
“พอเพียง” ที่มักกล่าว.. “ประยุทธ์” เขาต้องย้าย กลับไปนอนบ้านตน


“หนทางไปสู่ความยิ่งใหญ่ย่อมต้องเผชิญอุปสรรค”
ขึ้นมาเป็น หนึ่งเดียวในหัวใจของชาว กทม. ต้องบอกว่า “ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ทำงานหนัก
ยิ่งก้าวขึ้นมาเป็น “พ่อเมือง” ยิ่งทำตัวเป็นคนธรรมดา ไม่ต้องเที่ยวประกาศ แบบสามคนหามสี่คนแห่ ให้เสียภาษีของประชาชน ให้มาต้อนรับกันด้วย
เพราะความพื้นๆ ยืนติดดิน ไปที่ไหน “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” ไปคนเดียว..ไม่มีคนคุ้มกันติดตามเป็นหางว่าว..เคยอยู่ที่บ้านตัวเอง ก็นอนอยู่ที่นั่นเหมือนเดิม แต่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” รวยกว่าหลายเท่า กลับนอนค่ายทหาร
“พอเพียง” ที่ชอบพูด.. “พล.อ.ประยุทธ์” ควรกลับ-ไปนอนบ้าน
๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“ถูกมองอิจฉาดีกว่าถูกมองอย่างสมเพช”
ถ้าไม่มี “อะไรในก่อไผ่” เป็นสิ่งที่ทำอยู่เสมอ ทำไมต้องมาแก้ตัว –ต้องออกมาเซ็ด
มาตีขลุม ว่าการลงพื้นที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ทำเป็นเรื่องปกติ..จะมีสักกี่ครา สักกี่หนกัน ที่ลงมาคลุกคลีอยู่กับประชาชน..หากลงมาดูแลสารทุกข์สุกดิบ ย่อมต้องดูว่า ทุกอย่างในแผ่นดินนี้ “โคตรแพงยันเงา” เป็นอันมากส์
ยิ่งบอกว่า “๓ ป.” พล.อ.ประยุทธ์-พล.อ.ประวิตร-พล.อ.อนุพงษ์ ลงพื้นที่ ไม่ใช่เป็นการ “เช็คเรตติ้ง” หาความนิยมก่อน ในการ “เลือกตั้งใหญ่”
ลงมาเช็คก็เปล่าประโยชน์…เพราะศรัทธาหมด ลดจนไม่-เหลืออะไร
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“ไม่มีใครทำอะไรโดยไม่ลงทุน”
“นักวิเคราะห์”เขาเจาะ กะเทาะหน้าแว่นกันมาว่า “พรรคภูมิใจไทย” ของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” แรงด้วยการกระแส และ -กระสุน
เพราะเป็นผู้ที่ผลักดัน “กัญชาเสรี” เพิ่มหนทางการทำมาหากินให้กับประชาชน..ขณะที่ชาวบ้านไม่มีกัญชากันเลย แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ มีผลผลิตกัญชาออกมาขายกันเต็มตลาด ชาวบ้านก็กลายเป็นผู้ซื้อ จ่ายเงินกันตาตั้งเหมือนเดิม
แต่ไม่เชื่อหรอกว่า “กระสุน” จะมีชัยชนะเหนือความต้องการของ “ประชาชน” ที่อยากได้ “รัฐบาลประชาธิปไตย” ที่ยืนเคียงข้างกับชาวบ้าน.. หูตาคนในเมือง และรากหญ้าที่อยู่ไกลปืนเที่ยง รู้แล้วว่าพรรคไหนทำให้อยู่ดีกินดี
อยู่กับ“รัฐบาลทหารเฒ่า”..เขาเข็ดขี้อ่อนขี้แก่ พวกนี้-เต็มที
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“อย่าด่วนสรุปโดยไม่ฟังเหตุผลของเขา”
ถึงจะอยู่ “สหรัฐอเมริกา” แต่ “ผู้ว่าฯชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ก็รับรู้นับหมื่นทุกข์ของประชาชน ที่เขามาร้องเรียนเอา
“ชัชชาติ” สั่งการมาทางไกล ให้ “ผอ.เขต” ทั้ง ๕๐ เขต เร่งแก้ปัญหาของชาวกทม. ที่ส่งเรื่องมาร้องเรียนให้โดยไว เรื่องนี้ที่ไม่เกี่ยวกับงานของ “กทม.” ก็ให้ติดต่อไปยัง “ไฟฟ้า-ประปา” แก้ปัญหาให้ชาวบ้านทันที
ม็อบที่ไม่มีผู้นำ เดินทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มาถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เขามาเรื่องเดียวเพื่อ “ขับไล่ประยุทธ์” เพื่อที่พี่และน้อง ที่ถูกขังในเรือนจำ จะได้ถูกปล่อยตัวออกมา
เพราะไม่ฟังเสียงประชาชน..ชาวบ้านจึงลงถนน ชนและสู้อย่าง-ไม่ไว้หน้า
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“แตงโมเลื้อยไปแตงไทเลื้อยเข้ามา”
เขาเชื่อกัน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” คงไม่ได้อยู่ตายคารัง เหมือนที่ท่านเคยกล่าวอ้างมา
เมื่อไม่หวงตำแหน่ง ไม่คิดแย่งเป็น “นายกรัฐมนตรี” แบบลัดวงจรกันอีก..สมควรที่ จะมีการ “ตัดอำนาจ” ของ
“สว.ลากตั้ง ๒๕๐ คน” ให้หดจู๋ ไม่มีอำนาจโหวตเลือก “นายกรัฐมนตรี” กันได้
“พล.อ.ประยุทธ์” คิดและพูดขึ้นมาแล้ว ควรเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ เจี๋ยนอำนาจสว.ลากตั้งให้เกลี้ยง อย่าได้เข้ามาผสมโรงในการ “โหวตนายกรัฐมนตรี”
ไม่อยู่คารัง..ก็ต้องสั่ง”แก้รัฐธรรมนูญ” –มาตรานี้
“กะพรุนไฟ”
๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๕