
รัฐประหารประชาธิปไตย

การทำรัฐประหารในประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้กลายเป็นการจุดประเด็นการแสดงความคิดเห็นในโลกประชาธิปไตยกันอย่างมาก
แน่นอนว่าสำหรับมุมมองของโลกประชาธิปไตย ย่อมจะแสดงออกถึงการไม่เห็นด้วยกับการที่ผู้นำทางการทหาร จะใช้อำนาจหน้าที่ในการบัญชาการกองทัพสั่งการยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน
ซึ่งครั้งนี้ในกรณีของประเทศเมียนมาก็เช่นเดียวกัน ที่ย่อมมีเสียงสะท้อนถึงการไม่เห็นด้วย การไม่ยอมรับ และมีการเรียกร้องให้ประเทศประชาธิปไตยทั้งหลายแสดงออกถึงการไม่ยอมรับการทำปฏิวัติรัฐประหาร
ปัญหามุมมองต่อการรัฐประหารของผู้นำกองทัพทางทหาร เป็นประเด็นที่เรียกได้ว่า เกิดขึ้นมาโดยตลอดกับทุกประเทศและทุกครั้งที่เกิดขึ้น แต่ในความเป็นจริงที่ต้องยอมรับก็คือ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้การทำรัฐประหารโดยใช้กำลังทหารนั้นหมดสิ้นไปจากโลกนี้ได้
หากว่าวิธีคิดของผู้นำทางการทหารในหลายๆประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ยังลุ่มๆดอนๆกับเส้นทางประชาธิปไตย ยังคงเชื่อว่าการปฏิวัติรัฐประหาร คือการแก้ไขปัญหาทางการเมือง
อาจจะถูกมองว่าเป็นวิธีคิดที่น่ากลัว ล้าสมัย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องยอมรับว่ายังมีอยู่จริง
วิธีคิดของทหารส่วนใหญ่ในโลกนี้ ถูกปลูกฝังให้เชื่อในการธำรงวินัย ในการเชื่อฟังและทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาโดยปราศจากการโต้แย้ง
เมื่อเติบโตขึ้นมาด้วยการเชื่อฟังและทำตาม กระทั่งขึ้นสู่จุดสูงสุดของการเป็นผู้นำเหล่าทัพ จึงกลายเป็นการยึดติดว่า ทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกขั้ว จะต้องฟังและทำตามคำสั่ง
เมื่อใดที่ผู้นำทางการทหารต้องการให้ทำอะไร แล้วทางการเมืองไม่สนองตอบ หรือเมื่อใดที่รัฐบาลดำเนินการในลักษณะที่ผู้นำทางการทหารเชื่อว่าจะเป็นการลดทอนบทบาทและอำนาจทางการทหาร ก็จะเลือกใช้การปฏิวัติรัฐประหารเป็นทางออก
แต่สิ่งที่อันตรายที่สุดก็คือ ในหลายประเทศที่ใช้การปฏิวัติรัฐประหารเป็นทางออกสำหรับผู้นำกองทัพนั้น ได้ทำให้ผู้นำกองทัพไม่เพียงแต่มีอำนาจทางการเมืองอย่างเต็มที่ แต่ยังทำให้ผลประโยชน์ทางการเมืองอยู่ในมือ อยู่ในความครอบครองของเหล่าผู้นำกองทัพโดยไร้การตรวจสอบ
กี่ครั้งกี่หน กี่ประเทศแล้ว ที่เมื่อผู้นำทางการทหารที่ขึ้นสู่อำนาจด้วยการทำรัฐประหาร หลังหมดสิ้นอำนาจแล้วถูกตรวจสอบ ก็จะพบว่าคนเหล่านั้นล้วนร่ำรวยผิดปกติทั้งสิ้น
กรณีที่เกิดขึ้นในเมียนมาครั้งนี้ สะท้อนชัดว่าวิธีคิดของผู้นำกองทัพของเมียนมาก็ยังคงไม่แตกต่างไปจากความเชื่อที่ว่า นี่คือการแก้ปัญหาทางการเมืองที่ดีที่สุดเท่าที่จะคิดได้ ส่วนในโลกของความเป็นจริง จะสามารถแก้ไขได้จริงหรือไม่ ประวัติศาสตร์ของแต่ละประเทศพิสูจน์ให้เห็นชัดเจนกันมาแล้ว
การสร้างประชาธิปไตยให้แข็งแรงในประเทศที่ผู้นำกองทัพยังยึดติดกับความเชื่อแบบนี้จึงไม่ง่าย
ภูวนารถ ณ สงขลา