
“ยิ่งลักษณ์”ไม่เก็บสักบาท.. “ประยุทธ์” ฟาดภาษีน้ำมันกันอ่วม


“ฉกฉวยชิงเพื่อเอาหน้ากัน”
“คนละครึ่ง” ไม่ได้สร้าง ความอิ่มหนำสำราญ ตลอดจนความสมบูรณ์ –แก่ประชาชนทั้งนั้น
“ของที่แพงทั้งแผ่นดิน” เพื่อนำไปโป๊ะใช้หนี้ “ภาษีน้ำมัน”
เป็นการ “รีดภาษี” จาก “ประชาชน” ทุกบาททุกสตางค์ ผู้ที่ใช้คนละครึ่ง หรือไม่ได้สิทธิ์ใช้คนละครึ่ง..แต่ก็ต้องร่วมกันใช้หนี้ “คนละครึ่ง” ผ่านจากภาษีน้ำมัน ที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” รีดเค้นเอาไปใช้เงินกู้
เพราะ “คนละครึ่ง” ที่แจก..ประชาชนจึง “ไม่มีแดร๊ก” -โปรดรับรู้
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาจากเสียงชาวบ้าน”
สมัย “นายกฯหญิงแกร่ง” เป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจ จึงไม่มีการ “เก็บภาษีน้ำมัน-ดีเซล” เพื่อให้ประเทศชาติ และ ประชาชน-ได้เดินหน้ากัน
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” มาจาก “สว.ลากตั้ง” ๒๕๐ คน ที่โหวตเข้ามาอย่างไม่แตกแถว มัดรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อโหวต “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นนายกฯ
เมื่อไม่ได้ “ยึดโยง” เกี่ยวพันหนองยุ่งกับประชาชน “พล.อ.ประยุทธ์” จึงเก็บภาษี “น้ำมันดีเซล” จากประชาชนลิตรละ ๖ บาท และยังบวกภาษีอื่นจากน้ำมันเข้าไปอีกเป็น “ลิตรละ ๑๐ บาท” ซึ่ง “ยิ่งลักษณ์”ไม่เก็บภาษีตรงนี้
คนละครึ่งที่ว่ามีประโยชน์..ทำไมถึงได้ “ยิงลูกโทษ” กันหนักโดยไม่-ปราณี
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“คนละครึ่งเป็นผลงานของพรรคร่วม”
“เดอะป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เคลมมาเป็นผลงานพรรคตัวเอง จึงถูก “จุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์” รองนายกฯ-รมว.พาณิชย์ หน.พรรคประชาธิปัตย์ ซัดเสียน่วม
“คนละครึ่ง” สร้างหนี้ให้กับแผ่นดินจนท่วมประเทศ จนชาวบ้านต้องตกระกำลำบาก ซื้อของกินทุกอย่างแพงอย่างสุดฤทธิ์สุดเดช เพราะต้องเอาเงินไปใช้หนี้ที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” กู้มาเหยียบ ๑๐ ล้านล้านบาท
เมื่อ “จุรินทร์” เสนอตัวว่า “คนละครึ่ง” เป็นผลงานที่ทำคลอดกันมา..นี่รวมทั้งการซื้ออาวุธสงคราม “เครื่องบิน-รถถัง-เรือดำน้ำ” ที่ “ประชาธิปัตย์” ยุคเก่า ๆ เคยค้านกันมาตลอด แต่ยุคนี้ “เครื่องจักรสังหาร” ผ่านฉลุย
แสนยานุภาพของกองทัพ..ประชาธิปัตย์ก็ขานรับ -ทำไมไม่คุย
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“ถ้าไม่ปิดบังคงไม่พังกันเป็นแถบ”
“อหิวาต์แอฟริกา” หรือ “โรคสุกร ASF” พบครั้งแรก ที่สนามบินภูเก็ต ติดมาจาก “ไส้กรอกซาลามี่” ที่นักท่องเที่ยวจีน นำเข้ามา เมื่อ ๑๘ ธันวาฯ ปี ๖๑ แต่ “ซ่อนงำ” จนลามขยายยิ่งกว่า-ฟ้าแลบ
เพราะ “การปิดบัง” เป็นชั้นความลับเช่นนี้อย่างไร..”หมู” เกษตรกรรายย่อย ที่เป็นตาสีตาสา กว่า ๑๐๐,๐๐๐ จึงตายกันมาเป็นระยะ โดยตายต่อเนื่อง จนหมดเล้า
ดูเหมือนว่า ใครที่พูด “ความจริง” ในยุคนี้..ภัยจะมาเยือนถึงประตูบ้าน เมื่อ “เสี่ยแป้น” ฟาร์มหมูที่นครปฐมเปิดเผย ต้องชำแหละหมูที่เป็นโรคตายยัดใส่โอ่ง..พอไขความจริงออกมา มีโทรศัพท์ไปขู่ฆ่า เอาชีวิต
ปิดบังก็ชั่ว..นี่ไม่กลัวถึงจะฆ่าเขา ทั้งที่เป็น-ความผิด
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“ศูนย์อำนาจต้องเข้าง่าย”
“ระบอบประยุทธ์”อยู่ในขั้นตอน “หารือ” ทำกำแพงสูง ๔ เมตร เพื่อปิดล้อมทำเนียบฯ เหมือนเป็น “สถานที่ปิดตาย”
“ทำเนียบขาว-ไวท์เฮ้าส์” ของพญาอินทรีสหรัฐอเมริกา ก็เป็นซีกโครงเหล็กที่มองจากข้างนอก เห็นทุกอย่างได้อย่างโปร่งใส
เช่นเดียวกับ “ทำเนียบ-ตึกไทยคู่ฟ้า” ที่มีโครงเหล็กเตี้ยๆ มองเห็นข้างใน ซึ่งก็ดีอยู่แล้วมิใช่หรือ
ถ้าคิด “สร้างกำแพงสูง ๔ เมตร” ความศักดิ์สิทธิ์ ความศรัทธา ความเชื่อถือ ก็จะมลายหายสิ้นไป..เพราะมองกำแพงที่ “หนาทึบ” เหมือนเห็น “ที่กักขัง-ลาดยาว” เช่นไรเช่นนั้น
คิดแต่สิ่งที่เป็นภาระ..อีเหละเขละขละ ควรเลิก-ทันควัน
“กะพรุนไฟ”
๑๔ มกราคม ๒๕๖๕