Digiqole ad

“พรรคเพื่อไทย” มุ่งมั่นและประกาศตลอดเวลาเมื่อจับมือกับพรรคก้าวไกลคือ เราจะทำอย่างไรให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ เรามัดกันแน่นมาตลอดและต้องทำงานให้ได้ .

 “พรรคเพื่อไทย” มุ่งมั่นและประกาศตลอดเวลาเมื่อจับมือกับพรรคก้าวไกลคือ เราจะทำอย่างไรให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ เรามัดกันแน่นมาตลอดและต้องทำงานให้ได้ .
Social sharing

Digiqole ad
“พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นและประกาศตลอดเวลาเมื่อจับมือกับพรรคก้าวไกลคือ เราจะทำอย่างไรให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ เรามัดกันแน่นมาตลอดและต้องทำงานให้ได้”
ตอนหนึ่งของคำให้สัมภาษณ์ของนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ถึงประเด็นการเจรจากับพรรคก้าวไกล กรณีตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า ท่าทีของพรรคเพื่อไทยเรื่องประธานสภาไม่ได้เปลี่ยนแปลง เพราะการเจรจาเพิ่งเริ่มต้นไปครั้งเดียว และเป็นเพียงการรับข้อเสนอของแต่ละพรรคไปพิจารณาเพื่อให้ได้ข้อสรุปตรงกัน โดยยึดหลักการใหญ่ว่าต้องจับมือกับพรรคก้าวไกลเพื่อตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยตามฉันทามติที่ได้รับมอบหมายจากประชาชน
1. การประชุมกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.พรรคเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน เป็นการที่พรรคยืนยันหลักการในสิ่งที่ได้เสนอไปในการเจรจาครั้งแรกที่ออกมาเป็น 14+1 คือ พรรคก้าวไกลเป็นรัฐมนตรี 14 ตำแหน่งกับนายกรัฐมนตรีดูแลฝ่ายบริหาร และพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรี 14 และจะรับหน้าที่ในการเป็นประธานสภา ซึ่งในส่วนนี้เป็นการสิ่งที่ได้เสนอไปในการเจรจาครั้งแรก
2. ที่ผ่านมา มีการเสนอความคิดเห็นต่างๆ เป็นการแสดงความเห็นต่างภายในของแต่ละพรรค เมื่อพรรคเห็นว่าเกิดกระแสความคิดเห็นแตกต่าง และการจะไปเจรจาควรมีความชัดเจน จึงเป็นที่มาของการประชุมพรรคเพื่อยืนยันหลักการเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงใดๆ เพราะที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลยังไม่ได้มีคำตอบกลับมา ซึ่งจะมีคำตอบอย่างไรก็ยังเป็นกระบวนการภายในของพรรคก้าวไกล
3. พรรคเพื่อไทยมีสมาชิกพรรคและผู้สนับสนุนที่เราต้องคำนึงถึง เราก็ยืนยันหลักการให้นำข้อเสนอไปพูดคุยเท่านั้น ยังไม่ใช่มติใดๆ เป็นแนวทางวางไว้เป็นหลักเจรจา ยึดหลักการเดิมไม่ได้เพิ่มหลักการใหม่ใดๆ เพราะสิ่งที่พรรคเพื่อไทยกับพรคก้าวไกล และพรรคร่วม 8 พรรคยืดถือมาตลอดคือ เราจะมัดกันแน่นและทำงานด้วยกัน โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นประเด็นหลัก
4. ประเด็นตำแหน่งประธานสภา จะไม่นำไปสู่ปัญหาความแตกแยกของพรรคร่วมทั้ง 8 พรรค อีกทั้งในส่วนของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลนั้นได้รับฉันทามติมาจากพี่น้องประชาชนในการเลือกตั้งว่าต้องการรัฐบาลประชาธิปไตย หากเพียงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งมาทำให้แตกแยกพี่น้องประชาชนจะรับไม่ได้
5. พรรคเพื่อไทยระมัดระวังอย่างยิ่ง ไม่ให้เกิดการฟรีโหวต เพราะไม่เป็นประโยชน์กับทั้งสองพรรค และยังจะเกิดประโยชน์กับกลุ่มที่สามที่รอโอกาส ดังนั้น พรรคเพื่อไทยเสนอหลักการเดิมแล้ว หากสองพรรคได้ข้อสรุปตรงกันก็เดินหน้าต่อ แต่ถ้ายังไม่ได้ข้อสรุปก็ควรไปหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกันให้ได้
6. พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นและประกาศตลอดเวลาเมื่อจับมือกับพรรคก้าวไกลคือ เราจะทำอย่างไรให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ เรามัดกันแน่นมาตลอดและต้องทำงานให้ได้
ที่มา : เพจพรรคเพื่อไทย
Facebook Comments


Social sharing

Related post