Digiqole ad

นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี

 นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี
Social sharing

Digiqole ad
วันที่ 11 พฤษภาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และคณะ พร้อมด้วย นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย นายพนม โพธิ์แก้ว ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย และ นางสาวพลอย ธนิกุล ผู้ช่วยรมต. ประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมเดินทางตรวจราชการ ณ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อรับฟังและเร่งติดตามแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ทั้งปัญหาน้ำท่วม รับฟังรายงานเกษตรกรโคนม และติดตามรายงานปัญหาความมั่นคงชายแดน โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานดังนี้
.
[ปัญหาน้ำท่วมขัง]
.
เวลา 09.30 น. ณ แก้มลิงตำบลปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี นายกรัฐมนตรี และคณะ ติดตามประเด็นปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซากในพื้นที่เทศบาล รับทราบการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ชุมชนตามผังเมืองรวมกาญจนบุรี จากกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยการดำเนินการแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 งบประมาณปี พ.ศ. 2567 องค์ประกอบงานเกี่ยวกับระบบระบายน้ำบ้านหัวนาล่าง
ระยะที่ 2 งบประมาณปี พ.ศ. 2568 องค์ประกอบงานเกี่ยวกับงานก่อสร้างระบบระบายน้ำบริเวณโค้งทางรถไฟ
ระยะที่ 3 งบประมาณ ปี พ.ศ. 2569 องค์ประกอบงานเกี่ยวกับระบบระบายน้ำบ้านเขาใหญ่-บ้านพุรางนิมิตร
.
ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมบริเวณถนนพัฒนากาญจน์และถนนแสงชูโตบริเวณ อบจ. พร้อมทั้งรับทราบถึงความจำเป็นในการดำเนินโครงการระบบสูบน้ำทุ่งท่าล้อ เพื่อผันน้ำบางส่วนจากห้วยน้ำใสไประบายลงแม่น้ำแม่กลองโดยวิธีการสูบน้ำ ทั้งนี้ เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะระบายผ่านห้วยนาคราชและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังในทุ่งท่าล้อ รวมถึงรับทราบแผนการพัฒนาพื้นที่บริเวณย่านสถานีกาญจนบุรีจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งแบ่งการพัฒนาเป็น 3 โซน คือ 1) พื้นที่ตลาดกลางค้าปลีกค้าส่ง 2)พื้นที่ที่อยู่อาศัยระยะยาว 3) พื้นที่สวนสาธารณะ
[ความก้าวหน้าอุตสาหกรรมโคนม]
เวลา 10.00 น. ณ ฟาร์มโคนมบ้านพุประดู่ (mMilk dairy farm) ต.หนองบัว อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี นายกรัฐมนตรี และคณะ พูดคุยและรับฟังข้อมูลพื้นฐานด้านปศุสัตว์โคนมจังหวัดกาญจนบุรี รับฟังข้อมูลพื้นฐานด้านปศุสัตว์โคนมจังหวัดกาญจนบุรี มีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม จำนวน 705 ราย โคนม จำนวน 23,393 ตัว โคกำลังรีดนม จำนวน 10,316 ตัว กระจายตัวในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองกาญจนบุรี อ.ท่าม่วง อ.ท่ามะกา อ.ด่านมะขามเตี้ย โดยมีฟาร์มที่ได้รับการรับรองการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มโคนม (GAP) จำนวน 583 แห่ง มีศูนย์รวบรวมน้ำนมและโรงแปรรูป โดยแบ่งเป็นศูนย์รวบรวมน้ำนม จำนวน 9 ศูนย์ โรงงานแปรรูป จำนวน 2 โรงงานฟาร์ม จำนวน 1 ฟาร์ม
.
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ในประเด็นปัญหาการเลี้ยงโคนม โดยเฉพาะอุณหภูมิของอากาศที่สูงขึ้น โดยเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์จังหวัดได้อธิบายว่า สภาพอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อความเครียดของโคนม ทำให้โคนมมีปริมาณน้ำนมน้อยกว่าปกติ รวมทั้งปัญหาต้นทุนราคาอาหารสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ นายกฯ ได้แนะนำให้มีการปรับเปลี่ยนโรงเลี้ยงโคนมเพื่อช่วยในเรื่องการระบายอากาศร้อน มุ่งเน้นการตลาดให้ดี ทำให้ครบวงจร พร้อมนำไปพัฒนาต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดได้
