
“ปิยวัฒน”ดันโครงการธนาคารน้ำใต้ดินเพิ่มรายได้เกษตรกร อัดผลงานสุดอัปยศ“บิ๊กตู่” ใช้งบกว่า 1แสนล้านแก้ภัยแล้งล้มเหลว


นาย ปิยวัฒน พันธ์สายเชื้อ ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สอบตกแก้ปัญหาภัยแล้ง ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ ใช้งบประมาณแก้ภัยแล้งทุกปี รวมแล้วมากถึง 1 แสนล้านบาท แต่ล้มเหลวทุกปี บริหารจัดการปัญหาภัยแล้งคือผลงานสุดอัปยศของพล.อ.ประยุทธ์ การแก้ปัญหาของรัฐแก้จากข้างบนลงไปข้างล่าง เพราะพลเอกประยุทธ์ ไม่เคยลงพื้นที่สำรวจความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ประชาชนประสบปัญหาทุกปี น่าละอายใจมากว่าที่พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงใช้งบประมาณที่เป็นเงินภาษีของประชาชน อย่างไร้ประสิทธิภาพ ไม่เคยได้ยินเสียงความลำบากของประชาชน
ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหา น้ำแล้งน้ำล้นอย่างยั่งยืน พรรคเพื่อไทย จึงได้หารือกับ สำนักพัฒนาน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อแก้ปัญหาน้ำอย่างยั่งยืน การจัดทำโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน ทางรอด ‘น้ำท่วม-น้ำแล้ง’ นวัตกรรมสังคม ต้านภัยธรรมชาติ”
นาย ปิยวัฒน กล่าวด้วยว่า โครงการธนาคารน้ำใต้ดิน คือ การนำน้ำไปเก็บที่ชั้นใต้ดินในชั้นหินอุ้มน้ำ โดยน้ำที่นำมาเก็บนั้นมาจากหลายแหล่งด้วยกัน เช่น น้ำฝน หรือน้ำจากการทำธนาคารน้ำใต้ดิน ระบบปิด ซึ่งเมื่อน้ำถูกเติมมีปริมาณมากพอ น้ำจะเอ่อล้นมาที่บ่อโดยอัตโนมัติ ซึ่งเกษตรกรสามารถสูบน้ำจากบ่อนี้มาใช้ได้ทันที วิธีนี้จะช่วยให้เกษตรกรไม่ต้องขุดเจาะหาแหล่งน้ำ หรือสูบน้ำจากแหล่งน้ำไกลๆ ประหยัดพลังงาน แถมช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ รวมทั้งแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง แก้ปัญหาพื้นที่แห้งแล้ง ได้เป็นอย่างดี
“โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ตามโครงการประชารัฐหลายพื้นที่พบปัญหา ใช้งานไม่ได้ หลายพื้นที่ทำเสร็จไม่ถึงเดือนเครื่องพัง ไร้หน่วยงานแก้ไขและไม่งบประมาณซ่อมบำรุง ทำให้เสียงบประมาณ โดยไม่เกิดประโยชน์กับเกษตรกรในพื้นที่ ดังนั้นโครงการธนาคารน้ำใต้ดินจะช่วยให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรมากกว่าโครงการที่ผ่านมา รัฐบาลต้องมองที่ประโยชน์ของประชาชนมากกว่างบประมาณ พลเอกประยุทธ์ ไม่เคยทำการเกษตร ดังนั้นการแก้ปัญหาให้ประชาชนจึงผิดพลาดและไร้ประสิทธิภาพอย่างชัดเจน” นาย ปิยวัฒน กล่าว