วินทุกเว(ที)..Ways to Win EP:60 “ดร.บ๊อบ จุมพล” ปอกเปลือก ข้ามากับมูและดวง (1) ตอน “นางงามสายมู-อู้ฮูเวทีเสี่ยงทาย”
อีบุ๊กบางกอกทูเดย์รายสัปดาห์ ฉบับที่ ๔๓๐ ระหว่างวันที่ ๔-๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗
หน้า 33 วินทุกเว(ที)..Ways to Win EP:60
“ดร.บ๊อบ จุมพล” ปอกเปลือก ข้ามากับมูและดวง (1)
ตอน “นางงามสายมู-อู้ฮูเวทีเสี่ยงทาย”
ฉบับนี้ผม “ดร.บ๊อบ-จุมพล โพธิสุวรรณ” ขอเริ่มต้นเป็นคนแรกของทีมวินทุกเวที มาเปิดประเด็นใหม่ “ข้ามากับมูและดวง” ซึ่งในการประกวดเป็นสิ่งที่คู่กันยิ่งกว่าปาท่องโก๋ แบบชาตินี้แยกจากกันไม่ได้โดยเด็ดขาด มิเช่นนั้นผู้เข้าประกวดหลายคนคงลงแดง ขาดที่พึ่งและขาดความมั่นใจที่จะขึ้นเวที และนอกจากนี้ “ดวง” ก็เป็นตัวแปรสำคัญไม่น้อยไปกว่าการมู
ผมได้รวบรวมข้อมูลจากผู้ที่อยู่ในแวดวงการประกวด และจากประสบการณ์ของผมเอง โดยจะขอแยกเป็นกลุ่มมู และกลุ่มดวง ดังนี้
กลุ่มมูชูชีวิต
1.ก่อนประกวด : ตัวผู้เข้าประกวดเอง หรือพี่เลี้ยงพาผู้เข้าประกวดไป “มูเตลู” ทั้งสายพระและสายฆราวาส ร่างทรงองค์เจ้า ที่วัดไหนหรือสำนักหรือตำหนัก ดี ๆ ดัง ๆ โดน ๆ อยู่ไกลแค่ไหนก็จะไปให้ถึง ด้านพิธีกรรม ไม่ว่า อาทิ ลงนะหน้าทองให้คนรักคนหลง ลงสาลิกาลิ้นทองให้เจรจาไพเราะเสนาะหู ลงยันต์นั่น นี่ โน่น เพื่อเป็นเมตตามหานิยม อาบน้ำมนต์ก็มี ผู้เข้าประกวดบางคนนี้ กว่าจะขึ้นเวทีประกวดผ่านมือพระและมือฆราวาสนับสิบ นอกจากนี้ยังมีการนำมงกุฎประจำจังหวัดหรือมงระดับประเทศไปลงพิธีต่อยอดเอามงกุฎใหญ่และมงกุฎอินเตอร์อีกด้วย
“วิธีบน” ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ผู้เข้าประกวดนิยมทำกันก่อนขึ้นเวทีประกวดหรือเข้ากองแม่ ที่ไหนศักดิ์สิทธิ์เนรมิตได้ทันตาเห็นก็จะบุกป่าฝ่าดงกันไป เราจึงมักเห็นนางงามที่ได้ตำแหน่งสมใจนึก ไปแก้บนด้วย อาทิ ระบำรำฟ้อนต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย บ้างก็บนไข่ไก่นับพันฟอง พร้อมเครื่องเซ่นสังเวยต่าง ๆ มากมาย บางก็บนพวงมาลัยเจ็ดสีเจ็ดศอก บ้างก็บนประทัดเป็นแสนนัด เป็นต้น
