Digiqole ad

“เที่ยวและมูคู่กัน” EP:44 จิรัฏฐวัฒน์ ศิริบุตร ตอนที่ 44 : “ในหลวงทรงสักการะพระบรมสารีริกธาตุจากอินเดีย พระราชทานไฟ ณ 4 มณฑป ถวายเป็นพุทธบูชา”

 “เที่ยวและมูคู่กัน” EP:44 จิรัฏฐวัฒน์ ศิริบุตร ตอนที่ 44 : “ในหลวงทรงสักการะพระบรมสารีริกธาตุจากอินเดีย พระราชทานไฟ ณ 4 มณฑป ถวายเป็นพุทธบูชา”
Social sharing

Digiqole ad

อีบุ๊กบางกอกทูเดย์รายสัปดาห์ ฉบับที่ ๔๒๐ วันที่ ๒๓-๒๙ กุมภาพันธ ๒๕๖๗

หน้า 31 คอลัมน์เที่ยวและมูคู่กัน EP:44/จิรัฏฐวัฒน์ ศิริบุตร

ตอนที่ 44 : ในหลวงทรงสักการะพระบรมสารีริกธาตุจากอินเดีย

              พระราชทานไฟ  ณ 4 มณฑป ถวายเป็นพุทธบูชา

            พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567

 

ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดไฟจากโคมไฟฟ้า แล้วพระราชทานให้เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปตั้งที่มณฑปประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุฯ และพระราชทานไปตั้งที่มณฑป ณ หอคำหลวง อุทยานราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ ณ วัดมหาวนาราม จังหวัดอุบลราชธานี และ ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ในโอกาสต่อไป ตามลำดับ

ผมเองได้มีโอกาสไปเข้าเฝ้ารับเสด็จพระองค์ท่านด้วยตัวเอง พร้อมกับท่าน รศ.ดร.เสรี วงษ์มณฑา และพสกนิกรชาวไทยจำนวนมาก  ถือได้ว่าเป็นบุญวาสนายิ่งนัก ได้เห็นในหลวงและพระราชินี ในพิธีอันสำคัญและศักดิ์สิทธิ์อีกวาระหนึ่งของประเทศไทย ผมเองปลื้มปิติแก่ชีวิตยิ่งนัก

โดยพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ได้ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และเปิดให้ประชาชนเข้าสักการบูชา ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 3 มีนาคม 2567 เวลา 09.00-20.00 น. จากนั้นจะอัญเชิญไปประดิษฐานใน 3 จังหวัดตามภูมิภาคต่าง ๆ ให้ประชาชนได้เข้าสักการบูชา ดังนี้ภาคเหนือ วันที่ 5-8 มีนาคม 2567 ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 10-13 มีนาคม ณ วัดมหาวนาราม จังหวัดอุบลราชธานี ภาคใต้ วันที่ 15-18 มีนาคม 2567 ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่  ทั้งนี้ ในทุกวันตั้งแต่เวลา 17.00 น. จะจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เสริมสิริมงคลให้กับศาสนิกชนที่เข้ากราบสักการะ โดยแต่ละพื้นที่จะมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ตาม   อัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่อย่างยิ่งใหญ่

ความศักดิ์สิทธิ์ของพระบรมสารีริกธาตุ : พระบรมสารีริกธาตุนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ สามารถเพิ่มหรือลดจำนวนได้เอง โดยสามารเสด็จไปไหนมาไหนเองแม้ว่าจะบรรจุไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทดีสักเท่าใดก็ตาม เชื่อกันว่าหากผู้กราบไหว้สักการบูชาไม่ดูแลรักษานำไปประดิษฐานไว้ในสถานที่ที่ไม่สมควร หรือขาดการถวายความเคารพแล้วพระบรมสารีริกธาตุอาจเสด็จหายจากสถานที่นั้น ๆ ก็เป็นได้ โดยทางตรงกันข้าม หากได้รับการปฏิบัติบูชาดี ผู้กราบไหว้สักการบูชา มีกาย วาจา ใจ สะอาดบริสุทธิ์ อยู่ในศีลธรรม พระบรมสารีริกธาตุก็อาจเพิ่มจำนวนได้

บทสวดบูชา สักการะพระบรมสารีริกฐธาตุ : การจะบูชาพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุนั้น ก่อนอื่นต้องชำระร่างกาย ทำจิตใจให้สะอาดผ่องใส และจัดหาดอกมะลิใส่ภาชนะเป็นเครื่องสักการบูชาตั้งด้านหน้า ณ สถานที่ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแล้วจุดธูป เทียนตั้งใจให้เป็นสมาธิ กราบ ๓ ครั้ง แล้วกล่าวคำบูชาดังนี้  นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)  “อะหัง วันทามิ ทูระโต อะหัง วันทามิ ธาตุโย อะหัง วันทามิ สัพพะโส”

ผมเชื่อว่าเป็นครั้งสำคัญของคนไทยที่จะได้กราบพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อเป็นบุญบารมีให้กับตนเองและครอบครัว สำคัญที่สุดเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยังคงอยู่ในประเทศไทยและในโลกใบนี้ไปนานเท่านาน

ขอขอบคุณข้อมูล/ภาพ : กรมการศาสนา/กรมประชาสัมพันธ์ / ไทยโพสต์ / amarintv.com

Facebook Comments


Social sharing

Related post