‘ภิญโญ ทองเจือ’ บางกอกแลนด์ ปรับโหมดสู่ Tourist Destination
หลังจากที่สร้างปรากฏการณ์ แจกฟรี ทุเรียนกว่า 10 ตัน หรือ ประมาณ 1,000 กิโลกรัม ในงานเปิด “ล้งทุเรียน @ตลาดรวมใจ เมืองทองธานี” พร้อมกับการหาสุดยอดราชาทุเรียน กินให้แหลก กินให้ไว” จนสร้างความฮือฮา และมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก เมื่อช่วงสัปดาห์ต้นเดือน พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งผู้บริหาร บริษัท บางกอกแลนด์ เอเจนซี่ จำกัด เผยว่า เป็นอีกหนึ่งความมุ่งหมาย ที่ต้องการให้ อิมแพค เมืองทองธานี เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว หรือ Tourist Destination พร้อมๆ กับการสนับสนุน เกษตรกรชาวสวนทุเรียน
ปักหมุด Tourist Destination
ภิญโญ ทองเจือ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บางกอกแลนด์ เอเจนซี่ จำกัด ซึ่งเป็น หนึ่งในบริษัทในเครือบางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปัจจุบัน เมืองทองธานี ของ มีความพร้อมมาก ขณะเดียวกัน ก็พยายามหาทุกอย่างที่เป็นแม่เหล็ก เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง ให้กับพื้นที่แห่งนี้ “เรามีประชาชนขในพื้นที่ เป็นลูกค้าหลัก เนื่องจากภายในเมืองทอง มีประชาชนเข้ามาพักอาศัยในพื้นที่มากกว่า 300,000 คน เพราะเรามีการคมนาคม ที่ค่อนข้างสะดวก ทั้งทางด่วน และในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก็จะมีการเปิดรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่เข้ามาถึงเมืองทองธานี รวมถึงยังมีที่จอดรถได้อีกเป็นพันคัน ในเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เราก็เลยวางแผนคิดต่อไปว่า อะไรที่ชาวต่างประเทศต้องการมากที่สุด ซึงนั่นก็คือ ทุเรียน”
ที่สำคัญ ยังเรียกว่า เป็นไปตามสิ่งที่รัฐบาลวางนโยบาย เรื่อง ซอล์ฟพาวเวอร์ (Soft Power) “ทุเรียน ผมถือว่าเป็น ซอล์ฟพาวเวอร์ ที่แข็งแรงมาก สามารถดึงดูดชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะ คนจีน ที่ส่งทุเรียนกันเดือนหนึ่งเป็นหมื่นๆ ตัน เพราะฉะนั้น ในเมื่อเราส่งออกทุเรียนไปจีนได้เป็น หมื่นๆ ตัน ได้ แล้วทำไม คนจีนจะมากินทุเรียนที่เมืองไทยบ้างไม่ได้ และยิ่งไปกว่านั้น ทุเรียน ยังถือเป็นผลไม้ ที่รับประทานได้ทุกศาสนา อย่างไม่จำกัด” ผู้จัดการทั่วไปของ บางกอกแลนด์ เอเจนซี่ กล่าวอีกว่า นอกจากเรื่องของทุเรียนที่หลากหลายสายพันธุ์ ในราคา ที่สามารถจับต้องได้แล้ว ที่ตลาดรวมใจ แห่งนี้ ยังมีอาหารทะเลสดๆ ที่ส่งตรงจากชาวประมงอีกด้วย เพื่อรองรับประชาชน และนักท่องเที่ยว ที่เข้าชมงานแฟร์ และเลือกซื้อสินค้าภายในเมืองทองธานี
“ล้ง” เพื่อเกษตรกร และผู้บริโภค
สำหรับล้งทุเรียน @ ตลาดสดรวมใจ เมืองทองธานี ใช้งบประมาณสำหรับลงทุนการก่อสร้างประมาณ 3 ล้านบาท โดยล้งแห่งนี้ จำหน่ายทุเรียนทั้งแบบขายส่งและขายปลีก แตกต่างจากล้งทุเรียนอื่น ๆ ซึ่งจะคัดสรรทุเรียนคุณภาพดี เกรด
ส่งออกจากเครือข่ายชาวสวนทุเรียน รวม 4 จังหวัด ได้แก่ ระยอง จันทบุรี ตราดและชุมพร เพื่อมาจำหน่ายในราคาที่เหมาะสม มีทุเรียนให้เลือกหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งหมอนทอง พวงมณี ชะนี โดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสนับสนุนชาวสวนทุเรียนและให้ประชาชนได้บริโภคทุเรียนคุณภาพดีของไทย พร้อมจัดกิจกรรมการตลาดครอบคลุม เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้ว่า สามารถเลือกซื้อทุเรียนที่ตลาดสดรวมใจได้ตลอดทั้งปี โดยมีคอนเซ็ปต์ ว่า คิดถึงทุเรียน คิดถึงตลาดสดรวมใจ @ เมืองทองธานี”
คุณภิญโญทองเจือยังบอกด้วยว่าล้งทุเรียนนี้ยังต้องมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการสร้างห้องเย็น “ซึ่งในส่วนนี้ เราต้องลงทุนอีกเป็น 10 ล้านบาท ในการทำห้องเย็น ที่มีความเย็นไม่ต่ำกว่าลบ 10 และจากการให้ความสนใจของประชาชน ที่เข้ามาร่วมงานที่ล้งของเรา ก็เชื่อว่า เราจะประสบความสำเร็จในโปรเจคนี้ อย่างแน่นอน ซึ่งวันนี้ ก็มีหลายคน เข้ามาติดต่อเพื่อขอนำทุเรียน มาลงที่ล้งแห่งนี้ ขณะที่ ราคาทุเรียนที่เรานำมาจำหน่ายในล้ง ก็มีราคาไม่สูงเหมือนตลาดทั่วไป และยังเป็นทุเรียน เกรดส่งออก อีกด้วย”
