นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังพูดคุยกับผู้บริหารบริษัทใหญ่ของญี่ปุ่น 8 บริษัท ในโอกาสเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ

15 ธันวาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังพูดคุยกับผู้บริหารบริษัทใหญ่ของญี่ปุ่น 8 บริษัท ในโอกาสเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น เชื่อมั่นว่าการหารือจะช่วยกระตุ้นการลงทุนระหว่างไทย-ญี่ปุ่น และทุกโครงการที่หารือในวันนี้จะเกิดขึ้นและเห็นผลสำเร็จในรัฐบาลนี้ โดยนายกรัฐมนตรีได้หารือกับผู้บริหาร 8 บริษัท ดังนี้

.

1. บริษัท Mitsui ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ 1 ใน 5 ของญี่ปุ่นที่เน้นการค้าและการพัฒนาโครงการในสาขาต่าง ๆ ร่วมกับเครือข่ายทั่วโลก ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงานสะอาดเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมในไทยและได้พูดคุยเกี่ยวกับการตรวจเจาะการส่งก๊าซซึ่งทางบริษัทชำนาญ อีกทั้ง นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนบริษัท Mitsui มาเปิดสำนักงานใหญ่ของภูมิภาคในไทย

.

2. บริษัท Honda ลงทุนในไทยมานานและมีการลงทุนจำนวนมาก นายกรัฐมนตรีได้ขอให้เร่งการลงทุนโรงงานที่ใช้พลังงานสะอาด โรงงาน EV และ Plug-in โดยหลังจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในไทยอีก 50,000 ล้านบาทใน 5 ปีข้างหน้า

.

3. บริษัท Nissan เป็นบริษัทที่ได้เริ่มเข้ามาทำธุรกิจ EV ตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อนแล้ว บริษัทยืนยันว่าจะลงทุนในไทยต่อเนื่อง

.

4. บริษัท Mitsubishi สนใจที่จะพัฒนาและผลิตรถ Pickup EV ซึ่งเป็นประเภทรถยนต์ที่ขายดีในไทย ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงเห็นว่าการเปลี่ยนสู่การใช้รถกระบะ EV ในไทยเป็นปัจจัยสำคัญ และได้เร่งให้บริษัทลงทุนให้เร็วขึ้น โดยบริษัทจะใช้ไทยเป็นฐานในการส่งรถกระบะไปขายในต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มแล้วในอีกไม่กี่ปี

5. บริษัท Isuzu พร้อมลงทุน 32,000 ล้านบาทใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่มีการลงทุน 20,000 ล้านบาทถือเป็นจำนวนการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีได้เร่งให้เริ่มลงทุนเร็วขึ้นและใช้ไทยเป็นฐานการส่งออก

.

6. บริษัท Mazda มี Supply Chain และฐานการผลิตในไทยเพื่อส่งไปขายในต่างประเทศ บริษัทมั่นใจในฐานการผลิตรถ SUV ของไทยที่สามารถส่งขายต่างประเทศได้

.

7. บริษัท Suzuki ซึ่งลงทุนในไทยมานานแล้ว ขอให้รัฐบาลไทยส่งเสริมการลงทุนต่อ โดยนายกรัฐมนตรีได้เสนอให้บริษัทผลิตมอเตอร์ไซค์ EV ในไทย

.

8. บริษัท Toyota เป็นบริษัทที่มีการลงทุนใหญ่ที่สุดอยู่ในไทยมากกว่า 60 ปีแล้ว ประธานบริษัทซึ่งเคยอยู่ไทยได้เข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับรถกระบะรุ่น Hilux ที่ขายดีที่สุด โดยจะเริ่มผลิตรุ่น EV ในไทยปี 2025 ทางบริษัทกังวลเรื่องสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในไทย รัฐบาลจึงให้ความมั่นใจในเรื่องนี้ และทางบริษัทจะเร่งการผลิตรถ EV ให้เร็วขึ้นเช่นกัน อีกทั้ง ทางบริษัทนั้นทำเรื่อง Leasing ซึ่งตรงกับที่รัฐบาลต้องการแก้ปัญหาหนี้ รัฐบาลจึงได้เสนอให้บริษัทช่วยเรื่องการปรับหนี้ โดยทางบริษัทรับปากจะดูแลให้

.

9. ทั้งนี้ เมื่อได้หารือวันนี้ นายกรัฐมนตรีตระหนักถึงความสำคัญกับความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น บริษัทเหล่านี้ต่างพยายามลงทุนเพิ่มในไทย และแรงงานของไทยพึ่งพาบริษัทเหล่านี้มาก พร้อมเผยว่าพอใจในการเดินทางครั้งนี้ ทีมงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการบ้านมาอย่างดี ทำให้การพูดคุยกันเป็นไปด้วยมิตรภาพ เปิดโอกาสให้มีการเร่งการลงทุนได้อย่างลงตัว มั่นใจว่าโครงการเหล่านี้ทุกโครงการจะเกิดขึ้นภายในสี่ปี สำเร็จเป็นรูปธรรมภายในรัฐบาลนี้