“ประยุทธ์” กล้าเดินถนน.. เลิก “พรก.ฉุกเฉิน” กันประชาชนเสียที
“กลิ่นประชาธิปไตยบอดยอดเผด็จการฟุ้ง”
“นักท่องเที่ยวต่างชาติ” เข้าสแกนตัวเอง ให้ปลอดภัยจาก “โควิด” มาจากประเทศเขาแล้ว ควรยกเลิก “อาร์ที-พีซีอาร์” กันตั้งนาน-เพื่อไม่ให้เรื่องยุ่ง
แต่ที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ให้ “ประชาชน-รับผิดชอบร่วมกัน” เขาไปเขมือบ เปิบพิสดาร “ภาษีแผ่นดิน” กันหรืออย่างไร ถ้าคิดว่า “ฝีมือบ่มิไก๊” ก็ออกไปให้ไกล ๆ “นักการเมือง” ที่เข้ามาคุณภาพทำหน้าที่ได้ดียังมีอีกเยอะ
เรายกเลิกการตรวจ “อาร์ที-พีซีอาร์” ถือว่า “สายสุดโต่ง” ล่าช้าเป็นอันมากส์..ที่สำคัญสิ่งที่ควรยกเลิกเลย คือ “พรก.ฉุกเฉิน”เป็นตัวสกัดขวางกั้น ที่ “นักท่องเที่ยว”ไม่เข้ามา เขาคิดว่า “พรก.ฉุกเฉิน”เป็นแดนไร้เสรี
กล้าเดินเหยียบถนน.. เลิก “พรก.ฉุกเฉิน” ไม่ต้องกลัว ประชาชน-เสียที
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“ข้าราชการฝ่ายการเมืองเขาต่างมีสปิริต”
“สส.” ในพื้นที่ “กทม.” รู้จักหน้าที่..เมื่อ “กฎหมาย” ห้ามเข้าไปช่วย “ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.” และ “สก.” เขาก็ “สงวนตัว” ไม่ยอมไปหาเสียง-ช่วยสักนิด
“กตต.” อย่าเป็น “เสือกระดาษ” ที่ไร้น้ำยา ไม่รู้จักขอบเขตหน้าที่ว่า “ข้าราชการการเมืองคนใด” ที่ลงไปช่วยผู้สมัครกทม.ต้องเช็คบิลเล่นงาน ให้เก้าอี้และตำแหน่งกระเด็น
พันวันหมื่นปี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ไม่ลงพื้นที่ออกมาพบปะประชาชน อ้างว่า “ลงมาตรวจความเดือดร้อน”..ชาวบ้านราษฎรที่เดือดร้อนไปหาถึงทำเนียบฯ ก็ยก “ตู้คอนเทนเนอร์”มาขวางกันเสร็จสรรพ
ผู้เดือดร้อนไปหา..ทำไมถึง “หนีหน้า” ได้ล่ะครับ
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“ขวางทางเพื่อไม่ให้ประเทศชาติเจริญ”
ความคิดของ “อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” สร้างรถไฟความเร็วสูง ส่งพืชผลออกไปต่างประเทศ ถูกขัดขวางจนวันนี้ –เสียหายยับเยิน
บริหารงานตามดมตูด “น้องลาว” ที่เขามี “รถไฟความเร็วสูง” ส่งผักผลไม้จากประเทศจีน มายังลาว และ ขนเข้ามายังประเทศไทย กอบโกยผลกำไรกันบานเบอะ
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นปลื้ม ที่ส่งทุเรียน-มะพร้าว ลำเลียงบนเส้นทางรถไฟ ระบบถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง ใช้เวลาเดินทางจากไทยนานโขตั้ง ๓ วัน ..ขณะที่ “ผลไม้จีน” ไม่ถึง ๑๐ ชั่วโมง ก็วางขายเต็มตลาดไทย
ล้มผู้หญิง..ทำงานไม่เก่งจริง เป็นที่-น่าอาย
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“คนใต้เขาเป็นคนมีศักดิ์ศรีไม่รับใช้เผด็จการ”
เลียเขาจน “รองเท้ามันขวับ” เป็น “ร่างทรง” ที่ไม่คิดทำให้ “ภาคใต้” ดีขึ้น คิดแต่จะรับใช้กันจน-ตัวเป็นมัน
พี่น้อง “ปักษ์ใต้” ก็เหมือนกับคนภาคอื่นๆ ในช่วงระหว่าง ๘ ปีที่ผ่านมานี้..เขารู้ดีว่า “พรรคใดทำเพื่อประชาชน” พรรคไหนอยู่ใต้อาณัติคนมีสี
“พรรคเพื่อไทย” คะแนนแรงวันแรงคืน จากภาคเหนือ-ภาคอีสาน-ภาคกลาง และก็ได้รับเสียงต้อนรับอย่างดี จาก “พี่น้องชาวใต้” กันอย่างท่วมท้น ซึ่งเขาสำรวจมาแล้ว พวกคนใต้แต่ตัว แต่ใจรับใช้เผด็จการดีแต่พูด
เป็นคนใต้ต้องรู้ปัญหา..เขาเกลียดใครขึ้นหน้า ยังจนปัญญา ไม่รู้อะไรสุดๆ
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“อำนาจมาจากส่วนกลางสตังค์ก็ต้องส่ง”
พื้นที่ในแต่ละเขต ของ “ท้องถิ่น” ถึงได้-สาละวันเตี้ยลง
“คนต่างจังหวัด” จึงเป็นยิ่งกว่า “ลูกเมียน้อย” ที่ไม่มีค่าสำหรับ “รัฐบาลกลาง”
ต้องร่วมกันลงชื่อเพื่อ “ปลดล็อกท้องถิ่น” ให้มีศักยภาพเป็นของตัวเอง ไม่ใช่เป็นเหมือน “ทาสไพร่” อยู่ใต้การปกครองของ “ฝ่ายศักดินา” ที่ใช้อำนาจสั่งการได้ทุกอย่าง พร้อมทั้งยังเอาสตางค์เข้าส่วนกลางจมเบ้า
อำนาจก็สั่งภาษีก็รับ..ท้องถิ่นถึงตกอับ มากกว่าเขา
“กะพรุนไฟ”
๒ มีนาคม ๒๕๖๕
