
สิ้นเกียรติภูมิ

กับการประกาศนโยบายพรรคของแต่ละพรรคการเมืองในเรื่องสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 วันนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทำให้เห็นซึ้งถึงพฤติกรรมการเมือง
สำหรับมติที่ออกมานั้น เชื่อว่าสำหรับผู้ที่ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง สำหรับผู้ที่ติดตามการเมืองมาโดยตลอด คงไม่ได้เป็นที่ผิดความคาดหมายแต่อย่างใด
เพราะหากมีการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับตามใจแป๊ะ ที่เขียนโดยคนชื่อ มีชัย ฤชุพันธุ์ สำเร็จขึ้นมาจริงๆ ถามว่าใครบ้างที่จะเป็นผู้ที่สูญเสียผลประโยชน์
ใครคือผู้ที่จะสูญเสียอำนาจ?
การที่ 250 ส.ว. ปรากฏว่ามีเพียงแค่ 6 คนเท่านั้น ที่มีความกล้าหาญทางการเมือง ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนต่อสังคมว่า เลือกที่จะยืนอยู่ฝั่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือเลือกฝั่งไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ
เป็นความชัดเจนของความกล้ามากกว่าพวกที่หลบเงียบ ซุกตัวอยู่ในเงาของอำนาจ
เพราะไม่ว่าอย่างไร 250 ส.ว.คือผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงกับความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากหากว่าแก้ไขได้ และมีการตัดอำนาจ ส.ว. สำเร็จ นั่นคือการสูญเสียอำนาจ
นายมีชัย จึงได้เขียนกฎหมายเอาไว้ ให้ผู้ที่มีส่วนได้เสียโดยตรงเข้ามาร่วมมีอำนาจในการโหวตด้วย แถมยังมีการระบุจำนวนเอาไว้ด้วยว่าจะต้องมีไม่น้อยกว่า 84 เสียงที่เห็นด้วย จึงจะแก้ไขได้
ไม่รู้เช่นกันว่า การนำความสามารถทางกฎหมายมาใช้ในลักษณะนี้ จนผลออกมาอย่างที่เห็น ได้สร้างความภาคภูมิใจ อิ่มเอมใจ หรือว่ามีความสุขใจมากน้อยเพียงใดสำหรับนายมีชัย
ไม่รู้จริงๆว่าวันนี้ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ สามารถที่จะนอนหลับฝันดีได้หรือไม่จากผลงานการเขียนรัฐธรรมนูญ
บันทึกประวัติศาสตร์การเมืองไทยในครั้งนี้ จึงละเว้นไม่ได้เลยที่จะต้องบันทึกชื่อของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เอาไว้ในความทรงจำและกล่าวถึงในอนาคต
การหาทางแก้ไขรัฐธรรมนูญตามกลไกรัฐสภา ในวันนี้กลายเป็นความตีบตันและยากลำบาก
การทำหน้าที่ของคณะศาลรัฐธรรมนูญ ภายใต้สถานการณ์เหลื่อมล้ำซึ่งอำนาจ ภายใต้ความเข้าใจบริบทของกฎหมายที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ได้ทำให้ความรู้สึกของสังคมที่มีต่อองค์กรอิสระกลายเป็นเครื่องหมายคำถามที่ใหญ่ที่สุด
ไม่รู้เช่นกันว่า การตีความสารพัดจากคำวินิจฉัยที่เกิดขึ้น ได้ทำให้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตระหนักถึงปัญหาความเข้าใจที่แตกต่าง ที่นำมาซึ่งการตีความที่อยู่บนผลประโยชน์และจุดยืนทางการเมืองที่แตกต่างกันออกไปหรือไม่
วันนี้การใช้กฎหมาย การใช้ ส.ส. การใช้ ส.ว. เป็นกลไกในการสืบทอดอำนาจให้นานที่สุด ได้ทำให้ภาพของคนชื่อ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา”กระดำกระด่างไปหมดแล้ว
ภูวนารถ ณ สงขลา