
หยุดพูด..ตามยุทธศาสตร์เขาเตือนไว้


“ฉลาดพูด ไม่พูดฉลาดกว่า”
ผลพวงของ “โน้ส-อุดม แต้พานิช” ที่ท้วงติง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ดูเหมือนคล้อยตาม มีการลดบทบาท ไม่เป็นนักพูด-นักเจรจา
ที่ “พล.อ.ประยุทธ์” รูดซิปปาก ปิดขากรรไกรลิ้น ไม่ตอบเรื่องการเมือง เพราะหันไปโฟกัสเรื่องการทำงาน ไม่ใช่ลดหน้าที่ตัวเอง เพื่อให้ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ เป็นดาวเด่นช่วงปลายรัฐบาล
ได้รับ “อานิสงส์” จาก “เดี่ยว ๑๓” ที่ได้ตอกย้ำเอาไว้ว่า “ฉลาดพูด ไม่พูดฉลาดกว่า” ดังนั้น “พวกหิวแสง” ชอบรับหน้าแข้งทั้งหมัดและเท้า เห็นประโยชน์จากคำกล่าวเตือน ของ “โน้ส-อุดม” กันหรือไม่ บางคนยังยอมรับ
คำเตือนไม่เป็นโทษ..พวกเชลียร์ไร้ประโยชน์ รู้ไว้หน่อย-ก้อดีนะครับ
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“ฟ้องกันดะ”
ได้ “รับอนุญาต” จาก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” มาฟ้องร้อง-กันหรือเปล่าล่ะจ๊ะ
“พล.อ.ประยุทธ์” เป็น “ข้าราชการการเมือง” เป็น “บุคคลสาธารณะ” ย่อมถูกสะกิด สะเกา สะง่อม กันตามเอกสิทธิ์ของเสรีประชาธิปไตย
“พวกหิวแสง” เรียกหน้าแข้งเข้ายอดอกตัวเอง เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนอื่น ที่เขาพูดความจริง ให้คนฟังทั้งแผ่นดินได้รู้..การ “ขี่ม้าสามศอก” ไปแจ้งความนั้น ได้รับอนุญาตจาก “พล.อ.ประยุทธ์” มาหรือไม่
ตัวเองไม่เสียหายสักนิด.. ไม่ควร “ใช้สิทธิ์” ที่เขาไม่เคย-มอบมาให้
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“เราไม่สนับสนุนความรุนแรง”
“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ก่อนให้คนอื่นชะโงกดูเงานั้น “ความรุนแรง” ที่ฆ่ากันกราดเมืองหลวง ใจกลางกรุงเทพมหานคร อย่าเพิ่งมาเน้นตอนนี้ กันอย่าง-จะแจ้ง
ที่ต้องย้ำเตือน เสมือนให้ต้องจดจำกันอย่างขึ้นใจ เป็น “หน่วยรบ” ที่อยู่ในสังกัด “รัฐบาล” และ “ระบอบประยุทธ์” มากกว่า
ส่องด้วยสไนเปอร์ ศีรษะหายไปเป็นแถบ ๆ นั่นเป็นความรุนแรง หนักมาก แรงมาก มากกว่าหมัดที่ชกแหวกอากาศไป อีกทั้งไม่ทำให้มีใครตาย “พล.อ.ประวิตร” ควรเตือนผู้ใต้บังคับบัญชา หยุดใช้ความรุนแรง เสียที
เหตุการณ์ที่หนักหน่วง..ช่วงที่ยิงนกในกรง เตือนมั่ง-ก้อดี
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“อาวุธที่ซื้อกันโครมๆ”
ไม่ได้สร้างให้ “ประเทศไทย” มั่นคง อยู่ดีกินดี ขึ้นมาอย่าง-เหมาะสม
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ต้องรู้และควรเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้ง การเป็น “ผู้นำของชาติ” ไม่อาจหนุนให้ “กองทัพ” เข้มแข็งได้ด้านเดียว เพราะประชาชน และ เศรษฐกิจ จะ “อ่อนยวบยาบ” เดินหน้าไม่ไหว
ต้องยึดนโยบายที่กล่าวไว้ว่า “การสร้างงานเป็นบ่อเกิดแห่งการกินดี อยู่ดีของประชาชน”..ชาวบ้านที่เกิดในยุคประยุทธ์ ดำรงชีพในยุคประยุทธ์ “ไร้งานทำ” เมื่อคลำเงินในกระเป๋า ก็ไม่มีทรัพย์สิน ที่จะอยู่ดีกินดี
มีงานอะไรที่เกิด..เปิดบัญชี แจ้งประชาชน-มั่งก็ดี
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“ตบเด็กเตะหมาท้าผู้หญิงตีป้าเป้า”
คดีหายเข้ากลีบเมฆ เป็นที่สนุกของ “สลิ่มบูด” กลุ่มเขา
นิสิต-นักศึกษา-เยาวชนของชาติ เจ็บฟรี เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในกอไผ่ ..การเร่งดำเนินคดี “ทายาทนายขนมต้ม” วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล ที่เคยเบิร์ดศีรษะ “แรมโบ้”
เป็นการ “เชือดไก่ให้ลิงดู” เพราะ “ทหารเฒ่า” ที่เฝ้าทำเนียบฯ หวั่นใจอยู่แล้ว อาจเกิดการลอกเลียนแบบ จนทำให้ “เสียแมว” ขึ้นมาได้
ปอดกระเส่ากลัวกระทั่งปากกา..ตอนนี้ “กลัวคนกล้า” จะบุกชกหน้า ให้ได้อาย
“กะพรุนไฟ”
๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๕