‘รุ่งรัตน์’จากอาชีพเสริม สู่ “หมอจุ๊บ ไพ่เทพผ่าดวง” 

แค่การมองหาอาชีพเสริม เพื่อสร้างรายได้ แต่สุดท้ายแล้ว กลายเป็น “หมอจุ๊บ ไพ่เทพผ่าดวง” ชื่อดัง ซึ่งที่ผ่านมา เธอบอกว่า นั่นเป็นโชคชะตา ที่นำเธอก้าวมาสู่เส้นทางนี้ และพร้อมที่จะชี้แนะ เพื่อให้ทุกคนที่กำลังเดือดร้อน ได้เจอกับความสำเร็จ อย่างที่ใจปารถนา 

รุ่งรัตน์ สมบุญธรรม หรือ หมอจุ๊บ ไพ่ผ่าดวง เล่าให้ฟังถึงเส้นทางของการเป็น นักพยากรณ์ดวงชะตา ในวันนี้ “เดิมทีแล้ว ตัวของจุ๊บเอง ก็ทำงานเป๋นพนักงานในองค์กร เหมือนกับที่หลายๆ คนทำอยู่ โดยตอนนั้น เป็น พีอาร์ คอร์ปอเรต ก่อนที่จะลาออกมาค้าขาย” หมอจุ๊บ เล่าว่า การออกมาค้าขายของเธอนั้น เรียกว่า ทำรายได้ให้เธอแบบเป็นกอบเป็นกำกันเลยทีเดียว “แต่ละวันสามารถทำรายได้หลักหมื่น ซึ่งแม้บางวันจะขายไม่ดีเท่าไร แต่ก็ได้รายได้หลายพันบาทเหมือนกัน” 

เริ่มเข้าสู่วงการดูดวง

กระทั่งวันหนึ่ง แฟนของเธอ มาบอกว่า ตอนนี้ มีคอร์สเปิดสอนดูดวงด้วยไพ่ยิปซี “ความเป็นจริง ตัวของเราเองก็ชอบเรื่องของการดูดวงอยู่แล้ว ซึ่งหากย้อนกลับไปตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เพื่อนๆ ชอบไปดูดวงที่ไหน เราก็มักจะตามไปด้วยเสมอ และก็เกิดความสงสัยว่า ทำไมคนชอบดูดวงเยอะจัง ด้วยความสงสัยนี้ ก็เลยไปซื้อไพ่ยิบซี มาลองดูดวงให้กับเพื่อนๆ ซึ่งพอดูไปแล้ว เพื่อนก็บอกว่า เราดูแม่นเหมือนก้น นั่นก็เลยทำให้เราตัดสินใจ ไปเรียนคอร์สดูดวงด้วยไพ่ยิปซี เพิ่มเติม เพราะคิดว่าเราก็น่าจะดูดวงได้” 

จุดเริ่มต้นของอาชีพดูดวงจึงเกิดขึ้น “ตอนแรก ก็คิดว่า จะใช้วิชาดูดวง เพื่อมาเป็นอาชีพเสริมให้กับตัวเอง เพราะเราก็ทำค้าขายเป็นหลักอยู่แล้วด้วย ชณะที่บ้านที่เราอาศัย และพักอยู่ก็อยู่ในย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่า เป็นแหล่งหมอดูที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งกันทีเดียว เราก็เลยไปจองโต๊ะ ซึ่งเป็นโต๊ะด้านในสุด แต่ตอนนั่นก็รู้สึกแปลกเหมือนกัน ไม่แน่ใจว่า เป็นเพราะชะตาลิขิตไว้หรือเปล่า เพราะพอเริ่มดูดวง ของที่เคยขายดี เป็นเทน้ำเทท่า ก็เริ่มขายได้น้อยลงไปเรื่อยๆ เหมือนกับเราถูกกำหนดให้มาทำหน้าที่เป็นหมอดูหรือเปล่า ไม่รู้ ตอนนั้นคิดแบบนี้จริงๆ” 

