Digiqole ad

“สส.พรรคเพื่อไทย” ร่วมอภิปรายในญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องให้สภาผู้แทนราษฎรให้ข้อเสนอแนะแก่รัฐบาลเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาความรุนแรงในโรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด

 “สส.พรรคเพื่อไทย” ร่วมอภิปรายในญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องให้สภาผู้แทนราษฎรให้ข้อเสนอแนะแก่รัฐบาลเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาความรุนแรงในโรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
Social sharing

Digiqole ad
สส.พรรคเพื่อไทย นำโดย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ ร่วมอภิปรายในญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องให้สภาผู้แทนราษฎรให้ข้อเสนอแนะแก่รัฐบาลเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาความรุนแรงในโรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุดว่าปัญหาความรุนแรงในสถานศึกษาเป็นปัญหาเร่งด่วนและสำคัญ ที่ทุกภาคส่วนจะต้องเข้ามาร่วมป้องกัน ตั้งแต่พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู สถานศึกษา รวมถึงตัวของเด็กนักเรียนเอง ซึ่งเราในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ เราต้องทำความเข้าใจเด็กผ่านมุมมองแบบเดียวกับเขา เพื่อเข้าใจความรู้สึก ปัญหา และความต้อการที่แท้จริงของเขา เพราะเด็กคือบุคคลอ่อนประสบการณ์และมีทักษะการใช้ชีวิตที่น้อยกว่า การมุ่งมองแต่บทลงโทษด้วยความกลัวอาจยิ่งทำให้การแก้ปัญหาผิดพลาดหนักขึ้น รวมถึงที่สุดแล้ว ความรักและความเข้าใจภายในครอบครัวรวมถึงการดูแลอย่างใกล้ชิดจะเป็นภูมิป้องกันภัยให้กับเด็กนักเรียนและลูกหลานได้ดีที่สุด
.
[ทุกฝ่ายต่อมีส่วนร่วมในการแก้ไขและป้องกันเหตุความรุนแรงในโรงเรียน]
.
นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. กทม. กล่าวว่า ทุกคนต้องร่วมกันหาแนวทางป้องกันและแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงอีกครั้ง จากรายงานของโครงการติดตามสภาวการณ์เด็กและเยาวชนรายจังหวัดที่สำรวจเยาวชน 150,000 รายทั่วประเทศ พบว่าประมาณ 1 ใน 10 คนตกอยู่ภายใต้วังวนของการใช้ความรุนแรง และที่ผ่านมาเราได้เผชิญเหตุการณ์ อาทิ การกราดยิงในห้างสรรพสินค้าเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2566 เหตุการณ์ที่นักเรียนหญิงถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยตำรวจ รวมไปถึงเหตุการณ์ครูเวรถูกทำร้ายภายในโรงเรียน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พยายามแก้ไขผ่านการยกเลิกครูเวรในเวลาต่อมา โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความรุนแรงจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต
.
ทุกภาคส่วนมีความสำคัญในการป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ ตั้งแต่ผู้ปกครอง พ่อแม่ ครอบครัว ครู และสถานศึกษา ผู้ปกครองอาจต้องคอยสังเกตบุตรหลานอยู่เสมอ ครูต้องดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด คอยสังเกตพฤติกรรมที่ผิดสังเกตของนักเรียน เมื่อพบว่าเยาวชนมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป การพูดคุยและการให้ความใส่ใจเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้ จากการศึกษาของจุฬาฯ ได้แนะนำถึงวิธีในการลดความรุนแรงในสถานศึกษา อาทิ การเปลี่ยนแปลงค่านิยมที่เกี่ยวกับการใช้ความรุนแรง การปลูกฝังการเคารพศักดิ์ศรีของบุคคลอื่น การส่งเสริมความมั่นคงระหว่างเด็กและพ่อแม่ การพัฒนาทักษะการใช้ชีวิตของเด็กและเยาวชน ไปจนถึงการเสริมสร้างลักษณะนิสัยให้เห็นถึงอันตรายจากการใช้อาวุธ ด้านภาครัฐมีหน้าที่ต้องช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ประสบความรุนแรง เชื่อว่าหากเยาวชนมีพื้นฐานที่ดี เขาจะมีความเข้าใจว่า ความรุนแรงไม่สามารถเป็นทางออกของปัญหาใดๆ ได้
.
พรรคเพื่อไทยรับทราบปัญหานี้เป็นอย่างดี เราทราบว่าเยาวชนประสบปัญหาสุขภาพจิตมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 หนึ่งในนโยบายจากพรรคเพื่อไทย คือ ‘สุขภาพจิตของคนไทยจะไม่ถูกละเลย’ โดยจะมีการให้คำปรึกษาจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา และที่เราเสริมเข้ามาในตอนนีั้ คือการให้คำปรึกษาผ่านการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) รัฐบาลกำลังเร่งพัฒนาและเพิ่มจำนวนของนักจิตวิทยาให้เพียงพอ นอกจากนี้ กระทรวงศึกษามีสายด่วนให้คำปรึกษา หมายเลข 1579 แต่ถ้าหากเป็นเรื่องของพฤติกรรมก้าวร้าวของเด็กหรือการที่ผู้ปกครองมีการใช้ความรุนแรงต่อนักเรียน สามารถโทรสายด่วน หมายเลข 1300 ได้
