เดอะมอลล์ ชวนสัมผัสความยิ่งใหญ่ตะลุยดินแดนไดโนเสาร์โลกดึกดำบรรพ์ ในงาน THE MALL BANGKAE JURASSIC MANIA

เดอะมอลล์ กรุ๊ป ร่วมกับ ไดโนซอร์ 65 ชวนน้องๆหนูๆตะลุยดินแดนไดโนเสาร์สู่โลกดึกดำบรรพ์ ในงาน THE MALL BANGKAE JURASSIC MANIA พบกับแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของดินแดนสัตว์โลกล้านปีสุดยิ่งใหญ่ในย่านฝั่งธนฯ เปิดประสบการณ์ตื่นตาตื่นใจไปกับฝูงไดโนเสาร์ยักษ์ ที่มีขนาดสมจริงยาวกว่า 18 เมตร ซึ่งนำมาจัดแสดงกว่า 20 สายพันธุ์พร้อมกับเทคโนโลยีตัวใหม่ล่าสุดที่มีการเคลื่อนไหวการขยับร่างกายเสมือนจริง โดยงานจัดแสดงในบรรยากาศโลกยุคดึกดำบรรพ์ บนเนื้อที่กว่า 700 ตารางเมตร ระหว่างวันที่ 11 ส.ค. 65 – 4 ก.ย. 65 ที่บริเวณ MALL PARC ชั้น G หน้าศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางแค

THE MALL BANGKAE JURASSIC MANIA จะพาไปพบกับการผจญภัยสู่โลกยุคจูราสสิคและเหล่ากองทัพไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ ที่น้องๆหนูๆสามารถสัมผัสได้อย่างใกล้ชิด แหล่งเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ของเด็กๆ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดหรรษาแห่งใหม่ของทุกคนในครอบครัว มาพร้อมมุมถ่ายรูปสุดอลังการเสมือนย้อนเวลาไปนับล้านปีไปสู่โลกยุคไดโนเสาร์ และโปรโมชั่นสุดพิเศษ ที่เชิญทุกครอบครัวมาเติมเต็มประสบการณ์สุดหรรษาไปด้วยกัน

พิเศษ! แลกรับบัตรเข้าชม

อัตราค่าเข้าชมงาน

พบกับไฮไลท์สายพันธุ์ไดโนเสาร์ ที่งาน THE MALL BANGKAE JURASSIC MANIA

​ไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่เรียกอย่างย่อว่า ที เรกซ์ อยู่ในยุคครีเทเชียสตอนปลาย หรือประมาณ
68 ถึง 66 ล้านปีมาแล้ว เป็นหนึ่งในไดโนเสาร์พวกสุดท้ายและทีเร็กซ์เกี่ยวข้องจำพวกนกนักล่าอย่าง นกอินทรีหรือเหยี่ยว  เดินสองขา มีกะโหลกศีรษะใหญ่ เพื่อความสมดุลในการทรงตัว จึงมีขาหลังใหญ่และทรงพลัง แม้ขาหน้าจะเล็กแต่มีกรงเล็บ แม้จะมีไดโนเสาร์กินเนื้อชนิดอื่นที่ใหญ่กว่าทีเรกซ์ แต่มันก็ใหญ่สุดในวงศ์เดียวกัน และเป็นหนึ่งในผู้ล่าใหญ่ที่สุดในพื้นพิภพ ความยาวกว่า 12-13 เมตร และอยู่บนสุดของบ่วงโซ่อาหารด้วย

มีถิ่นอาศัยอยู่ที่ทุ่งปาตาโกเนีย ในประเทศอาร์เจนตินา ช่วงกลางยุคครีเตเซียส 99.6-97ล้านปี พบซากดึกดำบรรพ์ในปี 1993 มีถิ่นอาศัยอยู่ที่ทุ่งปาตาโกเนีย ในประเทศอาร์เจนตินา เป็น 1 ใน 3 ไดโนเสาร์กินเนื้อใหญ่สุด ยาว 12-13 เมตร และน้ำหนักอยู่ระหว่าง 4.2-13.8 ตันความยาวกะโหลกศีรษะ 1.53 ถึง 1.80 เมตร ขนาดของมันยาวกว่าไทแรนโนซอรัส นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า ไจกาโนโทซอรัส สามารถทำความเร็วได้ถึง 14 เมตรต่อวินาที (50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ด้วยขนาดอันใหญ่โตและขาที่ยาวของมัน ไจกาโนโทซอรัสเน้นวิธีการล่าเป็นฝูงแบบเฉพาะกิจ โดยจะรอพวกเดียวกันมาจนได้จำนวนที่มากพอ พวกมันก็จะออกล่า โดยมันจะใช้วิธีกัดเพื่อสร้างบาดแผลฉกรรจ์ แล้วรอจนเหยื่ออ่อนแรงเพราะเสียเลือดในปริมาณมาก

​ฟอสซิลของมันถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 1948 โดยการสำรวจภาคสนามของชาวมองโกเลียที่ทะเลทรายโกบี ลักษณะของ เทอริสิโนซอรัส ที่ทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่ามันกินเนื้อคือ เล็บที่ยาวกว่า 70 เซนติเมตร และเดินสองขาเหมือนไดโนเสาร์กินเนื้อ ทำให้ตอนแรกมันถูกคิดว่าเป็นพวกกินเนื้อ แต่ในปัจจุบันมันจัดอยู่ในไดโนเสาร์กินพืช เนื่องจากลักษณะฟันที่เป็นซี่เล็กๆเรียงกัน ใช้ไม่ได้กับการกัด หรือเคี้ยวเนื้อ ส่วนเล็บที่มันมีก็ไม่เหมาะกับการฉีกเหยื่อ เพราะเปราะบางเกินไป ดังนั้นเล็บที่ยาว 70 เซนติเมตรของมัน จึงใช้ในการตัดใบไม้ลงมาจากต้น หรือป้องกันตัวโดยการขู่เท่านั้น นอกจาก เทอริสิโนซอรัส จะมีลักษณะเฉเพาะคือเล็บของมันแล้ว มันยังมีขาหน้าที่ยาว 2 เมตรด้วย ทั้งๆ ที่มันเดินด้วยขาหลัง ความยาวตัวประมาณ 9 – 10 เมตร สูง 4 – 5 เมตร และมีน้ำหนัก 3 – 5 ตัน

​นักล่าก่อนยุคไทรันโนซอรัสแต่ตัวเล็กกว่า อาศัยอยู่ในยุคจูราสสิคเมื่อ 155-145 ล้านปีก่อน ขนาดทั่วไปมีความยาวประมาณ 8.5 เมตร สูงจากพื้นถึงไล่ประมาณ 2.7-3.2 เมตร น้ำหนักเกิน 2 ตัน เหนือหัวของอัลโลซอรัสมีปุ่มเขาขนาดเล็กเหนือดวงตา ขากรรไกรอ้าได้กว้างถึง 92 องศา พร้อมด้วยฟันที่มีลักษณะเป็นใบเลื่อยเรียงรายอยู่ กระโหลกของมันนั้นสามารถรับแรงกระแทกได้มากดังนั้นเมื่อมันล่าเหยื่อมันจะใช้กะโหลกฟาดลงบนตัวเหยื่อคล้ายขวานที่จามลงบนไม้ ร่างกายมีความสมดุลโดยยาวและหางหนัก

​ค้นพบที่ทุ่งราบปาตาโกเนีย ของประเทศอาร์เจนตินา มีเขาอยู่บนหัว 2 เขา เป็นลักษณะที่พิเศษของคาร์โนทอรัส และมีขาหน้าที่สั้นมาก มีขนาดประมาณ 7.5 เมตร หนักประมาณ 2 ตัน ซึ่งถือว่าเบาเมื่อเทียบกับขนาดตัว ซึ่งทำให้มันเป็นไดโนเสาร์ที่ปราดเปรียว และวิ่งเร็วมาก ร่างกายทำงานพร้อมกันจึงทำให้คาร์โนทอรัสตีวงกว้างเหมือนรถยนต์เวลาเลี้ยวเพราะฉะนั้น ถ้าเหยื่อวิ่งโค้งบ่อย ๆ คาร์โนทอรัสจะไล่ตามเหยื่อไม่ทัน สันนิษฐานว่าเขาของมันน่าจะมีไว้เพื่อดึงดูดตัวเมีย

​ไดโนเสาร์กินพืชกลุ่มเซราทอปเชียน ประเภทเซนโทรซอรีน อาศัยในยุคครีเทเชียส 73 ล้านปี เป็นเซราทอปเชียน ขนาดยาว4.8 เมตร สูง1.5 เมตร ลักษณะเด่นของมันคือเขาที่โค้งงอคล้ายเขาวัว และจมูกที่มีขนาดใหญ่ มันยังถือเป็นเซนโทรซอรีนที่เขาเหนือตามีขนาดใหญ่ ถูกพบในชั้นหินไคพาโรวิทซึ่งเป็นชั้นหินที่ศึกษาว่าเป็นที่ลุ่มชื้นแฉะโบราณสันนิษฐานว่านาซูโตเซราทอปส์อาศัยในที่ชื้นแฉะ ตามหนอง บึง ต่างๆ

