ปากพล่อย-พูดน้อยๆ ก็ได้

“เหมือนขี้ขึ้นไปอยู่บนสมอง”
“ดิ้นพล่าน” ลนลานไม่มีชิ้นดี
กลัว “ความสำเร็จ” ของ “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” ที่เขานำความเจริญ มาพร้อมกับ “นายทุน” กระเป๋าหนา
“ไมโครซอฟท์” มองด้วยสายตาเหยี่ยว เห็นลู่ทางแจ่มใสอย่างกว้างไกล และ ไร้ขอบเขต”
ทำให้ “คุณสัตยา นาเดลลา” ประธานเจ้าหน้าที่ไมโครชอฟ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สหรัฐอเมริกา เทใจมาลงทุนในไทย
“เขามาตามนัด” ที่ “นายกฯเศรษฐา” ชวนด้วยกะจิต-มิตรกะใจ “คุณสัตยา
ไม่ได้เสียเปล่า-เอาภาษีชาติไปถลุง เหมือนบางคนเขาว่า.. แต่ท่านเป็น “เซลล์แมนประเทศไทย” ที่ปักหมุดสำเร็จ อย่างงาม
“ไมโครซอฟท์” ที่มี “คุณสัตยา” เป็นยักษ์ใหญ่พี่เบิ้ม “ลงทุนโปรเจคมหึมา” จ่ายเงินให้คนไทย ไม่รั่วไปไหน มีได้แต่ได้อื้อซ่า
หลังจากที่บ้านเรา ถูก “จับแช่แข็ง” กลายเป็น “อีแร้งป่วย” ช่วง ๘ ปี ๙ ปี ที่ผ่านมา..
“ไมโครชอฟ” เห็นว่าไทย มีศักยภาพโดดเด่น มีโอกาสในอนาคต ที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมดิจิทัน และ เอไอ ขึ้นมาเป็นหนึ่ง
ตลอดระยะเวลา เขาถือว่าไทย เป็น“ลูกค้าชั้นดี” จึงขนเงินมาเต็มกำลัง เพื่อ “ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน” เต็มเหนี่ยว
และมีแผนสอง โดยการ “ต่อยอด” เรื่อง “คลาวด์ AI” และ เสริมสร้างด้าน “AI” ให้ครบเครื่องตามมาอีกเป็นตับ
นี่เป็น “พันธกิจ” ของไมโครซอฟท์ เพื่อช่วยให้ องค์กรไทย ภาครัฐและเอกชน เติบโต มีสิ่งเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ เกิดขึ้นมา
การตั้ง “เดต้า -เอไอ เซ็นเตอร์” แห่งแรกของไทย โดย “ไมโครซอฟท์” จะพลิกให้ไทยสู่ “ฮับในภูมิภาค” ก้าวหน้าทันคนอื่น..
ว่าถึง “เดต้า เซ็นเตอร์” ทั่วโลกมีแล้วกว่า ๓๐๐ แห่ง แต่ไม่มีใครคุยว่าเป็น “ฮับในเอเชีย”
เมื่อเรียงอันดับ-จับต้นชนปลายแล้ว “สิงคโปร์” เป็นประเทศแรก ที่มีการติดตั้ง เมื่อปี ๒๕๕๓ หรือ ๑๔ ปีก่อน
จากนั้น ตามมาด้วย “ประเทศอินโดนีเซีย- มาเลเซีย” และ “ประเทศไทย” เป็นน้องใหม่ ใสบริสุทธิ์ ที่ไมโครซอฟท์ต้องการ
ผลประโยชน์เนื้อ ๆ –เหลือกำลัง เราได้ “เงินดอลล่าร์” มาลงทุน ตามที่ “รัฐบาลเศรษฐา” จะพิลกเศรษฐกิจ-ให้ติดเครื่อง
แต่บางคน “ตัวเป็นไทย-แต่ใจเป็นทาส” ไม่รู้ซึ้งถึง “ข้าวแดง-แกงร้อน” เอาเสียเลย
ถึงได้ “หยามเหยียด”ดูถูก-ดูแคลน ถึงผลสำเร็จในครั้งนี้ เสมือนหนึ่งว่า เป็นพวก “ขายชาติกลับมาเกิด” ก็ไม่ผิด
ออกมาทำตัว “ปากพล่อย” พูดโดยไม่คิด ดีแต่จะ “อิจฉา-ตาร้อน” กันไปวัน ๆ
ว่า “ไทย” ยังห่างชั้น จากธุรกิจศูนย์ข้อมูล “เดต้า เซ็นเตอร์” พ่ายอย่างหมดท่า ให้กับ “มาเลเซีย” อย่างไม่เห็นฝุ่น
ทั้งด้าน “ค่าไฟถูกกว่า เขามีสายเคเบิลใต้น้ำ มากกว่า” เขาจึงเติบโตรวดเร็วไปกว่า “๔๐ %” เข้าไปแล้ว
ขณะนี้ถึงเรา “ติดติ่งห้อยท้าย” ไล่ตามทั้ง “อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย” อยู่หลายร้อย ฝีก้าว
แต่อย่างลืมว่า เราเริ่มออกตัวจาก “จุดสตาร์ท” เพียงแค่ “๖-๗ เดือน” เราก็เร่งเครื่อง “สปีดความเร็ว” ด่วนจี๋เหมือนกัน
นับตั้งแต่ “ไทย” ได้ “ติดเชื้อปฏิวัติ” เราก็ถูก “ตัดขาด” ไร้มิตรประเทศ ที่จะเข้ามาลงทุน
พอ “นายกฯเศรษฐา” มาพร้อมกับ “ประชาธิปไตย” ที่โลกพากันยอมรับ
เปิดทั้ง “ประตูการค้า-การลงทุน” เป็น “ปฐมบทก้าวแรก” ให้ทุกชาติ พากันมอง อย่างเลื่อมใส
แต่ไฉน “คนไทย” ด้วยกัน ถึงมองไม่เห็น “ผลสำเร็จ” อัน “บรรลุ” ถึง “จุดประสงค์” ที่หมายตาเอาไว
แทนที่จะมา “นั่งค่อนแคะ” ปากอยู่ไม่สุข เช่นนี้
ควรให้ “เครดิต-ในคุณภาพ” กับ “รัฐบาลเศรษฐา” ที่ได้ “ไมโครซอฟท์” มาลงทุนสร้างงาน ให้คนไทย อีก ๑ แสนตำแหน่ง
“ผลพวงนี้” นับเป็น “โภคผล” สมบัติล้ำค่า ที่คนไทยมีส่วน พบ“โอกาสทอง” กันทุกครัวเรือน
ทำไมถึงมา “หยัน” เพื่อเยาะ-เพื่อเย้ย ว่า “ศูนย์กลางดาต้า เซ็นเตอร์” ของ “อินโดนีเซีย” และ “มาเลเซีย” ดีกว่าเรา
กลัว “เศรษฐา” และ “พรรคร่วม” สร้างผลงาน “ฝากเอาไว้” ในแผ่นดิน
จึงทำให้ “พวกปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม”.. “ออกมาถล่ม” ล้มเขา ทั้งที่ “ความเจริญ” เริ่มมาถึงแล้ว

• “การบูร”