Digiqole ad

วินทุกเว(ที)..Ways to Win EP:64 : ครูปิ่น-ปิ่นศิริ ศิริปิ่น เล่าเรื่องข้ามากับมูและดวง (5) “ตอน : นักร้องสายประกวดไม่ชวดแชมป์”

 วินทุกเว(ที)..Ways to Win EP:64 : ครูปิ่น-ปิ่นศิริ ศิริปิ่น เล่าเรื่องข้ามากับมูและดวง (5) “ตอน : นักร้องสายประกวดไม่ชวดแชมป์”
Social sharing

Digiqole ad

อีบุ๊กบางกอกทูเดย์รายสัปดาห์ ฉบับที่ ๔๓๓ ระหว่างวันที่ ๒๔ – ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗

หน้า 33 วินทุกเว(ที)..Ways to Win EP 64 : ครูปิ่น-ปิ่นศิริ ศิริปิ่น

ข้ามากับมูและดวง (5)

ตอน : นักร้องสายประกวดไม่ชวดแชมป์

            เปิดประสบการณ์มูและดวงกับวงการประกวด “นางงามและนายแบบ” กับโค้ชทีมวินทุกเวที ท่านอื่น ๆ กันมาแล้ว ถึง 4 ตอน คราวนี้ “ครูปิ่น-ปิ่นศิริ ศิริปิ่น” จะมาเล่าเรื่องมูและดวงของวงการประกวด “นักร้อง” กันบ้าง โดยขอนำเสนอ “เรื่องมู” กันก่อน

สำหรับวงการประกวดร้องเพลง โดยทั่วไปก็คงจะไม่ต่างจากเวทีประกวดอื่น ๆ ที่ต้องไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสถานที่นั้น ๆ อาทิ ถ้าเป็นงานประกวดร้องเพลงในงานวัด ที่เป็นจุดเริ่มต้นของนักร้องมีชื่อเสียงหลายคนมาจากการล่ารางวัลตามงานวัด มักจะไปกราบขอพรจากองค์พระประธานในโบสถ์ที่ชาวบ้านเขานับถือกัน หลวงพ่อนั่น นี่ โน่น ก็ว่ากันไป ในเวทีใหญ่ ๆ และเงินรางวัลล่อใจเป็นจำนวนมาก นอกจากกราบไหว้ขอพรแล้วยังถือโอกาสบนไปด้วย ซึ่งต้องทำการบ้านไปด้วยว่า ถ้าหากประสบความสำเร็จจะต้องบนด้วยอะไร  เช่นว่า พวงมาลัยกี่พวง,ดอกไม้กี่ดอก,ผลไม้กี่อย่าง เป็นต้น  แล้วถ้าหากเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ใช่องค์พระ มักจะมีการบนด้วย อาทิ อาหารคาวหวานกี่สำรับ,เครื่องดื่มกี่ขวด/กี่อย่าง,ผ้า 7 สี,ไข่ต้มกี่ฟอง,ชุดไทยกี่ชุด,รูปปั้นสัตว์กี่คู่ ฯลฯ คิดดูเองแล้วกันว่า หลายวัดดัง ๆ ที่จัดกิจกรรมของวัดบ่อย ๆ โดยเฉพาะการประกวดร้องเพลง จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดให้กราบขอพรและบนบานศาลกล่าวมากมายขนาดไหน

นอกจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนั้น ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเองนับถือ ที่นิยมกันมากคือ “องค์พระพิฆเนศร์” เทพแห่งความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรือง รวมถึง “พ่อปู่บรมครูฤาษีต่าง ๆ” ที่ส่วนหนึ่งเพียงแค่ยกมือไหว้ระลึกถึงก่อนจะขึ้นเวที ส่วนบางคนอารธนาใส่สร้อยห้อยมาเป็นพวงก็มี แต่สิ่งที่ทำเหมือนกันหมดคือ ไหว้หรือกราบเวทีเมื่อถึงคิวตัวเองขึ้นประกวด ซึ่งจริง ๆ แล้วแม้แต่นักร้องอาชีพก็ทำกันแบบนี้ทุกคนก่อนขึ้นเวที

และอีกวิธีที่นิยมกันคือ การขอพรจากนักร้องชื่อดังผู้ล่วงลับไปแล้ว สายลูกทุ่ง อาทิ คุณผึ้ง-พุ่มพวง ดวงจันทร์, คุณแอ๊ว-ยอดรัก สลักใจ และ คุณเป้า-สายัณห์ สัญญา” ส่วนสายลูกกรุง อาทิ คุณสุเทพ วงศ์กำแหงและ คุณสวลี ผกาพันธุ์

จริง ๆ แล้วครูปิ่นคิดว่า การมูคือ การให้ความเคารพและการหาเครื่องยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจ เพื่อก่อให้เกิดพลังบวก พร้อมที่จะทำภารกิจนั้น ๆ ด้วยความมั่นใจ ซึ่งปฏิบัติกันมาทุกยุคทุกสมัย จากรุ่นสู่รุ่น

ต่อมาคือ “เรื่องดวง” ต้องบอกว่า ต่อให้ “เก่ง” แค่ไหนบางครั้งยังต้องแพ้ “คนเก่งและมีดวง” ขอยกตัวอย่างสองนักร้องผู้มากับดวงที่ได้แชมป์เวทีระดับประเทศ

