ศ.สุชาติแปลกใจ!นายกฯ ประกาศนโยบาย“1ข้าราชการแก้ปัญหายากจน1ครัวเรือน” ห่วงมีแต่จะทำให้ประชาชนจนลง
ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนค่อนข้างประหลาดใจที่นายรัฐมนตรี ประกาศนโยบาย “1 ข้าราชการ แก้ปัญหาความยากจน 1 ครัวเรือน”
1.ระบบราชการไทยเป็นระบบเจ้าขุนมูลนาย ที่ทำให้ประชาชนยากจน เป็นการเอาเงินภาษีประชาชนมาเลี้ยงดูตนเอง โดยแทบไม่ได้ผลิตอะไรเลย ในสถานการณ์ปัจจุบันยิ่งแย่หนักขึ้น เรามีรัฐบาลที่ปล้นอำนาจประชาชน ปกครองประเทศโดยขุนนางขุนศึกและนักคอรัปชั่นคิดว่าตนเองเป็นนาย แล้วประชาชนเป็นข้าทาสบริวาร จะแก้ไขปัญหาความยากจนได้อย่างไร
2.รัฐบาลส่งเสริมให้นายทุนใหญ่ๆ ทำการผูกขาดจนร่ำรวยมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เอาภาษีประชาชนไปซื้ออาวุธ เครื่องบิน รถถัง เรือดำน้ำ ดูแลสนามกอล์ฟ ซื้อตู้แช่ไวน์ ทำไอ-โอตรวจสอบประชาชน ทำโฆษณาตนเอง ข้าราชการระดับสูงจำนวนมากกินเงินเดือนประชาชน แต่ไม่มีงานทำ
3.รัฐบาลขุนศึกขุนนาง ทำให้เศรษฐกิจเติบโตต่ำมาก เพราะผู้นำพูดเรื่อยเปื่อย ไม่น่าเชื่อถือ GDP จึงเพิ่มขึ้นเพียงปีละ 2-3% ประชาชนจึงยากจนลงมากมาย จากข้อมูลธนาคารโลก คนไทยที่รายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน (คือรายได้ต่ำกว่า 165-170 บาทต่อวัน) มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 1.5 ล้านคน คือเพิ่มขึ้นจาก 3.7 ล้านคนในปี 2562 เป็น 5.2 ล้านคนในปี 2563 เป็นประเทศเดียวในภูมิภาคที่คนยากจนเพิ่มขึ้น
4.รัฐบาลทำให้ความเหลื่อมล้ำทางฐานะรุนแรงมากเป็นที่ 1 ของโลก คือในปี 2561, CS Global Wealth report รายงานว่า คนไทย 1% ประมาณ 500,000 คน มีทรัพย์สินมากถึง 66.9% ในขณะที่คน 99% มีทรัพย์สินเพียง 33.1% มีคนจนที่สุด 10% ไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย
5.ประเทศไทยมีการคอรัปชั่นเพิ่มขึ้นมาก ใน 180 ประเทศ ดัชนีคอรัปชั่นของไทยเพิ่มขึ้นมาก จากอันดับที่ 59 ในปี 2548 เป็นอันดับที่ 104 ในปี 2563
6.หนี้ครัวเรือนไทยเพิ่มขึ้นเกีอบ 93% ของ GDP แล้ว คือเกือบ 15 ล้านล้านบาท เพราะประชาชนถูกสั่งให้หยุดทำมาหากิน ต้องไปกู้มากินมาใช้ เป็นหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่มีเงินใช้หนี้ และไม่มีเงินมาลงทุนเพื่อฟื้นรายได้
7.รัฐบาลเองก็ยังไปกู้เงินมากมาย จนกระทั่งปัจจุบันภาครัฐเป็นหนี้เกินระดับความยั่งยืน 60% ของ GDP แล้ว อีกไม่นาน รัฐบาลคงไปขึ้นภาษีกับประชาชน เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ หนี้ภาครัฐบาลและหนี้ครัวเรือนรวมกัน สูงกว่า 155 % ของ GDP แล้ว ซึ่งประชาชนจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด รัฐบาลไม่ได้รับผิดชอบอะไร
