“สว.” คอยหนีบ..เด็ดชีพประชาธิปไตย ให้ตาย??
“รวบอำนาจเอาไว้กิน หมดสิ้น ในกลุ่มเดียว”
อยู่ก็เป็นแค่ “เกือกใต้บู๊ต” ..เมื่อยึดหลักการ ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ “พรรคประชาธิปัตย์-พรรคภูมิใจไทย-พรรคชาติไทยพัฒนา” จะทนเป็นที่รองมือรองเท้าทำไม ให้เขา-ฟัดจมเขี้ยว
ทั้งที่เป็น “นโยบายเร่งด่วน” ของ “รัฐบาลประยุทธ์” ที่ต้องทำตามเงื่อนไข ข้อตกลงจะต้องปฏิบัติ กันอย่างไม่มีโยกโย้ แต่ยังมาเล่นแง่ ให้การแก้ไข “รัฐธรรมนูญ” ทั้งฉบับ โดยมี “สสร.” ที่ประชาชนเลือกตั้งมา ๒๐๐ คน เป็นผู้ยกร่าง..
เมื่อถูก “พลังประชารัฐ” และ “สว.ลากตั้ง” กินภาษีประชาชน แต่ทำตนรับใช้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ อย่างไม่บกพร่อง ..ส่งให้ศาลรับไปวินิจฉัย ทั้งที่มีมติของรัฐสภา เป็นเครื่องหมายการันตี
รัฐสภาเหมือนถูกหนีบ..โดน “สว.ลากตั้ง” ค่อยเด็ดชีพ ให้ตาย-ทุกที
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“คนไทย ๕๑.๔ ล้านคน ต้องจำนนแพ้เสียงเดียวของ นายกฯประยุทธ์”
เป็นการซ่อนรูป เอาพวก “สว.ลากตั้ง ๒๕๐ คน” มาเป็นบัลลังก์ค้ำอำนาจ “ระบอบประยุทธ์” กันอย่างสุด ๆ
ที่ไม่มีแตกแถว ใช้โทนสีเดียวกันอย่างพรึบพรับ.. ก็ “ทหาร ๓ เหล่าทัพ” ลงมติยื้อการแก้ไข “รัฐธรรมนูญ-ทั้งฉบับ” รับทอดกันเป็นชุด ๆ
๗ ปี แห่งรัฐธรรมนูญ-ปราบโกง ..โกงกันจนฟันฟางหัก แต่ก็ตรวจสอบไม่ได้ ..ระบบ “ประชาธิปไตย” สร้างรัฐธรรมนูญเพื่อมาเข่นฆ่า “ผู้เห็นต่าง” ย่อมสร้างความสามัคคี ให้เกิดขึ้นในแผ่นดิน ไม่ได้
ได้อำนาจไปเหลือล้น..แต่ไม่เคยได้ใจประชาชน-คนอะไร
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“เผด็จการ มีกระสุนสังหาร เป็นฐานอำนาจ”
“นายพลอาวุโส มิน อ่อง หล่าย” เดินตะเภาเดียวกัน กลุ่มเดี่ยวกัน พวกเดียวกัน เหมือนกัน กับ “ฮิตเลอร์” เผด็จการจอมขี้ขลาด
ใช้อาวุธ และ หน่วยราชการลับ จัดการเรียบ กับพวกที่ออกมาชุมนุม ด้วยมาตราอุกอาจ
เมื่อวาน สาววัย ๑๙-๒๐ ปี ที่ออกมาร่วมประท้วง ที่เนปิดอว์ ถูกฉีดด้วยน้ำผสมสาร จากนั้นมีเสียงปืนร่างก็ล้มลง..นี่หรือเป็นความยิ่งใหญ่ของเผด็จการ..ที่แน่ๆจุดจบ “ฮิตเลอร์” ยิงสมองตัวเองดับ หนีคำพิพากษาประชาชน
เผด็จการเก่งใช้ปืนไล่ทุบ..พอแพ้หมดรูป ก็ใช้ปืนยิงตัวตาย-ทุกหน
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“เทพเจ้าเมืองใต้ คลายมนต์ขลัง เมื่อถูกเขาลบหลู่”
เหมือนว่า “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะไม่ให้ราคาแก่ “นายหัวชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเคยเป็นนายใหญ่ ในฐานะ “นายกรัฐมนตรี” มาก่อน-เลยล่ะหนู
ทั้งที่ “ประชาธิปัตย์” สั่งสู้และแพ้ไม่ได้ สำหรับการเลือกตั้งซ่อม “สส.นครศรีธรรมราช เขต ๓” ๑ ในฐานที่มั่นเมืองหลวงแดนสะตอ ของ “ปชป.” ที่รักษาฐานที่มั่นมานาน
แต่ด้วยความฮึก ระเริง คึก ลำพองในใจ ว่า “ภาคใต้” นั้น “พลังประชารัฐ” ชิงเก้าอี้ได้มาพวงใหญ่ ยืนตระหง่านสูงเด่นเหนือกว่า “ประชาธิปัตย์” ทำให้ “พล.อ.ประวิตร” สั่งถึง “รัฐมนตรีธรรมมนัส” ต้องชนะศึกนี้ให้ขาด
เลือกซ่อมนี้มีผลกระทบ.. “ปชป.”แพ้เหมือนถูกลบ จบไปทั้ง ๑๔ จังหวัด
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“ไม่จำเป็นต้องใช้วัคซีน เราชนะโควิด-๑๙ หมดสิ้น ด้วยหน้ากาก”
“ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน” โฆษก ศบค. ผลงานเละเป็นโจ๊ก แต่ยัง-พูดมาก
เหมือนจะพาเมืองไทย ห่างไกลจาก “วัคซีนโควิด-๑๙”..บอกเรามีวิธีป้องกันชั้นดี ด้วยการสวมใส่หน้ากาก แมส และล้างมือกันบ่อย ๆ ก็ห่างไกลจากโควิด
คุยน้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง ว่าจะเป็น “ศูนย์กลาง” ในการ “ผลิตวัคซีน” ให้กับ “อาเซียน”..วันนี้ทุกชาติฉีดกันไปหมด..มีแต่ไทย ที่คุยคับลิ้น แต่วัคซีนก็ยังไม่มา..พอไม่มาก็ว่า “วัคซีน”ไม่มีความจำเป็น
อยู่ก็ทำให้ชาวบ้านปวดใจ..เซ็นปลด “ทวีศิลป์” ออกไป -เสียให้กระเด็น
“กะพรุนไฟ”
๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
