รักษาการ-อย่าหาญทำ

พอผู้ “มีใจเป็นธรรม” ไม่ลำเอียง-ไม่ถลำเข้าข้างใคร เขาออกมา และได้ “ผลสรุป” ทิศทางเดียวกันเป๊ะ ไม่มี “แตกแถว”

นี่หยิบจากวงเสวนาปรีดี พนมยงค์ ๖๗ เขาร่วม “ตัดเกรด” สมาชิกวุฒิสภา หรือ “สว.ลากตั้ง” ชุด “คสช.” ทิ้งลงท่อเกลี้ยง

“หน่วยกิต” ว่ากันว่า “สับปะรังเค” เป็นพวกที่ “แช่แข็งประเทศ”

เป็น “สภาสูง” คอยพิทักษ์อำนาจ คสช. กร่อนเซาะ “ประชาธิปไตย มากที่สุดในประวัติศาสตร์”

สร้างแต่ “ความบอบช้ำ” สะบัก-สะบอม ให้กับ “วิกฤตการเมือง” เป็น “รอยด่าง” ที่มีแต่ “มลทิน” เกินกล่าว

เป้าหมายการมี “สว.ลากตั้ง” ให้มีหน้าที่ “หารือ-ให้คำแนะนำ” เพื่อหาทางออก ให้กับประเทศชาติ และ ประชาชน

แต่ “ร่างเงา” ของ “สว.ลากตั้ง” เป็นเหมือน “ความมืด” ที่บดบังแสงไม่ให้ “ประชาธิปไตย” ฉายแสงทั่วฟ้าเมือไทย

ดีแต่ “พินอบ-พิเทา” นบนอบถ่อมตัว ดูแลคุ้มครอง “คสช.” อย่างสุดสวาท-ขาดใจ

แทนที่จะ “แบ่งภาระ” หนักเบาบนหลัง-บนบ่า ของ บ้านเมือง และ ราษฎรได้ กับเพิ่ม “น้ำหนักกดดัน” บีบคั้นจนหน้าเขียว

ในวงเสวนา เห็นว่า “สว.ลากตั้ง” เป็นการ “สิ้นเปลือง-สูญเปล่า” การมีอยู่ ไร้ประโยชน์ต่อชาติอย่างหนัก

จึงไม่สมควรให้มี “สภาฯสูง” อยู่เหนือระดับ ที่ “ค้ำหัวกบาล” เสียงประชาชนที่เขาสละเวลา ไปเลือกตั้งกัน

มีแค่ “สภาผู้แทนราษฎร-สภาเดียว” ก็เกินคุ้ม ต่อการทุ่มเวลา ไปเลือกนักการเมือง ที่อิงประชาชน เข้ามา

ไม่ควรมี “อีแอบ-ทำตัวแอ๊ป” เข้ามาอย่างผิดฝา-ผิดตัว กันเช่นนี้..

ทุกเสียงที่เขาพากันมา ร่วมแสดงทัศนคติ ล้วนแต่ “ตีแสกหน้า” ส่วนหน้าผาก กึ่งกลางระหว่างคิ้ว เพื่อให้ “ตายในไม้เดียว”

ฉะนั้น, ควรจะมี “จิตสำนึก” ภาวะจิตตื่นให้รู้ตัว เพื่อสามารถตอบสนอง ต่อสิ่งที่ “สะท้อนความจริง” ที่ประชาชนอยากได้

เพราะเหมือนว่า ยังมี “สว.ลากตั้ง” ยังมี “จิตหลง” อาการเข้าใจผิด ว่าตัวเองได้ทำสิ่งดี ฝากไว้อย่างถมเถ

พร้อมจะลุย “เต็มฝีตีน” ที่จะ “ปฏิบัติหน้าที่” ภาระ กันอย่างไม่ยั้งรอ

ถึงแม้ว่า “สว.ลากตั้ง” จะ “รักษาการ” รับผิดชอบงานแทนชั่วคราว ขณะที่ “สว. ๒๐ สาขาอาชีพ” ยังเลือกกันมา ไม่เสร็จ

อยากให้ “สว.ลากตั้ง” แตะเบรกและ “เพรา-เพรา” ให้ตัวเองมีค่าแก่การจดจำ ของชาวบ้านบ้างก็จะดี

ไม่ควร “ผลีผลาม” รีบร้อนจนเกินงาม

คิดจะแต่งตั้ง “๓ องค์กรอิสระชุดใหม่” ที่จะเข้ามาแทน “ชุดใหม่” ที่พ้นวาระ ครบกำหนด หมดอายุลง

“รักษาการ” ไม่ใช่ว่า “มีอำนาจเต็ม” ใช้อย่างเต็มที่ อย่างสมบูรณ์ เต็มเครื่อง เสียเมื่อไหร่ ก็หาไม่

การแต่งตั้ง “๓ องค์กรอิสระ” คือ “ศาลรัฐธรรมนูญ-คณะกรรมการปรามปราบการทุจริตแห่งชาติ และ กกต.”

ควรที่จะ “เว้นวรรค-พักไว้ก่อน” ไม่ต้อง “ชิงโหวต” เลือกผู้ใดเข้ามา “ทำหน้าที่” จะดีกว่าไหม

“สว.ลากตั้ง” อย่าลืม เป็น ๑ ในผู้ให้กำเนิด “กรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ” หรือ “ปปช.”

ที่จะ “พ้นหลุดเขตอำนาจ” ไปในเร็วๆ วันนี้..

จากสิ่งที่ “วีระ สมความคิด” เลขาธิการเครือข่ายต้านคอรัปชั่น ให้เปิดเอกสาร “แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน”

แต่ “ปปช.” ก็เงียบ-เหยียบทุกอย่างเอาไว้ ไม่แจ้งความจริงออกมา ทั้งที่ “ศาลปกครอง”ได้มี “คำสั่งบังคับ” จับผิดลงมาแล้ว

มีแต่ “ความดื้อแพ่ง” คิดแต่จะ “ปกป้อง” การ “ตรวจสอบทรัพย์สินนักการเมือง” โดยไม่เปิดเผย อย่างขันแข็ง

ศาลปกครองพิพากษา ด้วยการ.. “สั่งปรับเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท” ทุกราย แต่ยังไม่มีใคร “สำนึกบาป”

นี่ถือเป็น “ผลพวง” ควันหลง ตามหลังมา จากการที่ “สว.ลากตั้ง” ได้โหวตให้ “ปปช.” เข้ามาทำหน้าที่

เพื่อไม่ให้เกิด “ผลลัพธ์” ที่จะได้ “ปปช.” ขัดขืนและเกิดการ ต่อต้าน ..ไม่ทำตามที่ “ศาลท่านสั่ง” กันอีก

ควรให้ “สว.ชุดใหม่” เข้ามาเลือก “๓ องค์กรอิสระ” จะดีกว่า

ให้ “สว.ลากตั้ง” โหวตล่ะก้อ.. “เกรงเกิดการงัดข้อ” ต่อ “กระบวนการยุติธรรม” มีแต่..ยิ่งเสียหาย

“การบูร”