Digiqole ad

เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าโครงการ THE MALL GO GREEN ตามหลัก BCG และ ESG

 เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าโครงการ THE MALL GO GREEN ตามหลัก BCG และ ESG
Social sharing
Digiqole ad

เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าโครงการ THE MALL GO GREEN ตามหลัก BCG และ ESG พร้อมร่วมสนับสนุน SET สานต่อโครงการ CARE THE WILD ปลูกป้อง PLANT & PROTECTทำกิจกรรม ปลูกต้นไม้ให้ได้ผืนป่า เนื่องในวันโอโซนโลก 16กันยายน 2565

เดอะมอลล์ กรุ๊ป GREEN RETAIL แห่งแรกของประเทศไทย ตอกย้ำการเป็นองค์กรทีขับเคลื่อยุทธศาสตร์แห่งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เดินหน้าโครงการ THE MALL GO GREEN โดยยึดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs), แนวทางพัฒนา BCG (Bio-Circular-Green Economy) และ ESG (Environment-Social-Governance) ล่าสุดร่วมสนับสนุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สานต่อโครงการ CARE THE WILD ปลูกป้อง PLANT & PROTECTส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อเป้าหมายลดภาวะโลกร้อน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยร่วมกันจัดกิจกรรม ปลูกต้นไม้ให้ได้ผืนป่า” เนื่องในวันโอโซนโลก 16 กันยายน 2565 ป่าชุมชนบ้านนาหวาย
.นาหมื่น .น่าน  เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ฟื้นฟูระบบนิเวศแหล่งต้นน้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์พร้อมสร้างแหล่งอาหารสร้างรายได้แก่ชุมชนให้อยู่ร่วมกันกับป่าอย่างยั่งยืน

คุณณัฐศมน  วงศ์กิตติพัฒน์  ผู้อำนวยการใหญ่การตลาด บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในฐานะ GREEN RETAIL แห่งแรกของประเทศไทย ที่ได้ร่วมเป็นภาคีสมาชิกของ CLIMATE NEUTRAL NETWORK โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) เดินหน้าโครงการ THE MALL GO GREENมุ่งสู่เป็นห้างสรรพสินค้าสีเขียว ตั้งเป้าเป็นองค์กรภาคเอกชนที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้สุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral) ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอยู่ที่ 2025% ภายในปี 2573  โดยยึดหลักแนวคิด (Sustainable Development Goals : SDGs), แนวทางพัฒนาBCG (Bio-Circular-Green Economy) และ ESG (Environment-Social-Governance) เป็นหลักในการวางกลยุทธ์ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แห่งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน  และเนื่องในวันโอโซนโลก 16 กันยายน 2565    เดอะมอลล์ กรุ๊ป   ได้ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และพันธมิตรคือ กรมป่าไม้ สานต่อโครงการ CARE THE WILD ปลูกป้อง” PLANT & PROTECT”  จัดกิจกรรม “ปลูกต้นไม้ให้ได้ผืนป่า” จำนวน 30.5 ไร่  รวม 6,100 ต้น ณ ป่าชุมชนบ้านนาหวาย  อ.นาหมื่น  จ.น่าน เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่า ลดความแห้งแล้ง และลดโลกร้อน ซึ่งป่าจะช่วยดูดซับมลพิษ
ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 54,900 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า  อีกทั้งยัสร้างแหล่งอาหาร  รวมถึงจะส่งผลให้ได้ใช้ประโยชน์จากต้นน้ำเพื่อการเกษตรที่สมบูรณ์ สร้างพืชเศรษฐกิจให้ชุมชน สร้างอาชีพจากเกษตรแปรรูป  เช่น มะขามแช่อิ่ม  เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น

สำหรับพันธุ์ไม้ที่ชุมชนบ้านนาหวายเลือกปลูกในป่าชุมชนบ้านนาหวาย อ.นาหมื่น จ.น่าน   แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ไม้ป่ายืนต้น ได้แก่ ไม้ประดู่ ไม้มะค่าโมง ไม้พยุง งิ้วดอกแดง ไม้สัก มะขามป้อม ต๋าว  และ พืชวนเกษตร ไม้ผล ได้แก่ มะม่วง มะขามเปรี้ยวฝักยักษ์ มะม่วงหิมพานต์ไผ่ซางหม่น เงาะ ลิ้นจี่ ลำไย อโวคาโด้ กาแฟ

นอกจากนี้ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ยังได้ดำเนินนโยบายสนับสนุนการช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดการด้านพลังงาน และสิ่งแวดล้อมในกลุ่มอาคาร จนได้รับรางวัลจากโครงการ THAILAND ENERGY AWARDS ต่อเนื่อง 7 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี.. 2558 2564  พร้อมจัดทำโครงการอื่นๆ เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมมชาติอย่างยั่งยืน อาทิ โครงการหลังคาสีเขียว กรีนรูฟโปรเจค (GREEN ROOF PROJECT) หรือสวนบนหลังคาช่วยลดความร้อนที่จะเข้ามาในตัวอาคาร และสามารถนำผักที่ปลูกไปแจกจ่ายให้กับพนักงานได้รับประทาน รวมถึงโครงการ การบำบัดน้ำเสียและการรีไซเคิลน้ำ โดยผลิตและ  ตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำให้ได้ตามมาตรฐานน้ำประปาก่อนถึงจะสามารถนำไปใช้งานต่อผ่านการระบบ Flush Valve ของห้องน้ำ รดน้ำต้นไม้ ลานพื้นลานจอดรถ เป็นต้น

เนื่องในวันโอโซนโลก 16 กันยายน 2565 เดอะมอลล์ กรุ๊ป ขอเชิญชวนประชาชนทุกคน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างความยั่งยืนให้กับผืนป่าประเทศไทย ด้วยการรณรงค์ปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว และปกป้องผืนป่า ผ่านโครงการ โครงการ CARE THE WILD  ปลูกป้อง PLANT & PROTECT”  โดยสามารถร่วมปลูกป่าผ่าน APPLICATION CARE THE WILDดาวน์โหลดได้ทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และANDROID ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  www.themallgroup.com , www.themall.co.th

Facebook Comments

Related post