พรรคก้าวไกลชูนโยบายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าถุกกฎหมายแทนการแบน หวังรัฐบาลใหม่ทบทวนท่าทีประเทศไทยก่อนไปประชุมยาสูบโลก
“มนุษย์ควัน” เผยสังคมเริ่มสนับสนุนการคุมบุหรี่ไฟฟ้าและยาสูบแบบไม่มีควันถูกกฎหมายมากขึ้น หลายพรรคการเมืองขานรับชูเป็นนโยบายหาเสียง เชื่อช่วยแก้ปัญหาสังคมทั้งการคอรัปชัน เด็กใช้บุหรี่ไฟฟ้า และแก้ปัญหาอันตรายของบุหรี่ได้อย่างเป็นรูปธรรม
นายสาริษฏ์ สิทธิเสรีชน แอดมินเพจเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ “มนุษย์ควัน” ให้ความเห็นหลังทวิตเตอร์พรรคก้าวไกลทวีตข้อความเผยแพร่ 300 นโยบายในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยได้ระบุข้อ 285 ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมาย อนุญาตให้มีการผลิต นำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยได้ รวมถึงจะมีมาตรการควบคุมเพื่อกำหนดอายุผู้ซื้อ กำหนดพื้นที่ห้ามใช้ ห้ามการโฆษณาเพื่อป้องกันเด็กและผู้ไม่สูบบุหรี่ว่า
“กระแสปลดล็อคบุหรี่ไฟฟ้าและยาสูบแบบใช้ความร้อนเริ่มมีมากขึ้น เห็นได้จากการที่หลายๆ ผู้สมัครและพรรคการเมือง เริ่มหยิบเอานโยบายนี้ขึ้นมาหาเสียงเพื่อแก้ปัญหาการแบนบุหรี่ไฟฟ้าที่ล้มเหลวมาตลอด 8 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีที่จะได้เห็นบุหรี่ไฟฟ้าได้รับการควบคุมอย่างถูกกฎหมาย แทนที่จะปล่อยให้เป็นสินค้าที่อยู่ใต้ดินจนไม่สามารถเอากฎหมายอะไรไปควบคุมได้ดังเช่นปัจจุบันทั้งที่มีความพยายามจากกลุ่มรณรงค์ต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้าพยายามวิ่งเต้นเข้าหานักการเมือง จัดกิจกรรมเพื่อให้นักการเมืองมาพูดเข้าข้างตนเอง และยังให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนแค่เพียงด้านเดียวหวังสร้างให้พรรคการเมืองไม่กล้าสนับสนุนการทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย” แอคเค้าน์มนุษย์ควันยังได้รีทวีตข้อความดังกล่าวพร้อมเขียนระบุว่า “ยกสองมือสนับสนุนครับ ปล่อย #บุหรี่ไฟฟ้า ไว้ใต้ดินแบบนี้มีแต่เสียกับเสีย คนใช้โดนจับ คนซื้อโดนโกง เด็กใช้เกลื่อนเมือง คนที่ได้ประโยชน์คือพวกคอรัปชั่น รีดไถประชาชน”
ปัญหาการแบนบุหรี่ไฟฟ้ารวมทั้งยาสูบแบบใช้ความร้อนในประเทศไทยกลายเป็นดราม่าระดับชาติเมื่อต้นปีที่ผ่านมาจากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรับสินบนจากดาราสาวชาวไต้หวันเพื่อแลกกับการปล่อยตัวไม่ต้องถูกจับดำเนินคดี จนทำให้สังคมเริ่มตั้งคำถามถึงการห้ามนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าว่าเป็นกฎหมายที่เหมาะสมและได้ผลจริงหรือไม่ เพราะความนิยมของบุหรี่ไฟฟ้ายังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากกว่า 70 ประเทศทั่วโลกต่างก็ควบคุมให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย เช่น อย.สหรัฐ หรือ สธ. อังกฤษ สธ. นิวซีแลนด์ เป็นต้น
นายสาริษฎ์กล่าวด้วยว่า “จากรายงานของคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพและติดตามการบังคับใช้กฎหมายด้านการสาธารณสุข สภาผู้แทนฯ ที่พูดถึงเรื่องการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าและยาสูบแบบใช้ความร้อนก็เสนอว่ารัฐควรปลดล็อคการแบนบุหรี่ไฟฟ้ารวมถึงยาสูบแบบใช้ความร้อน และนำแนวทางการลดอันตรายจากยาสูบ (tobacco harm reduction) มาใช้เสริมมาตรการที่มีอยู่ ทั้งนี้รัฐสามารถใช้กฎหมายควบคุมบุหรี่และเก็บภาษีสรรพสามิตตามแนวทางขององค์การศุลกากรโลกที่มีอยู่แล้วมาใช้ควบคุมได้เลย ไม่ต้องรอการออกพระราชบัญญัติใหม่ จึงเชื่อว่าไม่น่าจะสร้างปัญหาเหมือนการปลดล็อคกัญชา แต่จะช่วยแก้ปัญหาในปัจจุบันที่เราเห็นเยาวชนซื้อบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่ายดาย มีการขายออนไลน์กันไปทั่ว อีกทั้งมีการสร้างความรำคาญเพราะไม่ได้มีการกำหนดพื้นที่ห้ามใช้ การเอาบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่มาควบคุมให้ถูกต้องตามกฎหมายบนดินจะช่วยแก้ปัญหาพวกนี้ได้มากกว่าการแบนในปัจจุบัน”
นายสาริษฎ์ กล่าวย้ำว่า “เราเห็นด้วยอย่างยิ่งที่พรรคก้าวไกลมีความกล้าหาญในการนำเสนอแนวทางใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาการสูบบุหรี่ และให้ความสำคัญกับการปกป้องเยาวชนเพราะทุกคนไม่มีใครอยากเห็นเด็กเข้าไปสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้าทั้งสิ้น และจากการติดตามข่าวทราบว่าปลายปีนี้จะมีการประชุมระดับโลกเกี่ยวกับการควบคุมบุหรี่ที่เรียกว่า FCTC COP10 จึงอยากเห็นรัฐบาลใหม่นำรายงานและข้อเสนอจากคณะกรรมาธิการสาธารณสุขไปพิจารณากำหนดท่าทีของประเทศไทยเสียใหม่โดยเปิดรับแนวทางการลดอันตรายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนที่เค้ายังสูบบุหรี่ต่อไป ในขณะที่ปกป้องเด็กอย่างเข้มงวดเพราะนโยบายการแบนไม่ได้บรรลุผลอย่างที่ตั้งไว้และเท่ากับปล่อยให้คนไทยต้องตายจากการสูบบุหรี่ถึงปีละกว่า 70,000 คนต่อไป”
