Digiqole ad

หอแว่น ลุยเปิด Better Vision Prestige เฟลกชิปสโตร์แห่งแรก ชิงยุทธศาสตร์แข่งขันตอกย้ำผู้นำแว่นสายตา เทคโนโลยีล่าสุด แบบครบวงจร

 หอแว่น ลุยเปิด Better Vision Prestige เฟลกชิปสโตร์แห่งแรก  ชิงยุทธศาสตร์แข่งขันตอกย้ำผู้นำแว่นสายตา เทคโนโลยีล่าสุด แบบครบวงจร
Social sharing

Digiqole ad

นับเป็นอีกก้าวหนึ่งแห่งการตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญเบอร์ 1 ด้านธุรกิจแว่นตา กว่า 70 ปี  “หอแว่น Better Vision” ของการเป็นผู้มีความชำนาญในการตรวจวัดค่าสายตาที่มีคุณภาพสูง แม่นยำใส่แล้วสบายตา ทุกๆ ปี บริษัทมีการลงทุนอย่างมากในเรื่องของนวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ อย่างประเทศ อิตาลี ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เพื่อจะได้มีเทคโนโลยีด้านเครื่องมือในการใช้ตรวจ วัด เพื่อค้นหา ปัญหาสายตาของผู้บริโภคแต่ละรายที่ต้องได้รับการแก้ไขแบบตรงจุด และ แม่นยำไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ “หอแว่น Better Vision” ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างสูงในเรื่องของการเป็นผู้นำเทรนด์ด้านการเลือกเลนส์แว่นตาชนิดต่าง ๆ เช่น เลนส์ progressive เลนส์แว่นตาสำหรับนักเล่นเกมส์ และเลนส์ชนิดอื่นๆ ในอนาคตที่กำลังเดินไปในทิศทางของการเป็นเลนส์พิเศษต่าง ๆ  เพื่อจะสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคแต่ละรายที่มีไลฟ์สไตล์ ที่แตกต่างกันมากขึ้น

ดังนั้นแผนงานของ “หอแว่น Better Vision”  ที่ผ่านมา นอกจากการมีการรีโนเวทภายในร้านสาขาสยามพารากอน ภายใต้คอนเซปต์ใหม่ให้สวยงามดึงดูดมากขึ้น พร้อมนำเข้าเครื่องมือเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างครบครัน เพื่อช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าแล้ว ล่าสุด คุณวรธัช สิริพันธุ์ Chief Operating Officer บริษัท วิชั่น เวนเจอร์ส จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจ หอแว่น Better Vision” เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการต่อยอดธุรกิจของ “หอแว่น Better Vision ” ไปสู่การเป็นร้านแว่นตาเฟลกชิป สโตร์แห่งแรกในประเทศไทย ที่มีชื่อว่า “Better Vision Prestige” เพื่อจะใช้เป็นโชว์รูม หรือ ศูนย์แว่นตาครบวงจรในทุกๆ ด้าน ณ Erawan Bangkok ชั้น 4 บนพื้นที่กว่า 400 ตารางเมตร เพื่อให้ลูกค้าสามารถได้รับประสบการณ์การเลือกแว่นและการวัดสายตาที่มีคุณภาพ พร้อมดูแลสุขภาพตาด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ดีที่สุด

ขณะเดียวกันยังเป็นการยกระดับประสบการณ์การทำแว่นตาระดับพรีเมี่ยม พร้อมด้วยแบรนด์กรอบแว่นตา luxury และแบรนด์เลนส์คุณภาพสูงครบครัน อาทิ Celine, Loewe, Fendi, Mykita, Moscot, Dita, Bottega, Dior, Cartier และแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมแบรนด์ High Quality Lens เลนส์คุณภาพสูงที่ได้มาตรฐานระดับโลก ที่ถูกคัดสรรโดยตรงจากผู้ผลิตที่เป็นพาร์ทเนอร์หลักทั้งในประเทศและต่างประเทศ  ที่สามารถครอบคลุมการแก้ไขทุกปัญหาสายตา การปกป้องดวงตาจากแสงอันตรายต่างๆ และการออกแบบเพื่อสนองต่อไลฟ์สไตล์ที่ต้องการ

นอกจากนี้ ยังจะเป็นศูนย์รวมแว่นตาที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเครื่องมือที่เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัยใหม่ล่าสุด สำหรับดูแลสายตาทั้งหมดที่สามารถแก้ไขปัญหาสายตาได้อย่างตรงจุดและแม่นยำที่สุด ไม่ว่าจะเป็น Intelligent Refractor รุ่น 6100 (RT-6100) เครื่องตรวจวัดค่าสายตารุ่นล่าสุด ที่ครบถ้วน ละเอียดแม่นยำ และทันสมัยที่สุดจาก Nidek แบรนด์อุปกรณ์ตรวจค่าสายตาระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น มีความแม่นยำที่สุดระดับโลก สามารถวัดค่าสายตาได้สูงสุดถึง +2600, -2600

