Digiqole ad

พุ่งทะยานไปอีกขั้น! พลังแห่ง ไทรอัมพ์ พร้อมก้าวจากรายการ ซูเปอร์ครอส สู่ โปรโมโตครอส

 พุ่งทะยานไปอีกขั้น! พลังแห่ง ไทรอัมพ์ พร้อมก้าวจากรายการ ซูเปอร์ครอส สู่ โปรโมโตครอส
Social sharing

Digiqole ad
  • ฤดูกาลแรกของการแข่งขันซูเปอร์ครอสประสบความสำเร็จด้วยการคว้า holeshots และชนะการแข่ง Heat Race
  • เตรียมลงสนามในศึกโปรโมโตครอส 11 สนาม
  • Joey Savatgy เตรียมประเดิมสนามแข่งด้วยรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ TF 250-X

การเขย่าโลกของโมโตครอสไม่ใช่เรื่องง่าย แต่นั่นคือสิ่งที่ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ตั้งใจจะทำในปี 2024 ด้วยรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์  TF 250-X ที่ลงแข่งขันทั้งในรายการ Monster Energy AMA 250SX East Championship และ Pro Motocross Championship โดยตลอดทั้งฤดูกาลการแข่งขันซูเปอร์ครอส ได้แสดงศักยภาพให้เห็นจากการคว้าholeshots และชนะ Heat Race การต่อสู้เพื่อลุ้นตำแหน่งบนโพเดียม ซึ่งตอนนี้ถึงเวลาก้าวไปสู่การแข่งขันสนามโมโตครอสแล้ว

Jalek Swoll ประสบความสำเร็จสูงสุดในการแข่งขันซูเปอร์ครอสกับรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์รุ่นใหม่ล่าสุด แม้จะได้รับบาดเจ็บที่หลังช่วงต้นฤดูกาล แต่หนุ่มนักบิดวัย 23 ปีจากเบลล์วิว ฟลอริดา ยังคงเป็นตัวแทนของไทรอัมพ์ตลอดการแข่งขันชิงแชมป์ Monster Energy AMA 250SX East Championship ทั้ง 9 สนาม

แม้จะพลาดโอกาสขึ้นโพเดี้ยมครั้งแรกจากการลงประเดิมสนาม หลังจากการต่อสู้เพื่อชิงอันดับสองในรอบที่ 8 ที่ฟิลาเดลเฟีย แต่รถจักรยานยนต์หมายเลข 33 ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยจบการแข่งขันทุกสนามภายใน 5 อันดับแรกอย่างต่อเนื่อง คว้า holeshots ไปได้ถึง 2 ครั้ง และคว้าชัยชนะใน Heat Race เป็นครั้งแรกทั้งของตัวเองและไทรอัมพ์ โดยเป้าหมายคือจบการแข่งขันภายใน 5 อันดับแรก ในที่สุด Jalek Swoll สามารถคว้าอันดับโดยรวมที่อันดับ 7 ไปได้  หากไม่ติดปัญหาสองอย่างที่นอกเหนือการควบคุมของเขาในช่วงสนามแรก ซึ่งขาดคะแนนเพียง 9 คะแนนเท่านั้น ก็จะสามารถคว้าอันดับมาได้อย่างง่ายดาย

ตอนนี้แสงไฟอันเจิดจ้าของสนามแข่งในร่มจะถูกแทนที่ด้วยภูมิประเทศอันท้าทายของสนามกลางแจ้ง เมื่อฤดูกาลแข่งรายการ Pro Motocross 2024 เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ Fox Raceway ในเมืองพาลา รัฐแคลิฟอร์เนีย ตลอดการแข่งขัน 11 สนามและ 22 โมโต ในรายการระดับประเทศ ทีมไทรอัมพ์ เรซซิ่ง เชื่อมั่นในพลังของ Jalek Swollร่วมด้วย Joey Savatgy เพื่อนร่วมทีมผู้ชนะการแข่งขันหลายสมัยบนรถจักรยานยนต์ ไทรอัมพ์ TF 250-X หมายเลข 17

ทั้งนี้ Joey Savatgy มุ่งมั่นฝึกซ้อมตลอดทั้งปี เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันรายการโมโตครอส ซึ่งก่อนหน้านี้ในรุ่น 250 ซีซี ระหว่างปี 2013 ถึง 2018 เขาเคยจบการแข่งขันด้วยอันดับรวม 3 อันดับแรก ถึง 2 ครั้ง และขึ้นโพเดี้ยมถึง 14 ครั้ง โดย 7 ครั้งเป็นการคว้าชัยชนะสูงสุดมาครอง

Jalek Swoll หมายเลข 33

“การได้เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ระดับตำนาน และเป็นนักแข่งคนเดียวตลอดทั้งฤดูกาลซูเปอร์ครอส ทำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจ พวกเราเรียนรู้กันเยอะมาก ทั้งในฐานะทีม และกับรถจักรยานยนต์คันนี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับไทรอัมพ์ ที่พัฒนา TF 250-X ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม รถจักรยานยนต์คันนี้เข้าโค้งได้ดีมาก มีน้ำหนักเบาและความคล่องตัวสูง ทำให้ผมสามารถควบคุมการขับขี่ได้อย่างที่ต้องการ”

