มาดามโอมาธ์ระเบิด “แก๊งเกย์หื่นตกนายแบบ ชวนขึ้นรถพาไปงาบ” (อีบุ๊กบางกอกทูเดย์ ฉบับที่ 393 วันที่ 18-24 ส.ค. 66)

Social sharing

อีบุ๊กบางกอกทูเดย์ ฉบับที่ 393 วันที่ 18-24 สิงหาคม 2566

หน้า 36 มาดามโอ/เมาธ์ระเบิด

แก๊งเกย์หื่นตกนายแบบ

ชวนขึ้นรถพาไปงาบ

การประกวด “นายแบบ” สมัยก่อนนั้นมีผู้เข้าประกวดจำนวนไม่มากเหมือนสมัยนี้ ที่กองแม่นิยมหารายได้ด้วยการขายลิขสิทธิ์แบ่งออกเป็น 77 จังหวัด แล้วคนซื้อก็ไปจัดประกวดคัดเลือกและแต่งตั้งตัวแทนกันเอาเอง จากนั้นจึงส่งตัวแทนเข้ามาประกวดบนเวทีใหญ่อีกที

แต่ว่านายแบบสมัยนี้ โดยเฉพาะคนที่ทำงานด้าน “เทรนเนอร์” ตามฟิตเนสหรือส่วนตัว ไม่ค่อยง้อผู้จัดรายย่อย หันมาติดต่อซื้อลิขสิทธิ์จากกองแม่โดยตรง แล้วแต่งตั้งตัวเองสวมสายสะพายเป็นตัวแทนของจังหวัดนั้น ๆ ไป สบายใจเฉิบโดยไม่ต้องไปแข่งหรือแย่งตำแหน่งจากใคร

อีกทั้งตำแหน่ง ถึงแม้ว่าจะเป็นตัวแทนประจำจังหวัด สามารถเอาไปต่อยอดงานเทรนเนอร์ของตนเอง ที่หล่อ ล่ำ บึ๊ก แถมยังมีดีกรีหนุ่มหล่อประจำจังหวัดพ่วงท้ายอีกด้วย นับว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาด “เรียกแขก” (ลูกค้า) ที่มีรสนิยม (ทางเพศ) ต้องการหนุ่มหล่อโพรไฟล์งามมาเทรนให้มีกำลังใจในการออกกำลังกายเพิ่มอีกเพียบ

มาเข้าประเด็นกันเลยตรงนี้ หลังจากที่เวทีใหญ่จัดประกวดในรอบไฟนอล ก็จะมีหนุ่มหล่อเกิดขึ้นในฟ้าเมืองไทยอีก 5 คน ตามตำแหน่งที่ 1-5 และจะมีหนุ่มหล่อเหมือนกัน แต่เป็นหนุ่มหล่อที่อกหัก 77 คน – 5 คน = 72 คน เดินลงมาจากหลังเวที

ทีนี้ก็จะมีหนุ่ม ๆ ที่มีทีมงาน อาทิ ผู้ซื้อลิขสิทธิ์จัดหาตัวแทนประจำจังหวัด ทั้งซื้อรายจังหวัด และรวมหลาย ๆ จังหวัด (ราคาจะถูกลง) และพี่เลี้ยง พากันหอบชุดเสื้อผ้าและสัมภาระต่าง ๆ กลับบ้าน

ในส่วนหนุ่มหล่อมาก หล่อปานกลาง หล่อน้อย และที่คิดว่าตัวเองหล่อ ซึ่งมาคนเดียว เพราะตามที่บอกไว้คือ ลงทุนซื้อสายสะพายใส่เอง ที่มีรถเก๋งส่วนตัวก็ขับกลับบ้านเลย ส่วนที่ไม่มีรถก็จะหอบกระเป๋า ข้าวของอีรุงตุงนัง ออกมายืนเรียกรถแท็กซี่กลับที่พัก

นี่แหละเป็นการเปิดโอกาสให้บรรดา “เกย์สายหื่น” ทั้งหลาย ออกตามล่าหาเหยื่อ โดยจะทำตัวเป็นคนดีมีน้ำใจ ถามประมาณว่า “น้องมาคนเดียวเหรอ!?!”… “ให้พี่ขับรถไปส่งมั้ย !?!”

เมื่อเข้าทาง “เนื้อเข้าปากเสือ” ทุกอย่างก็น่าจะจบ ส่วนจะจบตรงไหนน่าจะเดากันออก…ดันเผลอขึ้นเขียง เอ๊ย! ขึ้นรถมาซะขนาดนั้น หนุ่มน้อยคงจะสู้ “มารยา(เกย์)หญิงล้านเล่มเกวียน” ไม่ได้หรอก

แต่….แต่ก็ไม่แน่ อาจเป็นมวยถูกคู่ “ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่” เพราะเด็กหนุ่มสมัยนี้ก็ใช่ย่อย กลายเป็นเกย์หื่นตกหลุมพรางซะมากกว่า คราวนี้ที่กะว่า “น้ำแตกแล้วแยกทาง” อาจถึงต้อง “เลี้ยงดูปูเสื่อ” กันไปยาว ๆ ทั้งแบบเต็มใจและไม่เต็มใจเจ้าค่ะ!