Digiqole ad

‘ริว จิตสัมผัส’เผยเหตุผลถวายบรั่นดี ‘เทพเจ้ากวนอู’ 

 ‘ริว จิตสัมผัส’เผยเหตุผลถวายบรั่นดี ‘เทพเจ้ากวนอู’ 
Social sharing

Digiqole ad

เรียกว่า เป็นข่าวดังเมื่อช่วงต้นเดือน พฤษภาคม ที่ผ่านมา กับกรณีเซียนพระ ชื่อดัง แก้บนด้วยการนำบรั่นดีแบรนด์ดัง กว่า 150 ลัง มาถวายกับ เทพเจ้ากวนอู แห่งวิหารอริยะเจ้ากวนอู ที่ริว จิตสัมผัสเป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมา หลังประสบความสำเร็จ ตามที่ขอพรจากเทพเจ้า สร้างความฮือฮา ให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก 

จุดเริ่มความตั้งใจในการก่อตั้งมูลนิธิ

ปาณรวัฐ ลิ่มรัตนอาภรณ์ หรือ ที่รู้จักกันดี ในชื่อริว จิตสัมผัสผู้ก่อตั้งมูลนิธิวิหารอริยะเจ้ากวนอู กล่าวว่า มูลนิธิวิหารอริยะเจ้ากวนอู เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และได้สร้างวิหารแห่งนี้มาได้ 3 ปีแล้ว และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 “เราใช้เงินราว 60 ล้านบาทจากผู้มีจิตศรัทธา ซึ่งก่อนหน้านี้ ผมเคยตั้งมูลนิธิฯ อยู่ที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง เพราะตอนนั้น เรายังไม่มีทุนทรัพย์ที่มากเพียงพอ แต่ต่อมา เริ่มมีผู้นับถือหลั่งไหลกันเข้ามาที่มูลนิธิฯ กันเป็นจำนวนมาก ผมจึงเริ่มมองหาสถานที่สำหรับก่อสร้างมูลนิธิฯ แห่งใหม่

ด้วยความตั้งใจ ที่จะช่วยเหลือผู้คน ทำให้ท้ายที่สุด ก็มีผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม และมีจิตศรัทธา ในองค์เทพเจ้ากวนอู ได้บริจาคที่ดินประมาณ 1 ไร่นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ผมก่อสร้างวิหารหลังนี้ ขึ้นมา โดยใช้เวลาในการก่อสร้างนาน 6 เดือน ขณะเดียวกัน ผมยังสร้างองค์เทพเจ้ากวนอู ที่มีความสูง 6 เมตรมาประดิษฐานบนอาคาร โดยหล่อจากทองเหลือง นอกจากนี้ ผมยังได้สร้างวิหารเจ้าแม่กวนอิม และหอพระพุทธเมตตา ในเวลาต่อมาด้วยริว กล่าว 

สำหรับสิ่งปลูกสร้าง และมูลนิธิฯ นั้น ริว จิตสัมผัส กล่าวว่า เขาตั้งใจที่จะยกทั้งหมด ให้เป็นสมบัติของแผ่นดินเพราะผมได้ทำหนังสือขออนุญาตจดทะเบียนมูลนิธิ กับทางผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีแล้ว โดยเป็นการจดทะเบียนให้เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ขณะเดียวกัน ภายในวิหารอริยะเจ้ากวนอู ก็จะไม่มีการประทับทรง ไม่มีการดูดวง หรือ ทำนายโชคชะตา เพราะเราตั้งใจให้เป็นสถานที่สำหรับคนที่มีความศรัทธา ต่อองค์เทพเจ้ากวนอู ได้เดินทางมากราบไหว้ ขอพรเท่านั้น ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็มีผู้คนทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ เดินทางมาไม่ขาดสายเลยทีเดียวซึ่งจากการจดบันทึกจำนวนของคนที่เข้ามาที่วิหารฯ พบว่าในวันธรรมดา มีคนเข้ามาอย่างน้อย 500 คนต่อวัน แต่ในวันเสาร์ และอาทิตย์ จะมีคนเข้ามามากถึง 1500 คน ก็ว่าได้ 

ขอพรหลักใน 3 เรื่อง

ผู้ก่อตั้งมูลนิธิวิหารอริยะเจ้ากวนอู ยังบอกด้วยว่า การมาขอพรของคนที่เข้ามาที่วิหาร ส่วนใหญ่จะมาขอพรใน 3 เรื่องหลักๆ ทั้งเรื่องของ การงาน การเงิน และ สุขภาพและทุกครั้งที่อธิษฐานขอพร แล้วประสบความสำเร็จตามที่ขอ แต่ละคนก็จะเดินทางกลับมาเพื่อแก้บนกับองค์เทพเจ้ากวนอู ด้วยบรั่นดี แบรนด์ดังของไทย เพราะน่าจะได้ผลดีกว่า การบนบานด้วยเหล้า แบรนด์อื่นๆ ทำให้วันนี้  ที่วิหารฯ มีบรั่นดีแบรนด์ดัง ถูกนำมาแก้บนไปแล้วมากกว่า 2 แสนขวด 