“เมื่อมองไปข้างหน้าของการแข่งขันระดับประเทศ ผมรู้สึกดีมาก เพราะผมชอบการแข่งขันรายการโมโตครอสมากกว่า และผมก็อดใจไม่ไหวที่จะโชว์ศักยภาพของตัวเองพร้อมรถจักรยานยนต์คันนี้ เป้าหมายคือการต่อสู้เพื่อขึ้นโพเดี้ยมในทุกสนาม ผมมีความสามารถที่จะอยู่ตรงจุดนั้นได้ และรถคันนี้ก็เช่นกัน เหล่านักแข่ง Grand Prix เริ่มแข่งสนามกลางแจ้งกันไปแล้ว ดังนั้นเราสามารถเรียนรู้จากสิ่งที่พวกเขาได้เจอมาได้”

“การแข่งขันระดับประเทศ ถือว่าเป็นสิ่งที่สุดยอดไปเลย นักแข่งเก่ง ๆ ลงแข่งขันกันเกือบหมด ทำให้สนามแข่งแต่ละสนามจะลุกเป็นไฟแน่นอน ดังนั้นการทำผลงานให้ได้ดีถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก อย่างเช่น สนาม Fox Raceway ที่เมืองพาลา บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ มันอาจจะไม่ใช่สนามที่ผมถนัดที่สุด แต่เป็นสนามเปิดฤดูกาล ทุกคนเต็มไปด้วยความฮึกเหิมและพร้อมลงสนาม แน่นอนผมเองก็พร้อมเหมือนกัน”

Joey Savatgy หมายเลข 17

“ช่วงพักฤดูกาลของผมยาวนานมาก ถึงแม้จะไม่ได้นั่งเฉย ๆ แต่การดูการแข่งขันโดยไม่ได้มีส่วนร่วมก็เป็นเรื่องไม่ง่ายอยู่ดี แต่ก็นี่คือสิ่งที่เราต้องเผชิญ ช่วงเวลานี้จึงกลายเป็นช่วงฝึกซ้อมพิเศษ ผมได้ขี่รถในสนามกลางแจ้งเยอะมาก ทั้งตัวรถและตัวผมเองก็ได้รับการปรับแต่งและพัฒนาไปมาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งร่างกายและจิตใจ”

“ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ขี่รถจักรยานยนต์คันนี้จนถึงตอนนี้ เราได้ปรับปรุงอะไรหลายอย่างไปมากมาย  แต่เราก็ยังคงเรียนรู้ต่อไป เรามีทีมงานที่ยอดเยี่ยมคอยช่วยเหลือ บรรยากาศภายในทีมดีเยี่ยม พวกเขามีความรู้มากมาย ผลงานที่ดีของพวกเขาในการแข่งขันซูเปอร์ครอส ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผมมาก แม้ผมจะอยากลงแข่งไปกับพวกเขาด้วยก็ตาม แต่ตอนนี้โอกาสของผมใกล้จะมาถึงแล้วเช่นกัน

“เป้าหมายของผมในฤดูกาลนี้คือการลงสนามและคว้าชัยชนะ  ผมรู้สึกเชื่อมโยงกับรถจักรยานยนต์คันนี้ แต่การไม่ได้ลงแข่งบ่อย อาจไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่ผมคุ้นเคยกับ ไทรอัมพ์ TF 250-X  เป็นอย่างดี ร่างกายผมมีความแข็งแรง ดังนั้นผมคิดว่าเราสามารถสร้างผลงานที่ดีได้  อีกทั้งประสบการณ์ของผมจะเป็นข้อได้เปรียบ เพราะเป็นฤดูกาลแข่งขันที่ยาวนาน มีการแข่งขันหลายสนาม”

“สำหรับช่วงเวลาที่อะไร ๆ ไม่เป็นไปตามแผน เป้าหมายคือการเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุดและทำผลงานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้  ผมจะคว้าชัยชนะถ้าหากมันเป็นไปได้ แต่สำหรับสนามที่ไม่ง่าย ผมจะจำภาพรวมของทั้งฤดูกาลไว้และเก็บคะแนนต่อเนื่อง ถ้าเราสามารถจบรอบแรกได้อย่างยอดเยี่ยม จะส่งผลดีต่อทั้งฤดูกาลที่เหลือ”

Bobby Hewitt – หัวหน้าทีม ไทรอัมพ์ เรซซิ่ง สหรัฐฯ

“มีคำถามมากมายเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ TF 250-X ในปี 2024 แต่หลังจากการแข่งขันรายการซูเปอร์ครอส 9 สนาม การพัฒนาและการทดสอบต่าง ๆ ทำให้ช่องว่างระหว่างเรากับคู่แข่งแคบลง ผมรู้สึกมั่นใจมากขึ้นสำหรับการแข่งขันสนามโมโตครอส มากกว่าตอนที่ลงแข่งสนามซูเปอร์ครอส”