8.เมื่อผักชีราคาแพง เพราะรัฐบาลปิดตลาดพืชผักผลไม้ ไม่มีที่ขาย จึงปลูกกันน้อยลง รัฐบาลก็เอาที่ดินของรัฐ เอางบประมาณจากภาษีประชาชน ให้ทหารปลูกแข่ง แทนที่จะเอาที่ดินทหาร แบ่งให้ประชาชนทำมาหากิน
9.รัฐบาลปล่อยให้ราคาน้ำมันขายปลีก ขึ้นราคาไปมากกว่า 10 บาท (เทียบกับปีที่แล้ว) ราคาน้ำมันต่างๆ เกินกว่าลิตรละ 35 บาทแล้ว แต่น้ำมันที่พม่านำเข้าจากไทยยังขายลิตรละ 25 บาท เพราะรัฐบาลกำหนดราคาน้ำมันขายให้คนไทย (ราคาไม่รวมภาษี)แพงกว่าราคาน้ำมันส่งออก สหพันธ์การขนส่งทางบกประเทศไทย ได้เรียกร้องให้ตรึงราคาน้ำมันดีเซล โดยขอให้ลดภาษีและต้นทุนปลอมที่ทำให้แพง นายกรัฐมนตรีกลับจะให้รถทหารที่มีไม่กี่คันไปขนส่งแทน ใช้เงินภาษีเติมน้ำมันและค่าเบี้ยเลี้ยง เห็นได้ว่าเรามีผู้นำที่ขาดสติปัญญา ไม่มีความรู้ ตัดสินใจโดยใช้แต่ความรู้สึก ชอบพูดส่งเดชพร่ำเพรื่อ ผู้นำจึงไม่มีเครดิตไม่น่าเชื่อถือ
10. เมื่อเยาวชนและประชาชน เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ เรียกร้องอนาคต รัฐบาลก็เอาระบบ ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล เข้าทำร้ายจับกุมคุมขัง โดยใช้เครื่องฉีดน้ำความดันสูง ใช้แก๊สน้ำตา ใช้กระสุนยาง นับเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม มีการคุมขังเยาวชนและประชาชน โดยยังไม่ได้ตัดสินความผิด ซึ่งขัดกับหลักสิทธิเสรีภาพ ที่รัฐไทยได้ลงนามไว้กับ องค์การสหประชาชาติ “ไม่ควรมีใครถูกลงโทษเพียงเพราะแสดงความคิดเห็น”
11.พวกเราประชาชนไม่ควรคาดหวังให้รัฐบาลขุนศึกขุนนางนายทุนมาทำอะไรให้ เพราะส่วนใหญ่ จะโกงจะเอาเปรียบประชาชนไปจนหมด
12. หากเราอยากได้ประเทศที่ดี อยากให้สังคมมีอนาคตประชาชนมีความใฝ่ฝัน มีการพัฒนาเทคโนโลยี เราต้องมีรัฐบาลมาจากประชาชนทำเพื่อประชาชน ทุกโครงการของรัฐ ต้องให้ประชาชนมีอำนาจตัดสินใจ มีอำนาจตรวจสอบ มีอำนาจซื้อสินค้าบริการในตลาดที่แข่งขัน เฉกเช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค,โครงการคูปองการศึกษาอุดหนุนเงินให้ประชาชนเลือกโรงเรียนได้โดยโรงเรียนรัฐและราษฎร์ ต้องแข่งขันกันจัดการการศึกษาที่มีคุณภาพดี
13. การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยก็เช่นกัน ต้องให้ประชาชนมีอำนาจ มิใช่ให้ สว. ที่แต่งตั้งโดยขุนศึกขุนนางที่ทำรัฐประหารมามีอำนาจ
14. ดังนั้น การลดระบบราชการ ลดการเก็บภาษี เลิกการควบคุมประชาชน ให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ เฉกเช่น นานาอารยประเทศ การมีรัฐบาลของประชาชน จึงจะทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดี มีอนาคต มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ประชาชนจึงจะพ้นจากความยากจน
“ราชการในระบบรัฐประหารโดยขุนนางขุนศึก มีแต่จะทำให้ประชาชนยากจน”
