“ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงพาณิชย์ ตอบกระทู้สดด้วยวาจาต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงความคืบหน้าในการศึกษาการทำประชามติ
วันที่ 11 มกราคม 2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ 2560 ตอบกระทู้สดด้วยวาจาต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงความคืบหน้าในการศึกษาการทำประชามติ ยืนยันรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยมีความมุ่งหมายที่จะดำเนินการทำประชามติ ที่จะนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้รับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนทุกฝ่ายอย่างรอบคอบรอบด้าน และประชาชนส่วนใหญ่มีความคิดเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สร้างประชาธิปไตยไปในทิศทางเดียวกัน
.
1. นายภูมิธรรม ยืนยันเป้าหมายสำคัญคือต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยให้มากขึ้น เพราะทุกฝ่ายรับรู้เช่นเดียวกันว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ก่อปัญหาความขัดแย้งในหลายเรื่องและทำให้ประเทศเสียหาย ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้มีความพยายามที่จะยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นพรรคเพื่อไทยยังเป็นพรรคฝ่ายค้าน มีการยื่นแก้ไขมาแล้ว 6-7 ครั้ง และพยายามผลักดันกันหลายวิธี แต่ทุกครั้งก็เคยแก้ไขได้
.
2. ประเด็นสำคัญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งให้หมดไปและเดินหน้าไปให้ได้ แต่ความเป็นจริงบอกมาทุกครั้งว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยเพื่อแก้ไขปัญหาประเทศให้มากขึ้น แต่ส่วนใหญ่กังวลใจกับการจะไปแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคร่วมทุกพรรคก็สอบถามเรื่องนี้ และเมื่อเราแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาก็ได้พูดอย่างชัดเจนว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งที่ประชุมรัฐสภาก็ยืนยันและตอบรับให้เป็นนโยบายรัฐบาล และเรากำลังดำเนินการตามที่ได้แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาทั้งหมด สิ่งที่สำคัญคือเราต้องการรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ซึ่งการไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 จะหลีกหนีจากปัญหาที่จะเกิดขึ้นซึ่งจะเป็นความขัดแย้งใหม่
.
3. ขอเชิญชวนท่านมาแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง มาช่วยกันทำให้ทุกอย่างเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เพราะเท่าที่มีการรับฟังความคิดเห็นประชาชนกลุ่มต่างๆ ในภาคเหนือได้มีการสอบถามกลุ่มชาติพันธุ์ ภาคอีสานได้สอบถามชาวนา ภาคกลางและภาคตะวันออกก็สอบถามกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ภาคใต้ก็สอบถามพี่น้องประชาชนรวมไปถึงพี่น้องมุสลิม ส่วนใหญ่ล้วนเห็นด้วยกับแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ไม่อยากให้แตะหมวด 1 และ หมวด 2 ความคิดเห็นของวุฒิสภาก็ชัดเจนว่าอะไรก็ได้ที่ทำให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น แต่ต้องไม่แตะในส่วนนี้
.
4. รัฐบาลพร้อมรับฟังเสียงส่วนใหญ่และเคารพเสียงที่แตกต่าง ซึ่งได้ยืนยันว่าจะบันทึกความคิดเห็นต่างไว้ และขณะนี้อยู่ระหว่างที่สำนักนายกรัฐมนตรีกำลังรวบรวมและสรุป หากพูดแบบสบายๆ คือจะให้เสร็จภายในไตรมาสแรกของปี 2567 แต่ก็จะพยายามให้เสร็จภายในเดือนมกราคมนี้
ที่มา : เพจพรรคเพื่อไทย
Facebook Comments