โชคชะตาถูกกำหนด 

ราวกับถูกกำหนดมาจริงๆ จากที่เป็นหมอดูนั่งโต๊ะตัวเล็ก ๆ หลังสุด ก็ขยับชึ้นมาอยู่ด้านหน้า ในช่วงเวลาไม่นาน คนเข้ามาดูไพ่ยิบซีกับเราเยอะขึ้นเรื่อยๆ ตอนนั้นก็เลยตัดสินใจ ที่จะเลิกขายของ แล้วมานั่งเป็นหมอดูแบบจริงจัง เป็นอาชีพหลักกันไปเลย จนมาถึงวันนี้ ก็ผ่านไปเป็นเวลากว่า 12-13 ปีแล้ว ที่ยึดอาชีพการเป็นหมอดูมาตลอด” 

ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนตัวเอง มาเป็นหมอดูแบบจริงจังเท่านั้น หมอจุ๊บ ยังเผยถึงความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้น “ดูไพ่ยิปซี มานาน ก็ทำให้เราได้อยู่กับตัวเลขไปด้วย และทำให้เราสัมผัสได้กับเซนส์ บางอย่างที่เกิดขึ้นกับเราโดยไม่รู้ตัว ซึ่งพอเรามาเริ่มสวดมนต์ และนั่งสมาธิมากขึ้น ก็เริ่มทำให้เรามองเห็นอะไรหลายๆ อย่าง และเริ่มที่จะรู้ศาสตร์ต่างๆ เกี่ยวกับดวงชะตามากขึ้น ประกอบกับความศรัทธา ในองค์เทพ ทั้งพระพิฆเนศ พระแม่ลักษมี เลยกลายเป็นจุดกำเนิด ที่ทำให้เราเปลี่ยนไพ่ยิปซี มาเป็นไพ่พรหมเทพ จนถึงทุกวันนี้ 

ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น 

ถามว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา กับการก้าวมาสู่การเป็น หมอจุ๊บ ไพ่เทพผ่าดวง เคยพบหรือเจอกับปาฏิหาริย์ อะไรบ้างหรือไม่ “เรียกว่า เจอบ่อยมาก ทั้งกับตัวเอง และกับคนรอบตัว อย่างมีอยู่ครั้งหนึ่ง มีคนทักเข้ามาหา ผ่านทางออนไลน์ เลยลองเปิดไพ่ดู ก็พบว่า คนนั้น กำลังมีเคราะห์หนัก ซึ่งก่อนหน้าเคยฝันว่า ได้เดินทางไปสถานที่แห่งหนึ่ง แล้วพบกับท่านพญายม ซึ่งเป็นครั้งแรก และวันที่ฝัน ก็เป็นวันที่เขาเรียกกันว่า วันประตูนรกเปิด ถือเป็นจังหวะเดียวกันกับ ที่คนรู้จักได้ทักเข้ามา ตอนนั้นเขาดูสิ้นหวังมาก เขาเล่าว่าเขาป่วยด้วยโรคเบาหวาน และหมอบอกว่า อาจต้องตัดขา ทำให้เขาดูเศร้า และไม่สบายใจ สิ่งที่เราทำได้ตอนนั้น คือ ขอวันเดือนปีเกิด แล้วเอาบทสวดมนต์ให้เขาไป เพราะวันถัดไป เราจะไปไหว้พระ ไหว้เทพ พอดี ก็เลยเอาดวงวันเกิดของเขา ไปทำบุญ และขอพร ซึ่งหลังจากนั้น ไม่นาน ก็เรียกว่า เกิดปาฏิหาริย์ จริงๆ เพราะสุดท้ายแล้ว คนที่เข้ามาปรึกษา ไม่ต้องตัดขาทิ้ง เพราะเบาหวานแล้ว เราก็ดีใจกับเขา ที่สิ่งที่เราทำ เกิดผลจริง” 