“ถ้าจะมองว่านี่เป็นจุดช่วงระยะกลางปีของเรา สำหรับผมแล้ว ไฮไลท์สำคัญสองอย่างในปี 2024 คือ การได้ลงสนามแรกที่เดทรอยต์ มันเป็นประวัติศาสตร์  อีกอย่างคือ Jalek คว้าชัยชนะ Heat Race ครั้งแรกให้กับตัวเองและ ไทรอัมพ์ ที่ฟิลาเดลเฟีย ส่วนช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของเราคงเป็นที่สนาม Indianapolis ตอนที่ระบบเซ็นเซอร์มีปัญหา ทำให้ Jalekไม่สามารถแข่งขันในเรซสุดท้ายของสนาม มันส่งผลต่ออันดับ แต้ม และขวัญกำลังใจของเรา แต่มันก็เป็นบทเรียนที่สำคัญ และเป็นสิ่งที่เราสามารถแก้ไขได้”

“การแข่งระดับประเทศเป็นเรื่องยากสำหรับนักแข่ง ในช่วง 5 ฤดูกาลที่ผ่านมา มีนักแข่งลงสนามโดยเฉลี่ย 121 คน จากจำนวนนั้น มีเพียง 9 คนเท่านั้นที่สามารถจบการแข่งขันทุกเรซ และมีเพียง 5 คนเท่านั้นที่สามารถเก็บคะแนนได้ทุกโมโต ถือเป็นการแข่งขันที่โหดจริง ๆ แต่ Jalek มีฤดูกาลและมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม ซึ่งส่งผลให้เขามีความมั่นใจและแรงจูงใจในการแข่งขันสนามโมโตครอส”

“การที่ Joey เข้ามาเสริมทีมในฤดูกาลการแข่งขันสนามโมโตครอสถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ ทั้งสำหรับทีมและ Jalek เพราะทำให้เขามีเพื่อนร่วมทีมที่จะพูดคุยเกี่ยวกับไลน์การแข่งและรายละเอียดอื่น ๆ แน่นอนว่าทำให้พวกเราทำงานหนักขึ้นในแต่ละสัปดาห์ โดยปีนี้เราแบกรับความกดดันไว้เป็นอย่างมาก ดังนั้นการมีนักแข่งสองคนลงสนาม จึงเป็นเรื่องที่ดี”

“ผมมีเป้าหมายเดียว คือการคว้าแชมป์ ทุกอย่างคือกระบวนการที่จะไปถึงจุดนั้น เรารู้จักรถคันนี้ดีขึ้นมาก มีฐานที่มั่นคง ทีมงานและนักแข่งมีแรงจูงใจ สำหรับสนามพาลา ถ้าทั้งสองนักแข่งสามารถจบการแข่งขันทั้งสองโมโตใน 10 อันดับแรก ผมก็รู้สึกพอใจมาก เมื่อเรามาถึงสนาม High Point Raceway ซึ่งเป็นสนามที่ 4 ของฤดูกาล เราจะได้เจอกับ สภาพสนาม และสภาพอากาศที่แตกต่างกัน ดังนั้นผมคาดหวังว่าจะเห็นพวกเขาจบการแข่งขันใน 5 อันดับแรก และขึ้นโพเดี้ยมในช่วงกลางฤดูกาล”

Ian Kimber – หัวหน้าฝ่ายโปรแกรมออฟโรดของไทรอัมพ์

“พวกเรามีความตื่นเต้นอย่างมากที่จะเปลี่ยนผ่านจากการแข่งซูเปอร์ครอส สู่การแข่งโมโตครอส ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมในซูเปอร์ครอส ประกอบกับความแข็งแกร่งที่เราเห็นในรุ่น MX2 ทำให้เรามั่นใจในศักยภาพของรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์TF 250-X ว่าจะสามารถโชว์ผลงานได้ดีในสนามแข่งทุกประเภท เราหวังว่าจะได้เห็นการคว้า holeshot และการทำอันดับนำเหมือนที่เคยทำได้ในสนามอื่น ๆ อีกครั้ง”

“ทั้งนี้ Jalek เพิ่งผ่านพ้นฤดูกาลซูเปอร์ครอสที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา และตอนนี้เขากำลังจะมุ่งหน้าสู่การแข่งโมโตครอส โดยมี Joey เข้าร่วมทีม ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเสริมทัพนักแข่งของเราเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความแข็งแกร่งและประสบการณ์ให้กับทีมแข่งด้วย ถึงแม้ว่ากฎกติกาใหม่จะไม่เป็นใจกับเราในการแข่งซูเปอร์ครอส แต่ก็ทำให้ Joey มีเวลาเตรียมตัวเพิ่มเติมสำหรับการแข่งโมโตครอส และเขาก็พร้อมที่จะโชว์ฝีมือให้ทุกคนได้ประจักษ์”

###

Facebook Comments


Social sharing

Related post