วินทุกเว(ที) Ways to Win EP: 5 ปุ๋ย-อนุรี อนิลบล เล่าจากประสบการณ์ตรง “กรี้ด! มีหน้าตาเป็นอาวุธ”

Social sharing

หากกล่าวถึงประโยคที่ว่า “มีหน้าตาเป็นอาวุธ” ร้อยละร้อยต้องมโนไปถึงคนที่มีหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่เดินเข้าซอยเปลี่ยว ๆ ยามค่ำมืดดึกดื่น (กลับดึกอยู่ซอยลึกและเปลี่ยว) ถ้าเป็นผู้ชายก็คงรอดจากการถูกปล้น ถ้าเป็นผู้หญิงคงรอดจากการถูกลวนลามข่มขืน จะว่าไปแล้วหากคิดไปลึก ๆ ก็เป็นคำพูดที่ออกจะบูลลี่กันอยู่ หากมองต่างมุมในเวทีประกวดคือ การสร้างสรรค์หน้าตาให้เป็นอาวุธพิฆาตคู่แข่งและใช้สะกดสายตาคณะกรรมการ

หมายเหตุ : ต้องเป็นเวทีที่ไม่ล็อคมงหรือตำแหน่งนะคะ เพราะบางเวทีจัดประกวดหาแค่ตำแหน่งรองเท่านั้น ส่วนที่ 1 ใช้กุญแจชั้นดีล็อกไว้อย่างเหนียวแน่นค่ะ บางเวทีค้านสายตาคณะกรรมการมาก ๆ ก็พากันเดินออกจากงานสิคะ รออะไร ขอไปก่อนทัวร์ลง เอาไว้จะเล่าให้ฟังในครั้งต่อ ๆ ไป

คงปฎิเสธไม่ได้ว่า “หน้าตา” คือ “ปราการด่านแรก” ของการขึ้นเวทีประกวดต่าง ๆ จะเป็นการเปิดประตูสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จ หากไม่เขวี้ยงมงหรือตำแหน่งสำคัญใดๆทิ้งในระหว่างการเดินทาง แน่นอนว่าในการประกวดย่อมเน้นไปที่ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มให้สวยงามมากว่าที่เป็นใบหน้าสด ๆ แต่บางเวทีมีประกวดรอบหน้าสดด้วย เพื่อทำการคัดเลือกผู้เข้าประกวดที่มีผิวหน้าสวยและดีแบบธรรมชาติ เพื่อให้ได้รับรางวัล อาทิ “นางงามผิวสวย” (ไม่ใช่รางวัลงามอย่างไรนะคะ) เรื่องนี้ถ้าหากใครได้รับรางวัลถือว่ามีต้นทุนที่ดีคือ แต่งก็สวย ไม่แต่งก็สวย

สมัยก่อนการแต่งหน้านางงามจะใช้ช่างจากสปอนเซอร์เครื่องสำอาง อย่าง “เอ็มทีไอ” ที่ตนเองเคยทำงานอยู่ ช่างแต่งหน้าประจำกองประกวดทุกคนต้องได้รับ Reference หรือแนวทางในการแต่งหน้าของวันนั้น ๆ รอบนั้น ๆ เหมือนกันหมด ดังนั้นเวลาที่นางงามปรากฏตัวจะมีความเหมาะสมกับชุด เวลา สถานที่ บรรยากาศ เหตุการณ์ โดยรวมคือ ถูกกาลเทศะ แต่บางครั้งพอแต่งหน้าเสร็จ พี่เลี้ยงส่วนตัวก็แอบบดึงแขนไปเติมหน้า ทำให้ดูโดดมาก ผิดจาก Reference ต้องให้ช่างกองแก้กลับคืนในทันที แล้วย้ำกับนางงามว่าห้ามเปลี่ยนอีกเด็ดขาด

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เวทีใหญ่ ๆ ไม่ค่อยหาหรือไม่ค่อยมีสปอนเซอร์เครื่องสำอาง โดยเปิดกว้างเสรีให้กับนางงามจะหาช่างที่ไหนก็ได้ ที่คิดว่าแต่งให้คุณสวยและดูดีที่สุดในบริบทของเวทีประกวดนั้น ๆ หรือคนที่มีพี่เลี้ยง-ทีมงานคอยซัพพอร์ตก็โชคดีไป ซึ่งเรื่องนี้มีการทั้งดีและข้อด้อย ข้อดีคือที่กล่าวไปแล้ว ส่วนข้อด้อยคือ นางงาม เช่น น้องนางบ้านนา ที่เขาอยากสมัครเข้าประกวด แต่ไม่มีทุนทรัพย์หรือพี่เลี้ยงมาส่งเข้าประกวด ยากยิ่งนักที่จะประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องที่น่าสงสารและเห็นใจ คนที่เป็นช้างเผือกจริง ๆ สุดท้ายก็โชคดีได้ผู้หยิบยื่นน้ำใจไมตรีเข้ามาช่วยกระทั่งประสบความสำเร็จก็มีให้เห็นดังเช่นที่เป็นข่าวดราม่าอยู่บ่อยครั้ง

