Digiqole ad

“พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” ร่วมกับ จ.เชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการดำเนินคดีกลุ่มคนจีนและไทย ประกอบธุรกิจหมู่บ้านจัดสรรให้คนจีนพักอาศัย โดยให้คนไทยเป็นนอมินี ดำเนินการจัดตั้งบริษัทเพื่อถือหุ้นแทน !!

 “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” ร่วมกับ จ.เชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการดำเนินคดีกลุ่มคนจีนและไทย ประกอบธุรกิจหมู่บ้านจัดสรรให้คนจีนพักอาศัย โดยให้คนไทยเป็นนอมินี ดำเนินการจัดตั้งบริษัทเพื่อถือหุ้นแทน !!
Social sharing
Digiqole ad

จากกรณีสำนักข่าวและสื่อสังคมออนไลน์ นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มทุนจีนกว้านซื้อที่ดินสร้างหมู่บ้านจัดสรรในจังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับการพักอาศัยของกลุ่มคนจีน ซึ่งเดิม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ. ตร.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เข้าบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ และ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่เข้าตรวจสอบและดำเนินคดีกับโครงการหมู่บ้านจัดสรรชื่อ “โครงการหมู่บ้านฟ้าหลวง” ตั้งอยู่ที่ ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นการดำเนินกิจการของ บริษัท ฟ้าหลวงการเกษตร จำกัด ในลักษณะให้คนไทยเป็นนอมินี ถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (สัญชาติจีน) โดยในทางคดีพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง และ พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวแล้วนั้น จำนวน 8 ราย คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดเชียงใหม่

ต่อมา มีคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งให้ บริษัท ฟ้าหลวงการเกษตร จำกัด จัดการจำหน่ายที่ดิน ตามประมวลกฎหมายที่ดิน จำนวน 149 แปลง เนื้อที่ 44 ไร่ 84 ตารางวา ภายใน 180 วัน นับแต่วันรับทราบคำสั่ง นั้น

​จากนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้สั่งการต่อเนื่องให้ตรวจสอบโครงการหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งมีลักษณะและพฤติการณ์คล้ายกัน โดยฝ่ายสืบสวน บก.ตม.5 และ ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันตรวจสอบหมู่บ้านในโครงการ “รักเชียงใหม่” ตั้งอยู่ ต.บ้านแหวน อ.หางดง จว.เชียงใหม่ แบ่งออกเป็นที่ดินจำนวน 43 แปลง เนื้อที่รวม 22 ไร่ 1 งาน 1.7 ตารางว่า โดยพบว่า โครงการหมู่บ้านดังกล่าวมีบริษัทเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เชียงใหม่ เจี่ยหยวนไถ่ จงโย่วเซียน กงซือ จำกัด และ บริษัท อั่ย เชียงใหม่ ไทย จงโย่วเซียน กงซือ จำกัด ซึ่งมีพฤติการณ์จัดตั้งบริษัทมาเพื่อกระทำนิติกรรมอำพรางในการถือครองที่ดิน โดยมีการจดทะเบียนสิทธิเหนือพื้นดินทั้งแบบระยะยาวและแบบตลอดชีพให้กับคนจีนเพื่อสามารถอยู่อาศัยในที่ดินดังกล่าวได้เสมือนเป็นเจ้าของที่ดินและบริหารกิจการโดยกลุ่มคนจีนที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันเอง ส่วนบริษัทเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน ทั้ง 2 บริษัท มีการใช้ชื่อคนไทยเป็นกรรมการบริษัท แต่ไม่มีอำนาจในการบริหารกิจการและการเงินของบริษัท โดยมีการจดทะเบียนบริษัท ชื่อ บริษัท แกรนด์ โกลเด้น โกล จำกัด เพื่อใช้ในการถือหุ้นแทนคนจีนที่บริหาร บริษัท เชียงใหม่ เจี่ยหยวนไถ่ จงโย่วเซียน กงซือ จำกัด และ บริษัท อั่ย เชียงใหม่ ไทย จงโย่วเซียน กงซือ จำกัด อยู่ซึ่งฝ่ายสืบสวน บก.ตม.5 และ ภ.จว.เชียงใหม่ ได้รวบรวมพยานหลักฐานและเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.หางดง เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จำนวน 13 ราย แบ่งเป็น
​​-นิติบุคคล จำนวน 3 บริษัท ดังนี้