.
“ในโซเชียลมีเดีย มีการถกเถียงเกี่ยวกับการปรับอายุเยาวชนที่ทำความผิดที่ควรลดลงจากปัจจุบัน และการที่โรงเรียนจะมีการตรวจอาวุธนักเรียน ซึ่งมุมหนึ่งอาจลิดรอนสิทธิ แต่ในอีกด้านก็มีความจำเป็น จึงมีความจำเป็นต้องมีการหารือในประเด็นเหล่านี้ เพื่อหาแนวทางป้องกันต่อไป ถึงเวลาแล้วที่พวกเราทุกคนจะต้องหยุดความรุนแรงในโรงเรียน สร้างพื้นที่โรงเรียนให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน” สส.กทม. กล่าว
.
[เข้าใจเด็ก เพื่อเข้าใจปัญหาและวิธีแก้ไข]
.
นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่าภายหลังเกิดเหตุการณ์รุนแรงกับเด็ก ก็เริ่มมีการพูดถึงความพยายามที่จะแก้ไขหรือยกเลิกกฏหมายเยาวชน โดยการใช้รากฐานความคิดมาจากการใช้ความกลัวครอบงำเพื่อไม่ให้เด็กกระทำผิด หรือมีการเสนอรูปแบบการลงโทษอื่น ซึ่งเราต้องไม่ลืมว่า เขาเป็นเด็กที่ยังไม่ได้รับรู้และเข้าใจโลกหรือไม่ได้มีประสบการณ์เท่ากับผู้ใหญ่ การใช้ความกลัวต่อบทลงโทษมาใช้กับเขาอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ในแบบที่คิด
.
แต่สิ่งที่ควรทำคือ ผู้ใหญ่อย่างเรา ต้องทำความเข้าใจเด็กเหล่านั้น ผ่านมุมมองแบบเขา เพื่อให้เราเข้าใจเขา เข้าใจปัญหาและความต้องการของเขา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา
.
เด็กเป็นวัยที่ต้องการได้รับความยอมรับ มีความคึกคะนอง การยอมรับของเด็กกลุ่มนี้อาจหมายถึงความท้าทายเราก็ต้องศึกษาและสื่อสารถึงความท้าทายที่พอเหมาะพอควรให้เขาได้เข้าใจ และไม่นำไปก่อความเสียหายแก่ตนเองผู้อื่น
.
“นอกจากการป้องกันแล้ว กรณีของบทลงโทษหากมี ก็ควรต้องลงโทษเพียงพอต่อสัดส่วนโทษที่ก่อเหตุ รวมถึงเข้าถึงการฟื้นฟูเยียวยาพฤติกรรมเพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำ รวมถึงติดตามประเมินผลอย่างรัดกุมและระมัดระวังอีกด้วย” นางสาวขัตติยา กล่าว
.
[ใช้เทคโนโลยีเสริมสร้างความปลอดภัย]
.
นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย อภิปรายการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่จะเป็นเครื่องมือช่วยป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวในเวลากลางคืน การตรวจเช็คอาวุธอันตรายก่อนเข้าโรงเรียน การใช้โปรแกรมจำลองเหตุการณ์เพื่อฝึกฝนให้ทั้งครู บุคลากร และนักเรียน ได้ฝึกและพร้อมรับมือเมื่อเกิดสถานการณ์จริง ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ต้องเพิ่มบุคลากรรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น แต่ให้เสริมและพัฒนาบุคลากรที่มีอยู่แล้ว เพิ่มเติมหลักสูตรรักษาความปลอดภัย ฝึกฝนทักษะเพื่อสามารถรับมือสถานการณ์เบื้องต้นได้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะมาถึง
.
“ความรุนแรงในโรงเรียนไม่สมควรจะมีอีกแล้ว ถึงเวลาที่ต้องยกระดับความปลอดภัยในโรงเรียนทั้งในด้านบุคลากรและด้านเทคโนโลยีที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัย และนักเรียนได้เรียนหนังสือเต็มที่ เล่นได้เต็มที่กับเพื่อนของเขาอย่างปลอดภัยจริงๆ” นางสาววิสาระดี กล่าว
.
[ล้อมรักเป็นรั้ว ล้อมครอบครัวด้วยรัก]
.
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ กล่าวถึงแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในสถานศึกษา 5 แนวทาง
.
1. โรงเรียนจะต้องมีแผนเผชิญเหตุ เมื่อเกิดเหตุแล้วต้องรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ต้องซ้อมเหตุการณ์ ต้องแยกผู้ก่อเหตุ ต้องแยกผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากที่เกิดเหตุ
.
2. เปลี่ยนครูแนะแนว เป็นครูแนะนำ เปลี่ยนครูประจำชั้น ให้ดูแลบุตรหลานใกล้ชิดดุจพ่อแม่ โดยร่วมฝึกอบรมและทำงานใกล้ชิดกับกรมสุขภาพจิต
.
3. ต้องต่อต้านการบูลลี่ทุกรูปแบบ การเหยียวผิด เหยียดเพศ ฐานะหรือหน้าตา โดยต้องสร้างความเข้าใจและการเรียนรู้ให้แก่เด็กว่าไม่มีใครจะมีอารมณ์ขันบนความทุกข์ของผู้อื่น
.
4. ล้อมรักเป็นรั้ว ล้อมครอบครัวด้วยรัก เพราะครอบครัวคือหน่วยย่อยที่สุดของความรัก
.
5. มีการถกแถลงกันว่าถึงเวลาหรือยังที่จะลดอายุผู้กระทำผิดที่เป็นเยาวชน แต่แนวทางลดอายุเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ต้นเหตุคือเร่งสร้างวัฒนธรรมการไม่ยอมรับความรุนแรงในทุกรูปแบบ จะเป็นการช่วยแก้ที่สาเหตุอย่างยั่งยืน
ที่มา : เพจพรรคเพื่อไทย
Facebook Comments


Social sharing

Related post