Digiqole ad

“ปุ๋ย-อนุรี อนิลบล” เผยข้อคิดจากเรื่องเศร้าชาวสวน “รังเป็ดที่ว่างเปล่า”

 “ปุ๋ย-อนุรี อนิลบล” เผยข้อคิดจากเรื่องเศร้าชาวสวน “รังเป็ดที่ว่างเปล่า”
Social sharing
Digiqole ad
จากกรรมการพันเวทีสู่วิถีชวนสวนที่บ้านเกิด อ.สวี จ.ชุมพร ยามนี้ “คุณปุ๋ย-อนุรี อนิลบล อดีตกรรมการเครื่องสำอางชื่อดัง “MTI” มีความสุขกับการดูแลพืชผลและเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ ทั้งไก่ เป็ด และหมู มากว่า 3 ปี แต่ล่าสุดมีเรื่องเศร้าเกิดขึ้นและจากเรื่องนี้ได้เป็นข้อคิดเตือนใจเอาไว้เป็นอย่างดีด้วย โดยคุณปุ๋ย อนุรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง Anuree Aninbol โดยใช้ชื่อเรื่องว่า สวัสดีวันอาทิตย์เรื่องเศร้าชาวสวน “รังเป็ดที่ว่างเปล่า”
“เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 16 ไปงานประกวดที่ อ.หลังสวน งานเลิกค่อนข้างดึก กว่าจะได้นอนก็ ตี 4 ตอน 6 โมงเช้าก็รีบตื่น กลับบ้านมาดูเป็ด ไก่ ในใจก็รู้สึกตะหงิดๆว่าต้องมีอะไรแน่ๆเลย เวลาไม่อยู่บ้านมักจะมีเหตุ นี่คือเหตุผลที่ไม่ค่อยไปไหน ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ แล้วก็จริงดังคาด พอลงไปที่คอกไก่ ก็เห็นแม่เป็ดยืนอยู่บนอิฐบล็อคที่กั้นคอก คือก่อนหน้านี้แม่เป็ดฟักไข่อยู่ 2 ตัว ถ้าออกมาอยู่นอกรังแสดงว่ามีอะไรผิดปกติ เลยเดินไปดูที่รัง สิ่งที่เห็นคือรังเปล่า ไม่มีไข่เหลืออยู่เลยทั้ง 2 รัง ผู้ร้ายน่าจะเป็นงูหรือตัวเงินตัวทอง ช่างเลือกลงมือวันที่เราไม่อยู่ เพราะถ้าอยู่บ้าน เวลามีเสียงอะไรผิดปกติจะได้ยิน เพราะเป็นคนหูไว ขนาดมีคนนินทาไกลๆยังได้ยินเลย
เคยลงมาเจองูเห่าห้อยหัวลงมากินไก่ตอนตี 2 ขนลุกมาก มันเอาหางเกี่ยวไว้กับขื่อแล้วห้อยหัวลงมาเกือบถึงพิ้น ความยาวคงไม่ต้องถามนะ ตอนที่เห็นคือไก่ตายแล้ว งูพยามจะกินหัวไก่ แต่เข้าได้แค่คอ เพราะตัวไก่ใหญ่กว่าปากงูค่อนข้างมาก เลยติดแค่ตรงนั้น วันนั้นทำอะไรไม่ได้ ต้องปล่อยให้งูเลื้อยไปเอง จะเรียกคนมาช่วยก็เกรงใจ แต่กรณีของแม่เป็ดครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่มันกินแค่ไข่ ส่วนแม่เป็ดน่าจะหนีออกมาทัน ที่ผ่านมาส่วนมากแม่เป็ดจะหวงไข่ ไม่ยอมทิ้งรังเลยโดนกัดตาย มีตัวนึงแอบไปไข่ในป่า น่าจะโดนงูกัด แต่นางพยามกระเสือกกระสนมาตายที่บ้าน น่าสงสารมาก เหมือนจะขอความช่วยเหลือ พอเราตามไปดูก็เห็นแต่รังเปล่าแล้ว
อยากบอกว่าการที่เราเลี้ยงสัตว์ มันจะมีความผูกพัน และการสูญเสียมันก็ทำให้เราได้ฝึกจิต หัดทำใจยอมรับความจริง เกิด แก่ เจ็บ ตาย ยากที่จะหลีกพ้น นี่ก็พยามป้องกันทุกวิถีทางแล้ว แต่เอาไม่อยู่ ก็ต้องปล่อยวาง ทำเท่าที่ทำได้ เหลือเท่าไหร่ก็เท่านั้น เครียดก็ทุกข์ เราทำเต็มที่แล้ว ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ เป็นเหมือนโรงเรียนดัดสันดาน เราค้นพบว่าตัวเองเปลี่ยนไปในหลายๆเรื่อง ใจเย็นขึ้น รู้จักรอ ไม่เหวี่ยง ไม่วีน ไม่คิดว่าตัวเองต้องเด่น ดัง ไม่คิดว่าตัวเองต้องมีความสำคัญ ถือเป็นสิ่งที่ดีมากในวัยนี้ เพราะถ้ายังขืนเย็นไม่ลง ปลงไม่ได้ คงจะอยู่ยาก จริงๆนะ#วิถีชาวสวน
Facebook Comments

Related post