ส่วนปาฏิหาริย์ ที่เกิดกับตัวของหมอจุ๊บ ก็มีเช่นกัน “วันหนึ่ง เราฝันว่า เดินไปเจอเด็ก ที่เพิ่งเกิดใหม่ และเด็กคนนั้นก็ถ่ายออกมา ไม่รู้อย่างไร เราเอามือไปหยิบของที่เด็กถ่ายออกมา เอามาเข้าปากกิน จากนั้น ก็เดินไปเจอพระพิฆเนศองค์ใหญ่ แล้วก็ได้ยินเสียงเรียกให้เดินมา เราก็เดินไปตามเสียงเรียก แล้วก็เจอกับปู่ฤาษีที่มีเชี้ยงองค์หนึ่ง เรียกให้เราเข้าไปไหว้ แล้วก็บอกว่า ไหว้แล้วจะทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยน จากนั้น พอตื่นขึ้นมา ก็ไปเล่าให้แฟนฟัง ว่า เจอปู่ฤาษีมีเขี้ยว แฟนก็เลยบอกว่า ใช่ปู่ฤาษี ที่อยู่ด้านหลัง ของตลาดห้วยขวางหรือเปล่า ซึ่งวันต่อมา ก็เลยเดินไปที่ดู ก็พบว่า เป็นรูปปั้นของปู่ฤาษี ที่ฝันเห็นจริงๆ แล้วอยู่ด้านหลังพระพิฆเนศด้วย บอกเลย ขาอ่อนเลยตอนนั้น เพราะเราไม่เคยรู้เลยว่า ท่านอยู่ตรงนั้น” หมอจุ๊บ เล่าด้วยว่า เธอเจอกับนิมิตแบบนี้ อยู่หลายครั้งมาก 

อินเดีย กับการเปิดประสบการณ์ มูเตลู

เช่นเดียวกับ เรื่องของการเดินทางไปประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในชาเลนจ์ ของหมอจุ๊บ “เป็นคนหนึ่งที่ชอบเรื่องของความชาเลนจ์ มีอยู่วันหนึ่ง ได้เข้าไปกราบขอพรพระพิฆเนศ เลยขอท่านว่า อยากเผยแพร่บารมี ขององค์ท่าน รวมถึงอยากรู้จักบ้านของท่านว่าเป็นอย่างไร เพราะรู้แค่ว่า อยู่ที่ประเทศอินเดีย เท่านั้น พอได้ไปอินเดีย จริงๆ ก็ไปเจอกับเทศกาล คเนศจตุรถี และไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็เจอกับเทศกาลที่เกี่ยวกับท่านอยู่ตลอดทุกครั้ง โดยเฉพาะ การไปที่เมืองเจนไน เมืองที่เราได้เห็นอะไรมากมาย อย่างที่เรากำลังตามหา รวมถึงยังเป็นเมืองที่ช่วยเปิดประสบการณ์หลายๆ อย่างให้กับตัวเราด้วย” 

ไหว้แล้วได้ ไหว้แล้วดี

ในช่วงท้ายของการพูดคุย ก็ต้องถามกับ “หมอจุ๊บ” กันสักหน่อยว่า ทำไม วันนี้ นักธุรกิจหลายคน ถึงมีความเชื่อเรื่องการ มูเตลู กันมากขึ้น “ต้องยอมรับวา แรกเริ่มเลย การมูเตลู มาจากกระแสก่อน และเป็นกระแสที่เกิดจากคนที่ประสบความสำเร็จ ในสิ่งที่เขามูกัน ซึ่งเถียงไม่ได้เลยว่า เมื่อมูเตลูแล้วได้สิ่งที่ปรารถนา หรือเรียกว่า ไหว้แล้วได้ ก็แสดงว่า การมูเตลู นั้นเกิดผลลัพธ์ที่ดี ก็เป็นการตอบโจทย์ได้อย่างที่ตั้งใจ ส่วนคนไหน ที่ไหว้ แล้วได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็อยากจะอธิบายว่า อาจจะยังไม่ใช่เวลาของเรา หรือยังไม่ถึงเวลาของเราก็ได้ บางทีบุญที่เราทำอยู่นั้น ยังไม่ถึงก็ได้ ดังนั้น จึงอยากให้ทุกคน มีความเชื่อมั่น และทำความดีจริงๆ หากไปขอแล้ว ก็น่าจะได้อยู่แล้ว” หมอจุ๊บ บอกด้วยว่า ในปี 2567 นี้ ถือเป็นปีเรื่องของเงินทอง หากใครอยากประสบความสำเร็จ หรือ มีเงินทอง ก็ให้ไปไหว้ พระแม่ลักษมี หรือ พระแม่ธรณี ไม่แน่ว่า อาจจะเกิดสิ่งดีๆ ตามมาก็ได้