อะไรเป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้คนมาขอพร มักบนด้วยบรั่นดี แบรนด์ไทยน่าจะมาจาก คนที่มาบนบาน ขอพร ที่วิหารฯ ในช่วงแรกๆ ที่เคยบนด้วยเหล้าจีน แต่กลับไม่ได้ผลอย่างที่ขอพรไว้ ผมเลยลองแนะนำให้เปลี่ยนมาบนด้วยเหล้าของไทยดูบ้าง ซึ่งคนนั้นเขาก็ไปลองบนบานดู แล้วก็ประสบความสำเร็จ ในระยะเวลาเพียงแค่ 3 วันเท่านั้นคุณริว เล่าด้วยว่า หลังจากที่ประสบความสำเร็จไปในครั้งแรก เพื่อให้มั่นใจว่า การบนด้วยบรั่นดีไทย น่าจะได้ผลดี คนที่มาขอพรรายเดิม จึงบนบานอีกครั้ง ซึ่งสมหวังภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ไม่ต่างจากครั้งแรก และเมื่อมีการพูดปากต่อปาก ก็ทำให้กลายเป็นธรรมเนียม ที่หากใครอยากสมหวัง สมปรารถนา ในสิ่งที่บนบาน ก็จะต้องบนบานด้วย บรั่นดีแบรนด์นี้ กับเทพเจ้ากวนอู ซึ่งที่ผ่านมา บางรายสมหวังภายในเวลาเพีบงแค่ 3 วัน และช้าสุดก็ไม่เกิน 6 เดือน

คุณริว แนะนำด้วยว่า การจะบนบานอะไรก็ตาม จะต้องไม่เกินกำลังของเจ้าตัวที่ผ่านมา จากการเก็บรวบรวมสถิติ ที่มีคนนำบรั่นดีมาถวายองค์เทพเจ้ากวนอู ภายในวิหารแห่งนี้ มากที่สุด ก็น่าจะเป็น คุณนพพร ซึ่งเป็นเซียนพระเครื่องชื่อดัง ที่นำบรั่นดีแบรนด์ไทยมาแก้บนแล้ว 150 ลัง 

ห้ามจำหน่าย บรั่นดีในวิหาร

จากการนำบรั่นดี มาแก้บนอย่างมากมาย นั้น ทำให้มีบรรดา พ่อค้าแม่ค้าหลายคน พยายามติดต่อมาเพื่อขอซื้อบรั่นดีที่นำมาแก้บน เพื่อนำไปขายต่อ ทางคุณริว บอกว่า เขาไม่อนุญาตให้นำบรั่นดีแก้บน ในวิหาร ไปขายเพราะการแก้บนด้วยบรั่นดีนั้น ทางเจ้าหน้าที่ของทางวิหาร จะมีการนำบรั่นดี แต่ละชวด มาเปิดฝา เพื่อถวายให้กับองค์เทพเจ้าในแต่ละวัน ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ขณะที่ขวดที่แก้บนแล้ว เราก็จะลามาเพื่อให้คนที่เดินทางมาที่วิหาร ได้จิบเป็นยา ถือเป็นการเช็คสุขภาพร่างกายในเบื้องต้น จากรสสัมผัสของบรั่นดีที่จิบเข้าไป โดยสังเกตว่า หากจิบบรั่นดีแก้บนแล้วรู้สึกว่า บรั่นดีมีรสจืด แสดงว่า คนนั่น จะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบเลือด อาจมีลิ่มเลือดอุดตัน หรือ มีเลือดหนืดก็ได้ 

ส่วนคนที่จิบบรั่นดี แล้วรู้สึกได้ถึงรสหวาน คุณริว บอกว่าคนนั้นอาจจะเป็นโรคภูมิแพ้ หรือ แพ้อากาศ รวมถึงอาจมีกรดในเลือดสูง แต่หากจิบแล้วรู้สึกถึงความขม และมีรสชาติของเหล้าเพียงอย่างเดียว แสดงว่า ร่างกายของคนนั้น ยังมีสุขภาพแข็งแรง และปกติดี แต่หากจิบแล้ว รู้สึกได้กลิ่นหอมของเหล้าเพียงอย่างเดียว แสดงว่า เป็นคนที่มีไขมันในเลือดสูง หรือ มีไขมันพอกตับ อย่างแน่นอน 

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

ในช่วงท้าย คุณริว จิตสัมผัส ยังได้พูดด้วยว่า ณ วันนี้ ยิ่งเทคโนโลยีเติบโตมากขึ้นเท่าไร ความงมงายยิ่งเกิดขึ้นเท่านั้น และผู้วิเศษก็จะมีมากขึ้นเท่านั้นเพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ไม่มีใครทำให้คุณได้ ถ้าคุณไม่ทำ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประทับอยู่ในวิหาร ท่านเป็นรูปเคารพที่เปรียบเสมือนตัวแทนของความดี ท่านไมได้ช่วยคุณทำมาหากิน แต่แรงปรารถนาของคุณต่างหาก เมื่อคุณปรารถนา และมาขอพร พอคุณกลับไปตั้งใจทำมาหากิน เก่งบวกเฮง ก็จะทำให้มีสิ่งดีๆ เข้ามา 

ในทางตรงกันข้ามหากคุณงมงายว่า เทพเจ้าดลบรรดาลให้ได้ทุกอย่าง ไม่มีทางแน่นอน ซึ่งตามธรรมดาแล้ว ไม่ว่าเทพเจ้าองค์ใด ท่านไม่เคยสอนให้เรามัวเมา กับกิเลส และความทุกข์ และตราบใดที่มนุษย์ไม่มีคำว่าพอ คุณก็ไม่มีทางอยู่อย่างมีความสุขได้ เพราะฉะนั้น สิ่งเดียวที่เทพเจ้าจะให้คุณได้ ก็คือ การอวยพรให้คุณประสบโชคดี ส่วนจะดีหรือไม่อย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวของคุณเองทั้งสิ้นคุณริว ทิ้งท้าย 

Facebook Comments


Social sharing

Related post