​ไดโนเสาร์กินพืชลำตัวยาว 30 เมตร สูง 13-15 เมตร หนัก 78 ตันหรือเท่ากับช้างแอฟริกา 15 เชือก อาศัยอยู่ในยุคจูแรสซิก 200-130 ล้านปีก่อน ขุดค้นพบในอเมริกาเหนือและแอฟริกา ลักษณะเด่นคือ บริเวณจมูกบนกระหม่อมมีโหนกยื่นขึ้นมาชัดเจน หางสั้นไม่มีปลายแส้ มีขาหน้าที่ยาวกว่าขาหลัง ทำให้ตัวลาดลงแบบยีราฟ ส่งผลให้ส่วนคอของแบรคิโอซอรัสตั้งชันสูงกว่า ทำให้มันสามารถหาใบไม้บนยอดสูงได้ดีกว่าพวกอื่น และมีประโยชน์ในการมองเห็นไดโนเสาร์กินเนื้อแต่ไกล

​ชื่อของมันถูกตั้งอิงมาจากชื่อเทพเจ้าแอซเท็ก (Aztec) ที่มีรูปลักษณ์เป็นงูยักษ์บินได้ ประเมินว่าเมื่อยืนบนพื้นมันสูงได้ถึง 3.66 เมตร ปีกแต่ละช้างเมื่อกางออกมีความยาว 6 เมตร มีกระดูกแขนแข็งแรงและมีสันกระดูกที่ให้กล้ามเนื้อยึดเกาะ ประกอบกับกระดูกอกขนาดใหญ่ ก็ไม่มีใครสงสัยเลยว่ามันสามารถบินได้อย่างทรงพลัง ในขณะที่กะโหลกยาว 1.2 เมตร ไม่มีฟันแต่มีสันบนหัว ตั้งบนช่วงคอยาว 1.8 เมตร แต่มีขายาวแค่ 1.8 เมตร ทำให้มันต้องยืนบนพื้นด้วยเท้าทั้งสี่ มันเดินด้วยการยื่นแขน (ปีก) ไปข้างหน้า หรือด้านข้างเท่านั้น ไม่สามารถงอแขนมาข้างหลังได้ และเพื่อไม่ให้สะดุด มันต้องก้าวแขน ตามด้วยขาข้างเดียวกันก่อน และเมื่อต้องการบินขึ้นจากพื้น ดูเหมือนว่ามันจะใช้ขาหลังกระโดดส่งตัวขึ้นไปจนสูงพอกางปีกที่พับไว้เพื่อโผบินขึ้นจากพื้น และเมื่อลงพื้นก็จะใช้มือยันพื้น ก่อนที่จะยืนด้วยเท้าทั้งสี่อีกครั้ง

​ไดโนเสาร์ที่มีชีวิตอยู่ ในยุคครีเตเชียสตอนปลายพบได้ในทวีปอเมริกาเหนือ ลักษณะเด่นของพาราซอโรโลพัส คือ หงอนที่มีลักษณะเหมือนท่อกลวงยาว บางตัวอาจจะมีหงอนยาวถึง 1.5 เมตร มีไว้ส่งเสียงหาพวก สามารถเดินได้ทั้ง 2 เท้าและ 4 เท้า มีขนาดใหญ่โตพอสมควร เท่าที่ค้นพบไดโนเสาร์พันธุ์นี้จะมีความยาวประมาณ 10 เมตร กินพืชเป็นอาหารและโหนกนี่เองสะท้อนว่าพวกมันเป็นสัตว์สังคมที่ชอบอยู่กันเป็นฝูง ที่เห็นในจอที่อยู่รวมกันแล้ววิ่งกันเหมือนม้าน่ารักน่าชังนั่นเอง

เชิญร่วมสัมผัสความมหัศจรรย์ของดินแดนไดโนเสาร์โลกดึกดำบรรพ์ได้ในงาน THE MALL BANGKAE JURASSIC MANIA ระหว่างวันที่ 11 ส.ค. 65 – 4 ก.ย. 65 ที่บริเวณ MALL PARC ชั้น G หน้าศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางแค ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.themallgroup.com, www.themall.co.th, www.mcardmall.com และFacebook : The Mall Thailand