Digiqole ad

‘สส.อุตรดิตถ์’ หนุนรัฐบาลเดินหน้า ‘ตลาดคาร์บอนเครดิต’ สร้างโอกาสเพิ่มรายได้เกษตรกร ลดการกีดกันสินค้าส่งออก เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

 ‘สส.อุตรดิตถ์’ หนุนรัฐบาลเดินหน้า ‘ตลาดคาร์บอนเครดิต’ สร้างโอกาสเพิ่มรายได้เกษตรกร ลดการกีดกันสินค้าส่งออก เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)
Social sharing

Digiqole ad
‘สส.อุตรดิตถ์’ หนุนรัฐบาลเดินหน้า ‘ตลาดคาร์บอนเครดิต’ สร้างโอกาสเพิ่มรายได้เกษตรกร ลดการกีดกันสินค้าส่งออก เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)
.
1. นายรวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศวิสัยทัศน์ Thailand Vision ‘IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง’ ว่า รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ได้ตั้งเป้าหมายการนำประเทศไทยไปสู่ศูนย์กลางทางการเงิน (Financial Hub) เปลี่ยนให้ไทยเป็น Financial Center of Southeast Asia ขับเคลื่อนโดยระบบการเงินที่แข็งแกร่ง ด้วยการดึงสถาบันการเงินระดับโลกเข้ามาลงทุน สร้างย่านการเงิน Wall Street ของอาเซียนให้เกิดขึ้นในประเทศไทย และพัฒนา Infrastructure รองรับระบบการเงินแห่งอนาคต ปลดล็อก Digital Asset ต่างๆ ให้สามารถแปลงเป็นผลผลิตในโลกแห่งความเป็นจริง รวมถึงเชื่อมต่อระหว่างสินทรัพย์ในโลกปัจจุบันให้มาอยู่บนโลกดิจิทัล โดยมีแนวทางที่จะพัฒนาระบบการเงินเพื่อความยั่งยืน Carbon Credit Trading ซึ่งเรื่องนี้ในอนาคตจะมีความสำคัญมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีหน่วยงาน กฎระเบียบ รองรับการก้าวไปสู่ยุคการเงินสมัยใหม่
.
2. นายรวี กล่าวว่า การพัฒนาตลาดคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit Trading) ควบคู่กับตลาดทุน จะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มโอกาสทางรายได้ของเกษตรกรไทย และในขณะเดียวกันจะมีส่วนช่วยลดการกีดกันสินค้าส่งออกไทยในอนาคต
.
3. นายรวี มองว่า การได้มาซึ่งคาร์บอนเครดิตมี 3 กลไกที่รัฐบาลมุ่งเน้นได้แก่ 1) เพิ่มพื้นที่ป่าดูดกลับก๊าซคาร์บอน , 2) ชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนด้วยคาร์บอนเครดิต และ 3) การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน เช่นการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยกลไกแรกเกษตรกรสามารถนำพื้นที่เพาะปลูกของตนเองที่ผ่านเกณฑ์รับรองเข้าร่วมโครงการคาร์บอนเครดิตและนำเครดิตไปขายในตลาดคาร์บอนเครดิต Carbon Credit Trading ซึ่งนับเป็นรายได้เสริมที่เกษตรกรสามารถทำได้โดยไม่กระทบกิจกรรมทางการเกษตรของตนเอง
.
4.“กลไกคาร์บอนเครดิตจะช่วยให้ผู้ผลิตและส่งออกไทยสามารถเตรียมความพร้อมรับมือกับการกีดกันทางการค้าผ่านการปล่อยคาร์บอนที่เริ่มเกิดขึ้นแล้วในหลายๆ ประเทศแถบยุโรป โดยประเทศไทยมีความพร้อมและศักยภาพในการพัฒนาตลาดคาร์บอนเครดิต เนื่องจากพื้นที่การเพาะปลูกป่าคาร์บอนที่มีจำนวนมากและมีหน่วยงานอย่างองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ‘Thailand Greenhouse Gas Management Organization (Public Organization)’ รองรับ นอกจากจะเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ตลาดคาร์บอนเครดิตจะมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวนำโลกในด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ด้วย” สส.อุตรดิตถ์ กล่าวย้ำ
ที่มา : เพจพรรคเพื่อไทย
Facebook Comments


Social sharing

Related post