​​1. บริษัท แกรนด์ โกลเด้น โกล จำกัด
​​2. บริษัท เชียงใหม่ เจี่ยหยวนไถ่ จงโย่วเซียน กงซือ จำกัด
​​3. บริษัท อั่ย เชียงใหม่ ไทย จงโย่วเซียน กงซือ จำกัด
​​
บริษัทลำดับ 1 กล่าวหาว่า เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล ซึ่งรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้น หรือ มิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น และ ให้ความช่วยเหลือ หรือ สนับสนุน ให้คนต่างด้าว ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายอสังหาริมทรัพย์ฯ
​​
บริษัทลำดับ 2, 3 กล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าว ประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต
​​-กลุ่มบุคคลต่างด้าว สัญชาติจีน จำนวน 4 ราย ดังนี้
​​1. Mr. WANG BEICHUAN (นายหวาง ใบจาน) – จับกุมแล้ว
​​2. Mr.JIANHUA ZHANG (นายเจียนหัว จาง) – จับกุมแล้ว
​​3. Mrs.CHEN FURONG (นางเชิน ฟู่หลง) – จับกุมแล้ว
​​4. Mr.LIU JUNBING (นายหลิว จิ้นปิง) – หลบหนี/ออกหมายจับ​
​​
ลำดับ 1 กล่าวหาว่า เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้น หรือ มิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น และยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยให้ความช่วยเหลือ หรือ สนับสนุน หรือ ร่วมประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายอสังหาริมทรัพย์แก่คนต่างด้าวฯ


​​
ลำดับ 2-4 กล่าวหาว่า เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้น หรือ มิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น
​​-กลุ่มคนไทย จำนวน 6 ราย ดังนี้

​​1. นายอนุพงษ์ฯ กรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัท แกรนด์ โกลเด้นฯ
​​2. นายฤทธิชัยฯ ผู้ถือหุ้นบริษัท แกรนด์ โกลเด้นฯ (แจ้งข้อกล่าวหา)
​​3. น.ส.ธีรจราฯ ผู้ถือหุ้นบริษัท แกรนด์ โกลเด้นฯ (แจ้งข้อกล่าวหา)
​​4. น.ส.ดุษฎีฯ กรรมการและถือหุ้น (แจ้งข้อกล่าวหา) (แจ้งข้อกล่าวหา)
​​5. น.ส.วันทีย์ฯ ผู้ถือหุ้น (แจ้งข้อกล่าวหา)
​​6.. น.ส.สิริวรรณฯ กรรมการ (แจ้งข้อกล่าวหา)
​​
ลำดับ 1-3 กล่าวหาว่า เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล ซึ่งรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้น หรือ มิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น และ ให้ความช่วยเหลือ หรือ สนับสนุน ให้คนต่างด้าว ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายอสังหาริมทรัพย์ฯ
​​
ลำดับ 4-6 กล่าวหาว่า เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล ซึ่งรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้น หรือ มิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น
​การกระทำของกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวข้างต้นเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้อนุมัติออกหมายจับ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวต่างชาติไปแล้ว จำนวน 4 ราย ได้มีการแจ้งข้อหาผู้ต้องหาคนไทยไปแล้วจำนวน 6 ราย ในส่วนของผู้ต้องหาที่เป็นนิติบุคคลพนักงานสอบสวน สภ.หางดง ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพื่อเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ในการดำเนินการตรวจสอบและสืบสวนสอบสวนอย่างต่อเนื่อง พบว่าทั้งโครงการหมู่บ้านฟ้าหลวง และ โครงการหมู่บ้านรักเชียงใหม่ มีพฤติการณ์ให้คนไทยเป็นนอมินีในการประกอบกิจการแทนคนต่างด้าว โดยจะมีการตรวจสอบทรัพย์สิน เส้นทางการเงินและจัดการจำหน่ายที่ดินเพื่อให้กลับมาเป็นของคนไทย และ หากพบว่าทรัพย์สินที่ได้มานั้น เป็นการหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งจะมีความผิดฐานฟอกเงิน จะได้ดำเนินการยึดทรัพย์ดังกล่าวต่อไป

 

Facebook Comments

Related post