
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ชี้แจงในการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 66


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ชี้แจงในการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา วันที่ 11 กันยายน 2566 โดยเริ่มต้นกล่าวขอบคุณความเห็น ที่สมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้แนะนำ พร้อมยืนยันว่า การดำเนินนโยบายของรัฐบาลจะยึดโยงกับประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และประชาชนของรัฐบาลนี้ ครอบคลุมทุกกลุ่มคน ทั้งคนในเมือง คนในต่างจังหวัด คนทุกฐานะ ภาคเอกชน ข้าราชการ อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
.
นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเรื่องนโยบายของการปรับแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าจะไม่แก้ไขในหมวด 1 และหมวด 2 ว่าด้วยเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะดำรงไว้ซึ่งระบอบการปกครองประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
.
เรื่องการพักหนี้เกษตรกรนั้น เราพบว่าตลอดเวลา 9 ปีที่ผ่านมา มีการพักหนี้มา 13 ครั้งแต่ไม่เกิดประโยชน์ เราตระหนักดีเราจึงมีมาตรการหลายอย่างเพื่อเพิ่มรายได้ไปพร้อมกับการพักหนี้ เช่น นโยบายเพิ่มรายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้น 3 เท่า ด้วยการใช้การตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ เพื่อสร้างรายได้ ควบคู่ไปกับการพักหนี้ เพื่อทำให้เกษตรกรหายใจ เพื่อลืมตาอ้าปากได้
.
เรื่องนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต กรณีระยะทาง 4 กิโลเมตรนั้น เราตระหนักดีว่าในชนบทอาจมีร้านค้าไม่เพียงพอ ซึ่งจะไปดูรายละเอียดให้เหมาะสมตามคำแนะนำของสมาชิกรัฐสภา ส่วนเรื่องระยะเวลา 6 เดือนนั้นจำเป็น เพราะเราต้องการให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงระยะสั้น และกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ฉะนั้น ถ้าใครอยู่ต่างจังหวัดก็อยากให้กลับไปใช้เงินที่บ้าน กลับไปเยี่ยมญาติพี่น้องทำให้สถาบันครอบครัวแข็งแรงขึ้น เว้นไว้แต่บางเคสก็อาจมีขยายขอบเขตก็จะพิจารณาอีกครั้ง
.
เรื่องการผลักดันการท่องเที่ยวนั้น รัฐบาลมีแผนหลายอย่างที่จะต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการยกเว้นวีซ่าการเข้าประเทศ ซึ่งดำเนินการอยู่ เพราะการท่องเที่ยวจะกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นได้เร็ว ปลุกเศรษฐกิจสร้างรายได้ 3 ล้านล้านบาทต่อปี
.
เรื่องค่าแรงขั้นต่ำก็สมควรได้รับการปรับปรุงให้เร็วที่สุด และเราตั้งเป้าหมายว่าเราจะทำให้เศรษฐกิจโตเฉลี่ยปีละ 5% ตลอด 4 ปี ซึ่งจะทำให้ค่าแรงขึ้นไปถึง 600 บาทต่อวัน ปริญญาตรี 25,000 บาทได้
.
เรื่องค่าพลังงาน เราก็มั่นใจว่าเราสามารถทำให้ค่าพลังงานต่ำลงอย่างมีนัยยะสำคัญได้ ซึ่งท่านรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะได้มาตอบคำถามส่วนนี้
.
เรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นประโยชน์กับประชาชนนั้นยังคงมีอยู่
.
เรื่องทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ที่ดินต่างๆ ก็จะต้องจัดสรรเพื่อให้ประชาชนสามารถไปสร้างประโยชน์ ทำมาหากินได้ ซึ่งจะต้องดูทั้งที่ดิน ส.ป.ก. หรือที่ดินของหน่วยงานราชการอื่นๆ ผ่านรูปแบบที่เหมาะสม
.
เรื่องน้ำในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก EEC เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดูแลอย่างเหมาะสมทุกมิติไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตร อุตสาหกรรม อุปโภคบริโภค และสมดุลของระบบนิเวศ
.
เรื่องแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 เราจะเริ่มทำโดยเร็ว เพื่อให้เกิดผลภายในต้นปีหน้าเพราะเริ่มเข้าช่วงวิกฤตที่มีฝุ่นหนักในภาคเหนือ โดยดำเนินการส่วนที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนก่อน
.
เรื่องการทุจริต รัฐบาลให้ความสำคัญกับความโปร่งใส เราจะเอาระบบดิจิทัลมาใช้มากขึ้น และในรายละเอียด ทางรัฐมนตรีจะมาตอบคำถามต่อไป
ที่มา : เพจพรรคเพื่อไทย

Facebook Comments