[ความมั่นคงชายแดน ด่านศุลกากร และแรงงานข้ามชาติ]
.
เวลา 13.00 น. ณ กองพลทหารราบที่ 9 อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรีนายกรัฐมนตรี และคณะ ประชุมหารือประเด็นปัญหาและการพัฒนาจังหวัดกาญจนบุรี (ประเด็นสถานการณ์ความมั่นคงชายแดน ด่านศุลกากร และแรงงานข้ามชาติ) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
.
นายกรัฐมนตรี รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566 และข้อเสนอเพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดกาญจนบุรี จากผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และสรุปสถานการณ์ด้านชายแดน โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติ โดยกล่าวถึงการเดินทางมาจังหวัดกาญจนบุรีว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เพื่อมาติดตามแนวทางการพัฒนาจังหวัดกาญจนบุรี โดยขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจบุรี ที่ได้มีการติดตามงานอย่างใกล้ชิด ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องที่ดินทำกิน และมีงานที่ต้องทำต่ออีกมาก ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณในการดำเนินการเรื่องนี้ที่มีความคืบหน้ามาโดยตลอด รวมทั้งขอบคุณกองทัพที่มีการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งการดำเนินการเรื่องของที่ดินทำกินให้กับประชาชน
.
ส่วนกรณีสถานการณ์การค้าชายแดนนั้น นายกฯ ย้ำว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยขอขอบคุณกำลังพล และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย ที่ช่วยกันทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่อย่างหนัก ทั้งเรื่องของการลักลอบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย มาตรการควบคุมยางพาราในพื้นที่ การลักลอบนำเข้ายาเสพติด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ การที่เราสามารถป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบยางพาราเถื่อนตามแนวชายแดนเข้ามาจำหน่ายในประเทศ ทำให้ส่งผลดีต่อราคายางในประเทศดีขึ้น จึงขอขอบคุณทองทัพ กระทรวงการคลัง กรมศุลกากร ที่ทำงานกันอย่างใกล้ชิด
.
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีย้ำถึงเรื่องการค้าขายชายแดนที่มีการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งที่ดีต่าง ๆ รองรับ ทั้งรถไฟทางคู่ หรือรถไฟฟ้า เป็นสิ่งที่ดี เพราะสามารถร่นระยะเวลาในการขนส่งสินค้าได้เร็วขึ้น ซึ่งตรงนี้รัฐบาลให้ความสำคัญโดยขับเคลื่อนนโยบาย One Stop Service อย่างแท้จริง โดยให้หน่วยงานกรมศุลกากรนำร่อง และขอความร่วมมือทุกหน่วยงานร่วมกันขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้เกิดผลสำเร็จภายในเดือนกันยายนนี้ สอดคล้องกับการพัฒนาโครงการพื้นฐานไปพร้อมกัน
.
[การค้าขายชายแดน]
.
เวลา 15.00 น. ณ จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี นายกรัฐมนตรี และคณะ ตรวจเยี่ยมสถานการณ์การค้าชายแดน พร้อมรับทราบรายงานปริมาณการค้านำเข้า-ส่งออกด่านพรมแดนพระเจดีย์สามองค์ การจัดเก็บรายได้ ปริมาณรถบรรทุกที่ใช้ในการขนส่งสินค้า ปี พ.ศ. 2567 และ 2566 โดยนายกฯ ได้สอบถามถึงสินค้าที่มีการนำเข้า-ส่งออกที่มีปริมาณมากที่สุด รวมถึงสอบถามเกี่ยวกับการปฏิบัติงานตามข้อสั่งการเกี่ยวกับสินค้าเถื่อน
.
นายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันปฏิบัติงานให้ดี พร้อมกับเน้นย้ำต้องเข้มงวดเรื่องยาเสพติดเป็นพิเศษ ตรวจค้น เอ็กซเรย์อย่างเด็ดขาด สำหรับเรื่องการขาดแคลนเครื่องมือเอ็กซเรย์จะดำเนินการจัดหาให้ โดยต้องพิจารณาจากความพร้อมของพื้นที่ก่อน
.
จากนั้น นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังวัดวังก์วิเวการาม อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสักการะหลวงพ่ออุตตมะ และเยือน สะพานอุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ) ในช่วงเย็น
ที่มา : เพจพรรคเพื่อไทย
Facebook Comments


Social sharing

Related post