ไหนจะคนหาชุดเสื้อผ้าในแต่ละรอบ โดยเฉพาะเวทีใหญ่ ๆ บางเวทีที่คอนเทนต์ดีและแน่นเอี๊ยดยิ่งกว่าหน้าที่ทำศัลยกรรมมา มีทั้งชุดราตรี ชุดลำลอง ชุดประจำชาติ ชุดประจำถิ่น ชุดว่ายน้ำแนวครีเอทีฟ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม และอีกสารพัดช่าง ล้วนแต่ใช้เงิน เงิน เงิน ทั้งนั้น ขนาดว่ามีคอนเนคชั่นยังหมดเป็นแสน ๆ บาท อย่างการทำศัลยกรรมความงามในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ใครสวยเป๊ะหล่อปังมงก็รออยู่ข้างแล้ว มีราคาสูงพอสมควร ดังนั้นพี่เลี้ยงจึงต้องรัดเข็มขัดด้วยการพานางงามวิ่งหาสปอนเซอร์จากคลินิกศัลยกรรมและเสริมความงามต่าง ๆ กันขาขวิด หากโชคดีก็ได้ทำฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะหมอคงพิจารณาดูแล้วว่าน่าจะห้อยพระรอดมา (ไปรอดตลอดฝั่ง) คุ้มกับการเป็นผู้ให้การส่งเสริมและสนับสนุน ตั้งข้อสังเกตว่า จากการที่หลายเวทีเปิดให้นางงามได้แต่งหน้าอย่างอิสระนั้น จึงดูเหมือนว่า เป็นการประกวดช่างแต่งหน้ามากกว่าที่จะเป็นการประกวดนางงาม เนื่องจากนางงามหรือทีมนางงามบางคน/บางกลุ่มถึงกับลงทุนจ้างช่างแต่งหน้าระดับแถวหน้าของเมืองไทยมาเมคอัพกันเลยทีเดียว

ในเรื่องการแต่งหน้านั้นต้องยอมรับในปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีนวัตกรรมพัฒนาแบบดีเยี่ยมเกิดคาด เรียกว่าใช้แล้วสวยหล่อตั้งศีรษะจรดปลายเท้า อีกทั้งช่างแต่งหน้ารุ่นใหม่ก็ไฟแรง เก่งมาก ๆ ทำการบ้านมาดี บางคนถึงทำกับทำ PHOTOBOOK หรือ LOOKBOOK ในแต่ละวันที่กองประกวดกำหนดไว้ตั้งแต่วันแรกกระทั่งถึงรอบชิงชนะเลิศกันเลยทีเดียว ต้องขอชื่นชมและให้กำลังใจ

แตกต่างจากสมัยก่อนที่บางคนชอบครูพักลักจำ กระทั่งกลายเป็นคำพูดติดตลกที่ว่า ช่างบางคนแต่งหน้าผีให้คน (ช่างปังปุริเย่) แต่บางคนก็แต่งหน้าคนให้เป็นผี (ช่างปังปินาศ) ในบางครั้งผู้เข้าประกวดไม่สามารถเลือกช่างแต่หน้าได้ อย่างไรก็ตามช่างแต่งหน้าแต่งคนให้เป็นคนหรือเป็นนางฟ้านางสวรรค์เทพบุตรจุติน่าจะดีที่สุดค่ะ

ในเบื้องต้นขอแชร์ประสบการณ์และแสดงความคิดเห็นไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อน ครั้งหน้าเราค่อยเจาะกันทีละเรื่องที่ได้พบเจอหลากหลายรสชาติของชีวิตที่คลุกคลีในแวดวงการประกวดนับพันเวทีมาเล่าสู่กันฟัง

ข้อคิดทิ้งท้าย : สมัยนี้ศัลยกรรมความสวยความงามก้าวล้ำไปมาก ๆ สามารถช่วยเป็นแรงบันดาลหรือจุดประกายให้ใครๆ ที่คิดว่าใบหน้าตัวเองไม่สวยไม่หล่อ ให้กลับมาสวยหล่อเวอร์วังได้ (สวยหล่อสั่งได้…ถ้ามีตังค์มากพอ) เช่น รายการ LET ME IN ที่พิสูจน์ให้เห็นเป็นประจักษ์แก่สายตาคนทั้งโลก เขาและเธอจึงเกิดความมั่นใจในการดำเนินชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่บนเวทีการประกวดใด ๆ ดังที่หลายคนประสบความสำเร็จหลังจากทำศัลยกรรมความงามมา แล้วที่สำคัญคือ ภายนอกนั้นเรามาสามารถทำศัลยกรรมความเพื่อให้ดูดีได้ แต่ภายใน (จิตใจ) นั้นไม่สามารถทำศัลยกรรมความได้ ดังนั้นหากจะเป็นนางงามหรือนายแบบได้อย่างสมบูรณ์แบบ จะต้องงามทั้งภายนอกและภายในควบคู่กันไปนะคะ

0 ปุ๋ย-อนุรี อนิลบล 0