด้วย
ติดตามสารคดี SOME ONE….หนึ่งในหลาย ตอน “เบื้องหลังยิ้มสยาม” วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2566 เวลา 09.30 น. ทาง MCOT HD 30 ชมย้อนหลังทาง Facebook และ YouTube : สารคดี SOME ONE หนึ่งในหลาย