
วิสาขบูชาปีนี้ 26 พ.ค.64 ตรงกับคืน “เพ็ญพุธ” เกิดยากกับปรากฎการณ์ “จันทรุปราคา” (ราหูอมจันทร์)


“วันวิสาขบูชา” ในปีนี้ ตรงกับวันพุธที่ 26 พฤษภาคม 2564 (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6) โดยมติของสมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ ยกให้วันวิสาขบูชา เป็นมติของสมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ ยกให้วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญสากลของโลก เหตุการณ์สำคัญที่สุดในศาสนาพุทธ 3 เหตุการณ์ด้วยกัน คือ การประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
โดยในค่ำวันพุธที่ 26 พฤษภาคม 2564 จะเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาบางส่วนเหนือฟ้าประเทศไทยเวลา 18.38 น. ถึง 19.52 น. ดวงจันทร์เต็มดวงจะปรากฏเว้าแหว่ง สังเกตได้ด้วยตาเปล่าทั่วประเทศ ซึ่งดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามัวของโลกตั้งแต่เวลา 15.47 น. จากนั้นค่อย ๆ เคลื่อนเข้าสู่เงามืดของโลก เกิดเป็นจันทรุปราคาบางส่วนในเวลา 16.44 น. และเข้าสู่จันทรุปราคาเต็มดวงตั้งแต่เวลา 18.11-18.25 น. แต่ในวันดังกล่าว ในประเทศไทยดวงจันทร์จะโผล่พ้นจากขอบฟ้าเวลาประมาณ 18.38 น. ทำให้ผู้สังเกตในไทยมีโอกาสมองเห็นเป็นเพียงจันทรุปราคาบางส่วนเท่านั้น
ผู้สนใจสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าในทุกภูมิภาคของประเทศ บริเวณขอบฟ้าทางทิศตะวันออก ตั้งแต่เวลา 18.38 น. เป็นต้นไป จะมองเห็นดวงจันทร์ปรากฏเว้าแหว่งบางส่วนและค่อย ๆ ออกจากเงามืดของโลก จนกระทั่งเข้าสู่เงามัวหมดทั้งดวงในเวลา 19.52 น. เปลี่ยนเป็นจันทรุปราคาเงามัวที่สังเกตได้ยาก เนื่องจากความสว่างของดวงจันทร์เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และสุดท้ายดวงจันทร์จะพ้นจากเงามัวของโลกเวลา 20.49 น. ถือว่าสิ้นสุดปรากฏการณ์จันทรุปราคาในครั้งนี้โดยสมบูรณ์
ทั้งนี้ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเกิดจากดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ โคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน มีโลกอยู่กลางระหว่างดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ และเป็นจังหวะที่ดวงจันทร์โคจรผ่านเข้าไปในเงาของโลก ทำให้ผู้สังเกตบนโลกฝั่งกลางคืน ในพื้นที่กว่าครึ่งโลกสามารถมองเห็นดวงจันทร์เว้าแหว่งหายไปในเงามืดแล้วโผล่กลับออกมาอีกครั้ง โดยจะเกิดขึ้นเฉพาะในคืนวันเพ็ญ 15 ค่ำ หรือคืนวันดวงจันทร์เต็มดวงเท่านั้น เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง บางปีอาจมีได้มากถึง 5 ครั้ง