Digiqole ad

“บิ๊กโจ๊ก” ย้ำ 1484 โรงพัก ประกาศนโยบาย ”ขึ้นโรงพักไม่ต้องให้ใครมาฝาก”

 “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำ 1484 โรงพัก ประกาศนโยบาย ”ขึ้นโรงพักไม่ต้องให้ใครมาฝาก”
Social sharing

Digiqole ad

บิ๊กโจ๊ก ย้ำ 1484 โรงพัก ประกาศนโยบาย”ขึ้นโรงพักไม่ต้องให้ใครมาฝาก” เผยหากไม่มี วัตถุพยานจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน โอกาสจับคนร้ายมาลงโทษคงเกิดได้ยาก เตรียมผลักดันเปลี่ยนเครื่องไม้เครื่องมือให้ทันสมัย ปรับจากซื้อ เป็นเช่าซื้อ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรักษา

วันที่ 15 มกราคม 2566 เวลา 10.30 น. พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ สถานีตำรวจภูธรโคกขาม จังหวัดสมุทรสาคร และพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดนครปฐม ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

โดยได้มอบสิ่งของเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฎิบัติงานอย่างเข้มแข็ง จนได้รับรางวัล ปฏิบัติงานดีเด่นอันดับ 1 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติสถานีตำรวจรูปแบบที่ 2 โครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบลเพื่อสนับสนุนการป้องกันอาชญากรรมตามนโยบายขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน Stronger Together และยังมีผลการตรวจราชการประจำปีงบประมาณ 2566 ของกองตรวจราชการ 7 จเรตำรวจ ได้ลำดับที่ 1 นอกกลุ่มเป้าหมายระดับสถานีตำรวจขนาดใหญ่สังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ทั้งยังได้รับรางวัลการปฏิบัติงานดีเด่นอันดับ 2 โครงการ rtp cyber​ village.ของตำรวจภูธรภาค 7

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบอกว่า ที่ผ่านมาประชาชนจำนวนมาก ที่ได้รับความเดือดร้อนในคดีลัก วิ่ง ชิง ปล้น เดินทางไปแจ้งความที่โรงพัก ซึ่งหลายคดีต้องใช้ระยะเวลาในการสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจมีจำนวนจำกัดทั้งยังมีอีกหลายหน้าที่ แม้ทุกคนจะปฏิบัติงานอย่างแข็งขัน แต่ก็อาจตอบสนองไม่ได้รวดเร็วอย่างที่ ประชาชน ต้องการ และหลายคนเลือกที่จะฝากคดีกับผู้มีอำนาจ เพื่อให้มากดดันการทำงานของตำรวจ

ดังนั้นจากนี้ไปจึงขอฝากให้หัวหน้าสถานีตำรวจทั้ง 1,484 โรงพัก ปรับแผนการทำงาน โดยประกาศนโยบาย “ ขึ้นโรงพัก ไม่ต้องให้ใครมาฝาก” หากดำเนินการได้เร็วคดีค้างท่อตามโรงพักก็จะลดลง สร้างความพึงพอใจให้กับประชาชน

และสิ่งสำคัญเหนืออื่นใดในการทำคดีเพื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฏหมาย ก็ต้องอาศัยวัตถุพยาน ที่พิสูจน์หลักฐานเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บและส่งมอบเพื่อนำมาประกอบคดี แต่ที่ผ่านมาอุปกรณ์ส่วนใหญ่ล้าสมัย และมีค่าบำรุงรักษาสูง เนื่องจากระบบการจัดซื้อจัดจ้าง ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นระบบซื้อขาด เมื่อได้มา ก็ต้องมานั่งจ่ายค่าบำรุงรักษา ประกอบกับเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจึงทำให้อุปกรณ์ล้าหลัง

ดังนั้นจะเร่งผลักดันนโยบาย โดยการเปลี่ยนระบบการจัดซื้อจัดจ้าง เครื่องมือให้เป็นระบบ”เช่าซื้อ“ โดยผู้ให้เช่าจะเป็นคนบำรุงรักษาและเปลี่ยนทันทีที่อุปกรณ์ตกรุ่น จะได้ไม่เป็นภาระของหน่วยงาน ในการจัดเก็บเครื่องมือเก่าเก็บ และกลายเป็นงบประมาณสะสม ที่ทำให้หน่วยงานไม่มีงบประมาณมากพอ ที่จะจัดหาเครื่องรุ่นใหม่ๆ มาทำงานให้สอดคล้องกับหน้างานที่เพิ่มขึ้น

 

Facebook Comments


Social sharing

Related post