Virtual Reality (VR) เครื่องมือช่วยวัดพฤติกรรมในการมอง ทดสอบผ่านแว่น Zenos VR ที่สามารถประเมินลักษณะการกรอกตา ความถี่ในการจ้องมอง และพื้นที่การมองเห็นของเฉพาะบุคคล ข้อมูลจาก ZENOS VR ที่ได้จะนำมาเลือกเลนส์ที่เหมาะสมกับการมองเห็นมากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นความพิเศษของ ZENOS VR คือหากลูกค้าที่มีปัญหาสายตายาวตามอายุ (Presbyopia) ข้อมูลที่ตรวจวัดจะสามารถนำไปออกแบบเลนส์ Progressive รุ่นพิเศษที่จะได้มุมมองแบบเฉพาะบุคคลอย่างสูงสุด ที่ชื่อรุ่นว่า ZENOS PRO

เครื่อง AR วัดค่าพารามิเตอร์ ประโยชน์เพื่อการค้นหาจุดโฟกัสตาของแต่ละบุคคล เพราะขนาดที่แตกต่างนี้จะทำให้แว่นขณะที่สวมใส่มีมุมองศาแตกต่างกัน ส่งผลถึงคุณภาพของการมองเห็นนั่นเอง โดยค่าพารามิเตอร์ของแว่นจะประกอบไปด้วย ค่าความโค้งหน้าแว่น มุมเทหน้าแว่นขณะสวมใส่ ระยะห่างระหว่างผิวเลนส์กับกระจกตา และค่าจุดกลางตาดำถึงขอบล่างของแว่น ความแม่นยำของทั้ง 4 ค่านี้จะส่งผลให้สามารถตัดแว่นตาที่สวมใส่ได้อย่างสบายตาและเหมาะสมกับใบหน้ามากที่สุด

เครื่องมือฝนเลนส์ Nidek ME-1500 และ Nidek Ice-1500 ด้วยเทคโนโลยีที่ครอบคลุมการตัดขอบเลนส์อย่างเชี่ยวชาญ สามารถเจาะรูด้วยรูปทรงต่าง ๆ แบบ 3D ตัดและฝนขอบอัตโนมัติ เป็นเทคโนโลยีช่วยให้การประกอบเลนส์ทำได้สะดวกและง่ายดายมากขึ้น

ขณะเดียวกัน เฟลกชิปสโตร์แห่งแรก “Better Vision Prestige” ณ Erawan Bangkok ยังมาพร้อมกับทีมงานด้านต่างๆ เกี่ยวกับการดูแลสายตาอย่างครบวงจร เพื่อต้องการได้รับประสบการณ์การเลือกแว่นสายตาแบบมีความส่วนตัว ได้รับการดูแลเอาใจใส่ตั้งแต่เดินเข้ามาภายในร้าน ตั้งแต่การสอบถามประวัติ ปัญหาสายตา ลักษณะการใช้งานแว่นตา เพื่อแนะนำการตัดแว่นและเลือกเลนส์ที่เหมาะสมตามไลฟ์สไตล์และปัญหาด้านสายตาของลูกค้า ผ่านการดูแลของทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านเพื่อให้บริการที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็น นักทัศนมาตร (Optometrist) ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านสายตาและระบบการมองเห็น เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขปัญหาสายตาที่เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อตา เช่น สายตาสั้น ยาว เอียง สามารถคัดกรองตรวจสายตาและสุขภาพตาเบื้องต้น เพื่อส่งต่อคนไข้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพตาหรือโรคตาให้กับจักษุแพทย์ให้คำปรึกษาต่อไป

สำหรับ จักษุแพทย์ (Ophthalmologist) ในเฟลกชิปสโตร์อย่าง “Better Vision Prestige” จะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโรคทางดวงตาเบื้องต้นและให้คำแนะนำการดูแลสายตาทั้งหมด เช่น ตาแห้ง โดยมีช่วงเวลาที่ลูกค้าสามารถนัดพบจักษุแพทย์ได้ใน วันศุกร์ 17.00-20.00 น. วันเสาร์ 13.00-17.00 น. และวันอาทิตย์ 13.00-17.00 น. หรือขอนัดเวลาเฉพาะที่นอกเหนือจากเวลาทำการปกติได้ รวมถึงยังมี BVAX Master (Optician) ผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาที่มีประสบการณ์ในการทำแว่นมากกว่า 5 ปี ผ่านการอบรมจากหลักสูตร BVAX Academy ของหอแว่น จึงมีความเชี่ยวชาญในการตัด ประกอบ วัดจุดโฟกัส รวมทั้งปรับและดัดแว่น เพื่อให้ลูกค้าได้สวมใส่แว่นตาที่สบายตาที่สุด

