
ผักชีโรยหน้าทุกสิ่ง..อะไรเป็นจริง ใน “ระบอบประยุทธ์” มั่ง

“พูดแต่ละครั้ง ไปคนละทิศคนละทาง ไม่อยู่ในจุดเดียวกัน”
“ขายผักชีโรยหน้า” โปรโมทเป็นการใหญ่ คนที่อยู่ร่วมกับ “รัฐบาลประยุทธ์” มีอนาคต มีความสดใส เพราะ “เศรษฐกิจยุคนี้ดี” ซึ่งจะทำให้ “คนจนหมดประเทศ” ประกาศโชว์ออฟ-อยู่ทุกวัน
ล่าสุด “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ มาตั้งปุจฉาวิสัชนา หาคำตอบกับประชาชน “เราจะอยู่กันอย่างไร เศรษฐกิจก็อ่วม การเมืองก็ยังขัดแย้งแก้รัฐธรรมนูญอีก”
ไหน “นายกฯประยุทธ์” คุยเป็นตุเป็นตะ ว่าฝีมือการบริหารประเทศชาติ ช่างเรี่ยมเร้เรไร “เศรษฐกิจ” ดีเลิศประเสริฐศรี ผลงานกลบและปิดทับ “รัฐบาลประชาธิปไตยของพลเมือง” อย่างไม่เห็นฝุ่น
ออกมาส่งเสียง..ความเชื่อถือหมดเกลี้ยง-หนักทุกวันสิคุณ
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“แค่ไม่มีนายกฯประยุทธ์อยู่ ประเทศไทยเดินหน้า สู้ใครได้ทั่วโลก”
ไม่ต้องเอา “ทักษิณ ชินวัตร-ยิ่งลักษณ์ ชินวัน-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เพื่อให้เขาเข้ามา-เป็นนายกฯ
เอา “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกฯและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้รีเทิร์น สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก กลับมาเป็น “นายใหญ่แห่งทำเนียบรัฐบาล”
ปัญหา ๗ ปี ที่หมักหมม พะรุงพะรัง ค้างเติ่ง ไม่บรรลุเป้าหมาย สำเร็จสักเรื่อง นับตั้งแต่ “พล.อ.ประยุทธ์” ถือด้ามอำนาจ..วิกฤตของชาติ แก้แบบละมุนละม่อม ก็สัมฤทธิ์ผล ..ไม่ใช่ “ดีแต่หักพร้าด้วยเข่า”
ที่สำคัญแก้ปัญหาผิดพลาด..อย่าใช้อำนาจ โยนให้แก่-คนอื่นเขา
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“เหมือนช้างเหยียบนาพญาเหยียบเมือง คุยเขื่องกันเอาไว้ดิบดี”
ฤกษ์งาม-ยามเด่น “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ พร้อมคณะรัฐมนตรี มีคิวหิ้วสังขารไป “ฉีดวัคซีนโควิด-๑๙” ของ “แอสตร้าเซนเนก้า” ในฐานะผู้นำต้องแสดง-ความกล้าหาญเต็มที่
เกียรติค้ำคอ อยู่ในฐานะต้องทำ และต้องทำให้ได้..จะมา “ปอดลอย” หรือ “ตาขาวจั๊วะ” จะเสียเหลี่ยม “นักรบผู้กล้า” ที่ได้เหรียญมาประดับอก
ที่รวมพล นัดหมายกันไปฉีดวัคซีนโควิด ไร้ร่างไร้เงา..ไม่มี “พล.อ.ประยุทธ์” และ “ครม.” ที่จะฉีดเพื่อเป็นหลักค้ำประกันให้ประชาชนมั่นใจ..จากที่เป็นคน “ขวานผ่าซาก” ไม่เชื่อใคร แต่อ้าง “หมอเบรก”จึงต้องระงับ
ทีกับเด็กกล้าเสียจัง..เชิดหน้าขึงขัง -อยู่ได้สิครับ
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“เอาโทษ เล่นงานกันหมด หากใครดำเนินการแก้รัฐธรรมนูญวาระ ๓”
จะปล่อยให้ “ฝุ่นใต้ทอปบูต” มาวางข้อ.. ก็เสีย “เจ้าหลักการ” อย่าง “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ยึดกฎหมายเป็น-สรณะ
เดินเครื่องเต็มร้อย ไม่หวั่นพวกปากหอยปากปู ที่ขู่จนคอแทบแตก..อย่างไรก็ดี “ท่านประธานฯชวน” ยันวันที่ ๑๗-๑๘ มีนาคมนี้ ประชุมแก้รัฐธรรมนูญตามเดิม โดยยึดคำวินิจฉัยของศาลเป็นหลัก ไม่ห้ามใครจะฟ้องร้อง “ปปช.”เล่นงาน
ถ้า “สว.ลากตั้ง” และ “สส.พลังประชารัฐ” สามัคคีคำฉันท์ ..น่าเกิดการแตกแยกทำลาย จนเกิดแตกหักและพังทลายเร็วยิ่งขึ้น..เพราะที่ “สว.ลากตั้ง” ไม่มีความคิดปรองดองกับ “ฝ่ายประชาธิปไตยก้าวหน้า” ยิ่งน่าห่วง
รักษา “ระบอบประยุทธ์”ทุกทาง..เดินหน้าเพื่อขัดขวาง-อย่างหนักหน่วง
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“ไม่สู้ ก็ตายหมู่ด้วยสไนเปอร์ ที่ยิงกลางหน้าผาก จนศีรษะระเบิดเป็นจุณ”
“ตั้งรับ” อย่างสันติวิธี เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง “สงครามกลางเมือง” ขึ้นในประเทศพม่า ตามมาอย่างไร-ล่ะคุณ
หมารับใช้ “เผด็จการใจโฉด” นายพลมิน อ่อง หล่าย แทนที่จะมีความปราณี แก่พลเมืองชาติเดียวกัน ..กับใช้ “สไนเปอร์” ดักยิงจากที่สูง เป็นกองกำลังทหาร-ตำรวจ ที่ขี้ขลาด ไม่กล้าสู้รับกันอย่างซึ่งๆ หน้า
วิบากกรรม ชั่วอย่างหนัก “มิน อ่อง หล่าย” ใกล้ถึงวันมรณะแห่งการจบสิ้นแล้ว เมื่อ “ประธานาธิบดีโจ ไบเดน” ประชุมด่วนร่วมกับ “ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้”..ซึ่ง “รัฐบาลโสมขาว” ประกาศไม่ขายอาวุธให้พม่า ไปฆ่าประชาชน
ชาติที่อำมหิต..นายพลที่เสพติดอำนาจ มันต้องถูกทุกชาติ-รุมโค่น
“กะพรุนไฟ”
๑๓ มีนาคม ๒๕๖๔