คนแรกคือ ลูกเป็ดขี้เหร่ “คุณหญิง-ศศิวิมล ฉัตรวิไล” นักร้องยอดเยี่ยมจากการเวทีประกวดร้องเพลงถ้วยพระราชทานชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2538 หรือเรียกกันติดปากสั้น ๆว่า KPN AWARD” จากการที่เธอเป็นนักร้องผู้เข้าประกวดติดอันดับสำรองกลายมาเป็นนักร้องที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเฉยเลย เนื่องจากว่า   มี 1 ใน 10 ผู้เข้าประกวดที่จะขึ้นบนเวทีถูกตัดสิทธิ์ออกจากการประกวดในครั้งนั้น เพราะไม่ปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับต่าง ๆ ของกองประกวดที่กำหนดไว้ได้ ส้มจึงหล่นใส่คุณหญิงในบัดดล

หมายเหตุ : ก่อนที่จะมาเป็น KPN AWARD” แต่เดิมนั้นคือ NISSAN AWARD” (สยามกลการ)เวทีที่สร้างนักร้องมีชื่อเสียงมากมาย อาทิ คุณเบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์,คุณอุ้ย-รวิวรรณ จินดา,คุณประเชิญ บุญสูงเนิน (เจินเจิน),คุณเล็ก-อรวี สัจจานนท์,คุณเจี๊ยบ-นนทิยา จิวบางป่า และ คุณตั๊ก-ศิริพร อยู่ยอด ซึ่งครูปิ่นเองก็เป็นครูสอนอิเล็กโทนอยู่ที่โรงเรียนสอนดนตรีสยามกลการ สาขาปทุมวัน มาตั้งสมัยเป็นนิสิต คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ

ในวันนั้นคุณหญิง ที่มีต้นทุนด้านการร้องเพลงมาดีเยี่ยม เพราะเธอกำลังเรียนด้านการขับร้องที่คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ เธอร้องเพลงไทยเดิมเก่งมาก โดยในรอบเพลงไทยเธอเลือกร้องเพลง “ชีวิตบัดซบ”  เพลงของ คุณแดง-ฉันทนา กิติยพันธ์ ฟังแล้วว้าวจริง เป็นการร้องเพลงผสมการพูดกึ่งสบถ (Growl) ฉีกแนวไปจากนักร้องประกวดคนอื่น ๆ ร้องได้ดีมาก ๆ ฟังแล้วทำให้ครูปิ่นเชื่อว่า ชีวิตเธอนั้นบัดซบจริง ๆ พอมาถึงรอบร้องเพลงสากล เธอเลือกเพลง  “Love Is In The Air” ของ  “John Paul Young” มาขับร้อง เธอสามารถพลิกลิ้นออกสำเนียงแบบฝรั่งและเก็บตัวสะกดได้ครบถ้วนตามแบบฉบับเจ้าของภาษาได้ทุกคำ พอฟังแล้ว โอ้โฮ! นี่มันใช่เลยแชมป์ KPN AWARD” คนใหม่ ปรากฏว่าพอประกาศผลก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆ แล้วดวงคนจะได้เจอกันแบบตัวเป็น ๆ หลังจากนั้นไม่กี่ปี “คุณหญิง” ได้มาเป็น “ครูหญิง” ครูสอนร้องเพลงอยู่หลายปี ที่โรงเรียนของครูปิ่น คือ โรงเรียนสอนดนตรียามาฮ่า แจ้งวัฒนะ ครับ

อีกคนหนึ่งคือ “คุณนัททิว-ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม” แชมป์การประกวดร้องเพลงรายการนักล่าฝัน “ทรู อคาเดมี่ แฟนเทเชีย ซีซั่นที่ 5” หรือ เอเอฟ5 (ปี 2551) คุณนัททิวถูกโหวตให้ออกจากบ้านเอเอฟไปในสัปดาห์ที่ 6 แล้วมีรายการเซอร์ไพรส์โหวตกลับเข้าบ้านในสัปดาห์ที่ 8 พอถึงรอบชิงชนะเลิศในสัปดาห์ที่ 12 ชื่อของ “ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม” ได้ถูกพิธีกรประกาศให้เป็นแชมป์เอเอฟ คนที่ 5 นี่แหละ! ดวงของคนเราที่เกิดมาเพื่อจะเป็นแชมป์จริง ๆ สำหรับคุณนัททิวเคยเป็นศิลปินโกอินเตอร์ที่เกาหลี สังกัด CJ Entertainment อยู่ในเครือ CJ Group ปัจจุบันคุณนัททิวเป็นทั้ง นักร้อง นักแสดง นายแบบ พรีเซนเตอร์ และ เทรนเนอร์ (จากนักล่าฝันสู่นักปั้นหุ่น)

เรื่องมูและเรื่องดวง ไม่สามารถชั่งตวงวัด ซื้อขายกันได้ ขึ้นอยู่กับบุญนำพาวาสนาส่งครับ!

ภาพ : เพจย้อนเวลา ในความทรงจำ,sanook,/อินเทอร์เน็ต

เรื่อง : ครูปิ่น-ปิ่นศิริ ศิริปิ่น

เรียบเรียง : ดร.จุมมพล โพธิสุวรรณ

อีบุ๊กบางกอกทูเดย์รายสัปดาห์ ฉบับที่ ๔๓๔
ระหว่างวันที่ ๓๑ พฤษภาคม – ๖ มิถุนายน ๒๕๖๗
(สามารถพลิกอ่านได้เหมือนหนังสือปกติ)
Facebook Comments


Social sharing

Related post