ที่สำคัญสุดของ เฟลกชิปสโตร์ แห่งนี้ ยังมี Fashion stylist เพื่อช่วยแนะนำกรอบแว่นให้เข้ากับสไตล์ที่ลูกค้าต้องการ โดยคำนึงถึงการใช้งานที่เหมาะสม กรอบแว่นจึงต้องเข้ากับทรงหน้าและเหมาะกับเลนส์ที่เลือกใช้ เพราะสิ่งนี้เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าสวมใส่แว่นได้สบาย และมั่นใจในลุคของตัวเอง นับเป็นการสร้างความแตกต่างท่ามกลางการแข่งขันของธุรกิจแว่นตาในประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้น เนื่องจากประเทศไทยก้าวสู่ความเป็นสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น ประกอบกับไลฟ์สไตล์คนหันมาจ้องจอมือถือมากขึ้น อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แว่นสายตายังมีความต้องการในตลาดที่สูงมากขึ้น

รวมถึงคู่แข่งที่ขายผ่านออนไลน์ก็มีมากขึ้น ดังนั้นการขยายธุรกิจมาสู่การเปิดเป็นเฟลกชิปสโตร์ ครั้งนี้  ของ “Better Vision Prestige”  จึงเป็นการเข้ามาเพื่อเปิดให้เห็นถึงศักยภาพอย่างเต็มประสิทธิภาพของการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับการตรวจวัดสายตาที่แม่นยำ สามารถแก้ไขปัญหาสำหรับผู้มีปัญหาทางสายตาได้อย่างตรงจุด ที่บริษัทมีเป้าหมายต้องการให้ผู้บริโภคสามารถเข้ามาสัมผัสและจับต้องได้จริงเกี่ยวกับความเป็นผู้นำด้านนี้ของบริษัท

อย่างไรก็ดี ยุทธศาสตร์ที่บริษัทเลือกเปิดเฟลกชิปสโตร์แห่งแรก “Better Vision Prestige” ณ Erawan Bangkok เพราะทำเลตรงนี้ถือว่าอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ที่นอกจากเดินทางสะดวกแล้วยังเป็นแหล่งของนักท่องเที่ยว จำนวนมาก มีนักธุรกิจ กลุ่มคนวัยทำงาน และวัยรุ่น ที่ค่อนข้างมีกำลังการซื้อที่สูง นอกจากนี้ ทางพื้นที่ภายในของศูนย์การค้า Erawan Bangkok ก็กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงให้กลายเป็นศูนย์การค้าชั้นนำระดับพรีเมี่ยมแบรนด์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และลูกค้าต่างๆ มากขึ้น ดังนั้นการมาเลือกเปิดในพื้นที่แห่งนี้ จึงมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างยอดขายการเติบโตได้อย่างมากตามเป้าที่วางไว้ในปีแรก เป็นหนึ่งในสามสาขาที่ยอดขายสูงที่สุด

ประกอบกับที่ “Better Vision Prestige”  ณ Erawan Bangkok เฟลกชิปสโตร์ แห่งนี้ คุณวรธัช สิริพันธุ์ กล่าวเสริมว่า จะใช้เป็นพื้นที่จัดงาน Event เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของ หอแว่น Better Vision ให้กับลูกค้าได้เข้ามาสัมผัสแบบ Exclusive มากขึ้นอีกด้วยในปี 2567 นอกจากนี้ทางด้านแผนงานปีข้างหน้านี้บริษัทจะรุกตลาดมากขึ้นทั้งในส่วนของการทำตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ และทำ Social Media มากขึ้น เนื่องจากบริษัทมีความพร้อมแล้วที่จะทำให้ผู้บริโภครู้จักกับบริษัทมากขึ้นในฐานะของความเป็นผู้นำเรื่องนวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัยและการเป็นผู้ที่มีความชำนาญในการตรวจวัดค่าสายตาที่มีคุณภาพสูง แม่นยำใส่แล้วสบายตา

หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทได้ปูพื้นเตรียมความพร้อมมาครบแล้ว ทั้งในเรื่องการรีโนเวท ร้านหอแว่น Better Vision ตามศูนย์การค้าแห่งต่างๆ ตลอดช่วงปีที่ผ่านมา และการมาเปิดเป็น เฟลกชิปสโตร์ แห่งแรก เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้ามารับประสบการณ์ได้จริง เพื่อให้เกิดการบอกต่อถึงประสบการณ์ที่เป็นแบบ Exclusive ไปสู่ลูกค้าคนอื่น ๆ มากขึ้น จากเดิมปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าเดิมที่มาเลือกใช้บริการร้าน “หอแว่น Better Vision” ไม่ต่ำกว่าหลักแสนคน ต่อปี

ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ Better Vision Prestige ได้ที่  :

IG: https://go.horwan.com/PrestigeIG

FB: https://go.horwan.com/PrestigeFB

Line:https://go.horwan.com/PrestigeLine

 

 

Facebook Comments


Social sharing

Related post