
‘วิรุฬห์’อธ.อัยการคดีพิเศษฟ้องเเล้วคดีรถหรู กลุ่มเอกชน รวม 39 สำนวน เเจ้งสำแดงเท็จเลี่ยงภาษีอากร นำเข้าลัมโบร์กินี เสียหายเกือบ 1,000 กว่าล้านขอยึดรถ ลัมโบร์กินี 39คันมูลค่าเกือบ400 ล้าน ศาลนัดสอบคำให้การ 15 พ.ย.


เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ได้ยื่นฟ้องบริษัท เบนซ์นครินทร์ ออโต้ กรุ๊ป จำกัด กับพวก รวม 10 คน ในคดีเลี่ยงภาษี รถหรู (ลัมโบร์กินี) รวม39 สำนวนในความผิดฐานร่วมกันนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้น ๆ ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ นำพยานหลักฐานเท็จมาแสดงหรือยื่นบัญชีหรือเอกสารอันเป็นเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ตามบทกฎหมาย พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 166, 168, 243, 253 พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27, 115 จัตวา พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 202, 208 พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 มาตรา 165, 167 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ครั้งที่ 6) พ.ศ.2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2498 มาตรา 5, 6, 7, 8, 9 และขอริบรถยนต์หรูของกลาง รวม 39 คัน ขอให้จำเลยทั้งหมดจ่ายสินบนนำจับ แก่สายลับ และให้จ่ายรางวัลการจับกุมแก่เจ้าพนักงานตามกฎหมาย
นายวิรุฬห์ กล่าวต่อว่าเพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการสืบพยานและการพิจารณาของศาลพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ได้รวมฟ้องคดีเดียวกัน เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ. 2939/2566 โดยศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องเเละนัดสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 15 พ.ย.เวลา 08.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับคดีดังกล่าวมีมูลค่าความเสียหายจากการเลี่ยงภาษีอากรรถลัมโบร์กินี39คันทัังสิ้น 895,635,247 บาท โดยรถยนต์ที่ยึดไว้มีมูลค่า397,464,806 บาท โดยภายหลังยื่นฟ้องเเล้วจำเลยได้รับอนุญาตปล่อยชั่วคราว