ภาพรวม “เมืองทองธานี” วันนี้
ในส่วนของภาพรวมของเมืองทองธานี ในวันนี้ คุณภิญโญ ในฐานะประธานกรรมการบริหาร และนักบริหารที่อยู่กับธุรกิจมานานมากกว่า 30 ปี กล่าวว่า วันนี้ คอนโดมิเนียม ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของ บางกอกแลนด์ ไม่มีห้องว่างเหลืออยู่เลย “และที่สำคัญ มีคนอยู่เต็มแทบทุกอาคาร รวมถึง ยังมีการโอนขายห้องกันอย่างต่อเนื่องในราคาที่สูงกว่า ครั้งแรกที่ซื้อมา และหลังจากที่รถไฟฟ้าสายสีชมพู เข้ามาในเมืองทอง ก็จะยิ่งทำให้มูลค่าของพื้นที่ในเมืองทองธานี เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ขณะเดียวกัน เรายังมีที่ดินอีกหลายร้อยไร่ ในการสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจที่ทำอยู่อีกด้วย” ถือเป็นอีกหนึ่งขุมทรัพย์ ของ บางกอกแลนด์ ที่จะสร้างมูลค่าทางธุรกิจ ได้อีกมากมาย
เมืองทองธานีในวันนี้ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งช้อปปิ้งหรือแหล่งรวมนักท่องเที่ยวที่กำลังกายเป็น Tourist Destination แล้ว วันนี้ เมืองทองธานี ยังเรียกได้ว่า เป็นศูนย์รวม ของทุกครอบครัว ด้วย “ภายในห้างฯ ของเรา นอกจากจะมีคนเข้ามาช้อปปิ้ง และใช้บริการเต็มพื้นที่แล้ว ในช่วงเช้าๆ ยังมีนักเรียน เซนต์ฟรังค์ ซีสเซเวียร์ ที่คุณพ่อ คุณแม่ มาส่งและมารับน้องๆ ในตอนเช้า เข้ามารับประทานอาหารเช้า ก่อนไปโรงเรียน และหลังเลิกเรียน ซึ่งในส่วนนี้ เราเองก็ได้วางระบบรักษาความปลอดภัย ให้กับนักเรียนเป็นอย่างดี ขณะที่ในช่วงเที่ยง ก็จะมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร เข้ามาใช้บริการภายในห้าง คอสโม บาซาร์ รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกองบังชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้ามาใช้บริการภายในพื้นที่ห้างของเราด้วย จึงยิ่งมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในพื้นที่มากขึ้น ที่สำคัญ ยังมีท่ารถตู้ อยู่ภายในอาคารเพิ่มความสะดวกสบายให้อีกด้วย”
เอ้าท์เล็ต ยังครองใจผู้บริโภค
เอาท์เล็ตสแควร์เมืองทองธานียังเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ยอดนิยมของนักช้อป “ผมกล้าบอกได้เลยว่า เป็นพื้นที่ที่มีคนอยากเข้ามาใช้พื้นที่ของเรา เพราะพื้นที่ของเรา มียอดขายที่ดีมากกว่าจุดต่างๆ ทำให้ลูกค้าที่มาเปิดเอ้าท์เล็ตภายในพื้นที่ของเรา ต่างก็มีความสุขมาก นอกจากนี้ เรายังมีโรงแรม อยู่ภายในพื้นที่ถึง 2 โรงแรมด้วยกัน ที่สามารถให้บริการ กับผู้ที่เข้ามาร่วมประชุมธุรกิจ และ ผู้ที่มาจัดงานแสดงสินค้าต่างๆ ในพื้นที่ ถือเป็นพื้นที่ ซึ่งมีความสะดวกสบาย ที่รองรับทุกธุรกิจ และทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายในเมืองทองธานี”
เตรียมพบ โปรเจคยักษ์ แห่งอนาคต
กระนั้นก็ตามในส่วนของโครงการหรือโปรเจคที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นคุณภิญโญกล่าวแต่เพียงว่าต้องมีแน่นอนและคาดว่าน่าจะเป็นโปรเจคใหญ่ที่ไม่ได้ตอบโจทย์แค่เพียงคนไทยเท่านั้นแต่ยังตอบโจทย์ให้กับผู้คนทั่วโลก “ผมขอยังไม่บอกว่าเป็นโปรเจคอะไร แต่เป็นโปรเจคที่ตอบโจทย์คนทั่วโลก เพราะแขกของเรา มีทั้งคนไทย และคนต่างชาติ ซึ่งที่ผ่านมา ชาวต่างชาติที่เข้ามาที่นี่ และในเมื่อมาแล้ว เราก็ต้องมีสิ่งที่ต้องทำให้ประทับใจ อย่างแน่นอน”
สำหรับภาพของเมืองทองในอนาคต “ผมมองว่า จะต้องเป็นเมืองที่สมบูรณ์ สะอาด และคนอยู่อย่างมีความสุข มีสิ่งแวด้อมที่ดี มีอาหารการกินที่หลากหลาย และเดินทางอย่างสะดวกสบาย อย่างที่สุด” นี่ถือสิ่งที่ คุณภิญโญ ทองเจือ ผู้จัดการ บริษัท บางกอกแลนด์ เอเจนซี่ จำกัด ตอกย้ำถึงความสำเร็จ ของเมืองทองธานี ในวันนี้ และในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น
