
นายกฯ และทีมพบปะพูดคุยกับคนรุ่นใหม่ นักวิชาการ ผู้ประกอบการ ภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในประเด็นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ระบบขนส่งคมนาคม สังคมและสิ่งแวดล้อม (PM 2.5)


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะรัฐมนตรี และ สส. เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย พบปะพูดคุยกับคนรุ่นใหม่ นักวิชาการ ผู้ประกอบการ ภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในประเด็นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ระบบขนส่งคมนาคม สังคมและสิ่งแวดล้อม (PM 2.5) เพื่อหารือทิศทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ โดยนายกรัฐมนตรีตอบรับข้อเสนอชาวเชียงใหม่ ในการผลักดัน ‘พ.ร.บ. อากาศสะอาด’ เร่งแก้ปัญหา PM 2.5 คืนคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประชาชน ส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ
.
1. นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดแรกๆ ที่รัฐบาลเดินทางมารับฟังปัญหา ซึ่งบางเรื่องก็ได้หาทางออกไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการเปิดสนามบิน ที่จะต้องขยายเวลาเพื่อให้เที่ยวบินต่างประเทศลงมามากขึ้น ซึ่งน่าจะมีข่าวดีเร็วขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้ฝากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลเรื่องเสียงโดยรอบสนามบินให้มีการบริหารจัดการที่เหมาะสม ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน
.
2. สำหรับการที่ประชุมคณะรัฐมนตรียกเว้นวีซ่าคนจีนนั้นเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ซึ่งเชียงใหม่เป็นกลุ่มจังหวัดที่นักท่องเที่ยวจีนให้ความสนใจ ส่วนการสร้างสนามบินแห่งที่ 2 อยู่ในแผนงานรัฐบาลอยู่แล้ว

3. นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญขับเคลื่อนเรื่อง Soft power อย่างจริงจัง โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการ Soft power ขับเคลื่อนเรื่องนี้แล้ว สำหรับข้อเสนอที่ต้องการผลักดันจังหวัดให้ 12 เดือน 12 Eventนั้นเป็นเรื่องที่น่าดีใจ และทำให้เชื่อว่าทุกๆ เดือนจะเป็น High season ของจังหวัดเชียงใหม่ ขณะเดียวกัน World Event พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีความพร้อมทั้งเรื่องสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ความพร้อมการจัดประชุมระดับนานาชาติและจัดนิทรรศการ
.
4. นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังชื่นชมกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นผู้ปิดทองหลังพระ ดึงดูดการลงทุนเข้ามา เนื่องจากการบริการด้านสาธารณสุขของไทยถือเป็นระดับ World Class
.
5. ส่วนการแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 หากไม่สามารถจัดการได้จะกระทบกับการท่องเที่ยว ซึ่งตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา จังหวัดน่าน ลำปาง แพร่ และเชียงใหม่ ติดอันดับ 10 ของโลก ที่มี PM 2.5 เพราะฉะนั้น Solution ที่เสนอมาอย่าง Command Center ต้องพิจารณาว่าหากไม่ให้เกษตรกรปลูกและเผาแล้วจะมีแนวทางอย่างไรมารองรับไม่ให้กระทบกับเกษตรกร
.
6. นายกรัฐมนตรี เปิดเผยด้วยว่า พ.ร.บ.อากาศสะอาด เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่จะเร่งดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยขณะนี้พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดทำร่างเรื่องนี้ไว้แล้ว

7. พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า งบประมาณแผ่นดินมีจำนวนจำกัด การดำเนินการใดๆ ต้องคำนึงและรักษาวินัยการเงินการคลังของประเทศ ขอให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงการใช้จ่ายงบประมาณที่มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติ
.
8. สำหรับข้อเสนอของคนรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีและคณะได้เสนอต่อรัฐบาล เช่น ประเด็นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ระบบขนส่งคมนาคม สังคม และสิ่งแวดล้อม (PM 2.5) ประเด็น Sotf power โอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจ การขอให้ขับเคลื่อน พ.ร.บ.อากาศสะอาด พื้นที่สาธารณะที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก การทำ Wellness Tourism ฯลฯ ส่วนประเด็นที่นำเสนอจากตัวแทนภาคส่วนต่างๆ อาทิ
.
– โครงสร้างพื้นฐาน ประกอบด้วย สนามบินและระบบขนส่งสาธารณะ ขยายเวลาเปิด 24 ชม. เสนอสนามบินแห่งที่ 2 ส่งเสริมเอกชนโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ระบบโครงข่ายถนน Links เชื่อม 25 อำเภอ
.
– ส่งเสริมสนับสนุนการทำตลาด ได้แก่ อัพเกรดงานแสดงสินค้าเป็นระดับประเทศ จัดงาน Event ระดับโลก ดึง Event ใหญ่มาจัดในจังหวัดเชียงใหม่ เพิ่มศักยภาพศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ
.
– ปรับปรุงกฎกระทรวงต่าง ๆ เกี่ยวกับ Visa
.
– ส่งเสริมและสนับสนุนการทำตลาดในต่างประเทศ
.
– นโยบายสนับสนุนเพิ่มจำนวนผู้ประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เดินหน้าแก้ไขปัญหาผังมืองและการใช้ประโยชน์ที่ดิน

9. นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะยังได้พบปะตัวผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาภาพรวมของจังหวัดเชียงใหม่ และส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (Start Up) โดยนายกรัฐมนตรีได้รับฟังผลงานจาก Start Up เช่น ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นแนวคิดจากเด็ก ป.6 สามารถนำมาต่อยอดให้การแจ้งเตือนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นวัตกรรมการผลิตน้ำเชื้อโคแยกเพศ ระบบบริหารจัดการหอพัก อพาร์ทเมนท์และธุรกิจรายวัน (Horganice) บริการทำความสะอาดและรีดผ้า (BeNeeT) พร้อมเยี่ยมชมผลงานดังกล่าวของ Start Up ที่นำมาจัดแสดง
.
10. โดยนายกรัฐมนตรีได้แนะนำให้ Start Up พิจารณาการจับคู่ค้าหรือ Matching กับต่างประเทศเพื่อร่วมลงทุน พร้อมย้ำถึงการมีความทะเยอทะยานให้มากขึ้นในการคิดหาแนวทางและขับเคลื่อนธุรกิจให้มีศักยภาพ สามารถแข่งขันกับต่างประเทศหรือระดับสากลได้ ซึ่งจะเป็นการสร้างชื่อเสียงทั้งกับตนเองและสถาบันการศึกษา นอกจากนี้ในประเด็นการขับเคลื่อน Wellness city รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมรับไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ที่มา : เพจพรรคเพื่อไทย
Facebook Comments