![Digiqole ad](http://bangkok-today.com/wp-content/uploads/2024/06/แก้ปัญหาคอม.jpg)
สมิติเวช อัปเดตเทคโนโลยี AI ระดับแอดวานซ์
![สมิติเวช อัปเดตเทคโนโลยี AI ระดับแอดวานซ์](https://bangkok-today.com/wp-content/uploads/2023/12/3_0-3-850x560.jpg)
![Digiqole ad](http://bangkok-today.com/wp-content/uploads/2024/01/Nishikawa_Banner728x90px.gif)
สมิติเวชจับมือโรงพยาบาลซาโน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดส่องกล้องจากประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2557 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจ วินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยโรคระบบทางเดินอาหารแบบครบวงจร โดยปีที่ผ่านมาสมิติเวชมีการแลกเปลี่ยนแพทย์ระบบทางเดินอาหารไปศึกษาดูงานและเรียนรู้เทคนิคด้านการส่องกล้องเพิ่มเติม ณ โรงพยาบาลซาโน ประเทศญี่ปุ่น ทำให้มีผู้ป่วยทั้งชาวไทยและต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นในประเทศไทยให้ความไว้วางใจมากขึ้น
ศ.ดร.นพ.ยาซูชิ ซาโน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลซาโน และผู้อำนวยการสถาบันส่องกล้องระบบทางเดินอาหารจากประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า การส่องกล้องระบบทางเดินอาหารส่วนล่างหรือการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) ได้ถูกใช้เพื่อวินิจฉัยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อย่างแพร่หลายตามคำแนะนำของแพทย์ในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา จากข้อมูลทางสถิติที่ผ่านมาพบว่า อัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นการส่องกล้องลำไส้ใหญ่เพื่อการคัดกรองมะเร็ง จึงมีความจำเป็นต่อการรักษาสุขภาพโดยรวมในโลกปัจจุบัน กรุงเทพฯ ก็เป็นหนึ่งในจังหวัดที่พบผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่จำนวนหนึ่งด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนวิธีคิดของคนไทยที่มีต่อการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ ทำให้การส่องกล้องเป็นเรื่องปกติของการตรวจสุขภาพและไม่ใช่เรื่องที่น่าอายหากเราต้องการจะดูแลสุขภาพของตนเอง
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ระบุว่า โรคมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยและทำให้เสียชีวิตมากกว่ามะเร็งของอวัยวะอื่นๆในร่างกาย มะเร็งบางชนิดมาอย่างเงียบๆ ไม่แสดงอาการแรกเริ่มให้เห็น คือมะเร็งตับอ่อน เพราะอาการเริ่มแรกมักไม่จำเพาะเจาะจง อาจมีเพียงอาการปวดท้อง จนกว่ามะเร็งจะมีขนาดใหญ่จนไม่สามารถผ่าตัดออกได้หรือพบในระยะแพร่กระจายไปแล้ว กว่าจะรู้ตัวก็มักจะสายเกินไป และเนื่องจากตับอ่อนเป็นอวัยวะที่อยู่ลึกภายในช่องท้อง จึงไม่สามารถพบได้จากการตรวจร่างกายทั่วไป ทำให้อัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยโรคมะเร็งตับอ่อนจึงน้อยมากเมื่อเทียบกับผู้ป่วยโรคมะเร็งชนิดอื่นๆ