“หมอดู” ของตายของผู้เข้าประกวด ชื่อนามสกุลถูกโฉลกมั้ย ไม่ดีก็เปลี่ยนทันที สีไหนเป็นมงคล โดยเฉพาะชุดที่จะสวมใส่ขึ้นเวที (เดี๋ยวนี้เสิร์ชดูข้อมูลในโลกออนไลน์ได้) ดูฤกษ์ผานาทีการสมัครและการเข้ากองประกวด นอกจากนี้ยังมีการแนะนำให้ทำการเสริมดวงชะตาด้วยวิธีและพิธีกรรมต่าง ๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้หมอดูค่อนข้าง one stop service เราไม่ต้องวิ่งไปทางโน้นที ทางนั้นทีให้เวียนหัว มีครบจบที่นี่จ้า ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็จะต้องมีทุนทรัพย์หรือสปอนเซอร์ด้วย เพราะการมูในยุคนี้มีค่าใช้จ่ายจิปาถะ รวม ๆ แล้วนับแสนบาทก็เคยได้ยินมาแล้วครับ
ภาพ : www.bangmodaesthetic.com
“หมอศัลยกรรมโหงวเฮ้ง” : ในยุคนี้หมอศัลยกรรมทั้งหลาย ไม่เพียงแค่ให้บริการด้านความสวยความหล่ออย่างเดียว ยังมีการทำศัลยกรรมประเภทเสริมโหงวเฮ้ง (ศาสตร์ชั้นสูงของจีน) ที่ประกอบไปด้วย หน้าผาก คิ้ว ดวงตา จมูก และปาก จึงไม่แปลกที่ผู้เข้าประกวดหลายคนจะเดินตบเท้าเข้าสถานเสริมความงามที่ให้บริการทางด้านนี้ เพื่อให้หน้าตัวเอง “เป๊ะเวอร์” พร้อมคว้ามง นอกจากนี้ยังมีบริการเสริมอื่น ๆ ก็มี อาทิ ทำลักยิ้ม และ ทำเขี้ยวฝังเพชร
“ผู้จัดจัดให้” เรื่องนี้ต้องขออนุญาตเอ่ยชื่อ เพราะเป็นเรื่องที่ดี เวที “มิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ ปี 2023” โดย คุณพอล-วสวัตติ์ วัฒนาศิริสมบัติ, นพ.ปรัชญ์ พึ่งเจษฎา และ พญ.กอบกาญจน์ ชุณหสวัสดิกุล ผู้ถือลิขสิทธิ์ในการจัดประกวด ได้แถลงข่าวเปิดตัว มงกุฎของผู้ชนะเลิศ ซึ่งด้านหลังของมงกุฎประดับด้วยองค์พระพิฆเนศสัญลักษณ์สำนักบารมีคเณศ อย่างสวยงาม ที่ร่วมสนับสนุนโดย “อาจารย์น้ำ บารมีคเณศ”แห่งสำนักบารมีคเณศ หนึ่งในอาจารย์ที่นางงามแห่ไปมูมากที่สุดท่านหนึ่ง เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต ซึ่งผู้ได้ครองมงกุฎนี้ไปคือ “เฟิร์สหวัง-ภัทราพร หวัง”
2.ระหว่างการประกวด (เก็บตัวร่วมทำกิจกรรม) : เวทีเล็ก ๆ มักไม่ค่อยมีลูกเล่นเยอะเหมือนเวทีใหญ่ ๆ ที่ต้องเข้ากองแม่เก็บตัว 1 สัปดาห์ หรือเกือบ 1 เดือน ผู้เข้าประกวดจะมี Lookbook คือ วันนี้ต้องสวมชุดสีอะไร แบบไหน แต่งหน้าโทนสีอะไร ทรงผมทรงไหน เครื่องประดับอะไร ซึ่งคนที่ทำให้ก็คือ ทีมงาน (เดี๋ยวนี้พี่เลี้ยงคนเดียวแบบสมัยก่อนเอาไม่อยู่ ต้องทำกันเป็นทีมงานที่เป็นทีมเวิร์กเท่านั้น) ซึ่งใด ๆ ใน Lookbook ย่อมต้องมีโฉลกสีจากหมอดูที่ระบุไว้ในตำราหรือในอินเทอร์เน็ต
ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยที่ช่วยเสริมบารมีและแก้เคล็ดต่าง ๆ นานา อาทิ กินเจหรือมังสวิรัติ ตลอดการประกวด ไม่พูดจาหยาบคายและไม่ถ่มน้ำลายลงโถส้วมหรือพื้น (มีสาลิกาลิ้นทองสะกดอยู่) มีการพกพาวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังติดตัวตลอดเวลา (ยกเว้นตอนเข้านอน) และไหว้เจ้าที่เจ้าทางทั้งที่พักและสถานที่จัดประกวด
3.วันประกวด : ที่เคยเป็นข่าวโด่งดังในอดีต เมื่อมีนางงามท่านหนึ่งใส่ปลัดขิกอาจารย์ซ้วนไว้ในมวยผมในขณะขึ้นเวทีประกวด กระทั่งได้รับตำแหน่งชนะเลิศ เธอผู้นั้นก็คือ “ดร.กบ-ปภัสรา ชุตานุพงษ์” (เตชะไพบูลย์) มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 1988 ตั้งแต่นั้นมาเธอได้รับฉายาว่า “นางงามปลัดขิก”
ส่วนผู้เข้าประกวดไม่ว่า เวที ชายจริง หญิงแท้ สาวเทียม เกือบจะทุกคนไม่ว่าในสมัยก่อนกระทั่งมาถึงยุคดิจิทัล ก่อนขึ้นเวทีจะมีการยกมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ สุดแท้แต่จะระลึกถึงใครได้ บริกรรมคาถาฉบับย่อ หรือฉบับร่ายยาวก็เอาที่สบายใจ ในเวทีเล็ก ๆ พี่เลี้ยงก็จะเอาหมายเลขผู้เข้าประกวดมาสวดมามู พร้อมเจิมหน้าผากให้ผู้เข้าประกวด ส่วนวัตถุมงคลหรือเครื่องรางของขลังถ้าใส่ติดตัวตรงไหนก็จะแอบใส่ ๆ กันไป เพื่อความเป็นสิริมงคล รวมถึงการก้าวเท้าซ้ายหรือเท้าขวาออกจากบ้านหรือที่พัก และขึ้นเวทีการประกวดด้วย
ที่น่าตกใจคือ เคยมีข่าวเล็ดลอดออกมาจากเวทีนางงามระดับประเทศว่า เคยมีคนเล่นไสยศาสตร์ใส่นางงาม โดยเฉพาะตัวเก็งเต็งหนึ่ง ทำให้เธอผู้นั้นอ่อนเปลี้ยเพลียแรงไม่สามารถสามารถขึ้นเวทีประกวดในรอบต่อไปได้ ทำให้ชวดมงไปอย่างน่าเสียดาย ทั้ง ๆ ที่ได้สายสะพาย “ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน” มาการันตีแล้วด้วย
ฉบับหน้ามาต่อกันกับเรื่องราวของ “กลุ่มสายดวงจ้วงมง” ครับ!
ภาพ : เพจโลกนางงาม (Namphung Thrahod) ,FB : Wang Patraporn, อินเทอร์เน็ต
อีบุ๊กบางกอกทูเดย์รายสัปดาห์ ฉบับที่ ๔๓๐ ระหว่างวันที่ ๔-๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗
หน้า 33 วินทุกเว(ที)..Ways to Win EP:60
“ดร.บ๊อบ จุมพล” ปอกเปลือก ข้ามากับมูและดวง (1)
ตอน “นางงามสายมู-อู้ฮูเวทีเสี่ยงทาย”
อีบุ๊กบางกอกทูเดย์รายสัปดาห์ ฉบับที่ ๔๓๐
ระหว่างวันที่ ๔-๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗
https://book.bangkok-today.com/books/nawo/#p=33
(สามารถพลิกอ่านได้เหมือนหนังสือปกติ)
website : www.bangkok-today.com
#ebookbangkoktoday
#อีบุ๊กบางกอกทูเดย์
#bangkoktoday
#บางกอกทูเดย์
