เกมรัฐบาลถังแตก

ในทางการเมืองจะซักฟอกถล่มกันในสภา หรือจะกดดันให้เห็นสภาพรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ก็ว่ากันไปเถอะ

หรือแม้แต่กระทั่งจะมีการออกมาพูดถึงเรื่องการแจกกล้วยระดับหลักแสน หรือการฉีดวัคซีนระดับ 20 – 30 ล้าน ก็ว่ากันไปเถอะ ในเมื่อแม้แต่คนที่มีหน้าที่อย่าง กกต. ยังไม่หือไม่อือ ปล่อยให้ดูด ปล่อยให้ย้ายกันได้สบายใจเฉิบๆ โดยไม่รู้สึกรู้สาเลยสักนิด

ประชาชนจะไปว่าอะไรได้

รวมถึงใครจะเนรคุณ ใครจะอกตัญญู ใครจะทรยศหักหลังทางการเมืองกันอย่างไร ประชาชนก็เบื่อที่จะฟังแล้วเหมือนกัน เพราะหมากัดเจ้าของ เจ้าของตีหมา มันก็เรื่องเจ้าของกับหมานั่นแหละ

แต่ที่ประชาชนเขาอยากฟัง อยากรู้ คือ เมื่อไหร่เขาจะกลับมาลืมตาอ้าปาก มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ ไม่ใช่ต้องมารับบัตรคนจน มารอรับคนละครึ่ง แล้วให้รัฐบาลเอาไปคุยโม้เป็นคุ้งเป็นแควว่าช่วยประชาชนได้สำเร็จ

จะช่วยสำเร็จได้อย่างไรกัน ในเมื่อจากจำนวนบัตรคนจน 14 ล้านใบ อยู่มาวันนี้เพิ่มเป็น 20 ล้านใบ มันชัดเจนอยู่แล้วว่า ยิ่งอยู่นานประชาชนยิ่งจนเพิ่มขึ้น

เหมือนกับคนละครึ่งเฟส 4 เอาไปคุยโวว่าเป็นมาตรการของรัฐที่ประชาชนชื่นชอบ แต่ไม่เคยคิดว่า เพราะข้าวของมันแพงขึ้นพรวดๆ การที่รัฐบาลเอาเงินภาษีมาแจก แล้วมันช่วยให้ซื้อของได้ถูกลงมาได้บ้าง คนก็ย่อมต้องคว้าไว้ก่อน ก็แค่นั้นเอง

รัฐบาลบอกว่าได้ผลดี แต่จากช่วย 1,500 บาท 3 เดือน หดเหลือแค่ 1,200 บาท เพราะรัฐไม่มีเงิน

ทั้งหมดจึงเป็นแค่ประชานิยม แจกเงินเพื่อหวังผลทางการเมืองในอนาคตเท่านั้นแหละ แค่ช่วยให้จ่ายเงินซื้อของน้อยลง แต่ไม่ได้ช่วยให้คนที่ได้คนละครึ่งลืมตาอ้าปากได้เสียเมื่อไหร่

เศรษฐกิจไม่ได้ฟื้น ท่องเที่ยวก็ยังไม่ฟื้น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ออกมาโม้ว่ามีมูลค่ากว่า 1,917.5 ล้านบาท แต่พอดูใส้ใน ประชาชนเป็นฝ่ายจ่าย 1,160.2 ล้านบาท รัฐจ่ายแค่ 698.1 ล้านบาท

ส่วนยอดการใช้จ่ายคูปองมูลค่า 600 บาท ทั้งส่วนของรัฐบาลและประชาชน อยู่ที่ 59.2 ล้านบาท ร้านอาหารในโรงแรม 31.1 ล้านบาท ร้านอาหารทั่วไป 25.2 ล้านบาท สถานที่ท่องเที่ยว 1.9 ล้านบาท ร้านค้าโอทอปได้แค่ 300,000 บาท สปาหรือนวด 180,000 บาท ขนส่งเพื่อท่องเที่ยว 600,000 บาท

นี่คือยอดทั้งประเทศ 77 จังหวัด ถามว่าสุดท้ายแล้ว ธุรกิจ ผู้ประกอบการจะได้กันคนละกี่บาท

ก็เหมือนกับราคาน้ำมันดีเซล ที่มีมติให้ลดภาษีลงลิตรละ 3 บาท แต่แทนที่จะเอาส่วนลดนั้นไปลดราคาขายปลีก กลับเอาส่วนลดนั้นไปเพิ่มเป็นเงินเข้ากองทุนน้ำมัน สุดท้ายก็ยังต้องใช้ดีเซลใกล้ๆ 30 บาทต่อลิตรไปเรื่อยๆ

ในขณะที่ราคาเบนซินปล่อยให้ขึ้นพรวดๆ รีดภาษีกันเต็มเหนี่ยว ไปโปะส่วนที่ต้องตรึงดีเซล

งานนี้คือเกมประคองตัว กลัวม็อบ ของรัฐบาลที่ไม่มีปัญญาหารายได้มาอุดถังแตกนั่นเอง

อัคคี กัมปนาท