Digiqole ad

นายกฯ “เศรษฐา ทวีสิน” ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เยี่ยมชมโครงการศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธ์ุไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

 นายกฯ “เศรษฐา ทวีสิน” ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เยี่ยมชมโครงการศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธ์ุไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
Social sharing

Digiqole ad
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เยี่ยมชมโครงการศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธ์ุไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ตำบลน้ำแพร่ เยี่ยมชมตลาดจริงใจ ชมสินค้าและผลิตภัณฑ์จากโครงการตามพระราชดำริ ที่อาคารอเนกประสงค์ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่กวงอุดมธารา โอกาสนี้ได้จัดกิจกรรมเวิร์คช็อปพาผู้นำภาคธุรกิจพบปะกับตัวแทนเกษตรกรเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาสินค้าเกษตรให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและการหาช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าพืชผลการเกษตรใหม่ๆ ดันมีเป้าหมายผลักดันให้เติบโตได้ในระดับโลก
1. เวลา 10.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เริ่มต้นภารกิจเข้าเยี่ยมชมโครงการศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่อันเนื่องมาจากพระราชดําริ โดยนายกรัฐมนตรีไดักล่าวว่า ครั้งนี้ถือเป็นการ Kick Off ที่นำกลุ่มนักธุรกิจ ในนามกลุ่มรวมมิตรมาลงพื้นที่ร่วมกัน ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เป็นการ Kick Off ในหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องซอฟพาวเวอร์ เรื่องมวย และได้พบปะกับหลายหน่วยราชการ นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า การที่มีบุคคลสำคัญหลายคนมานั่งรวมกันอยู่ตรงนี้ถือเป็นมิติใหม่หมายที่ดี เป็นสัญลักษณ์ที่ดี เป็นกำลังใจให้คนทำโครงการดีดี เผื่อเกิดผลเป็นรูปธรรมได้ ยืนยันว่าในฐานะที่เป็นนักการเมืองไม่ได้มาพูดคำหวานอย่างเดียว ต้องให้กำลังใจ เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม สิ่งที่มีค่ามากที่สุดสำหรับนักธุรกิจไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องของเวลา การต้องเสียสละเวลามาลงพื้นที่ ถือเป็นเรื่องสำคัญของประเทศชาติโดยเฉพาะ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีระหว่างกลุ่มรัฐบาลและกลุ่มรวมมิตรที่มาเชียงใหม่ โดยครั้งต่อไป จะไปจังหวัดยะลาขอให้มาร่วมนั่งกันให้เต็มห้องแบบนี้
.
2. เวลา 12.00 น. นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมในโซนตลาดจริงใจ Farmers Market ซึ่งเป็นตลาดผักเกษตรอินทรีย์ที่จำหน่ายพืชผัก ผลไม้ ออร์แกนิคและปลอดสารจากเกษตรกรในจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียง เช่น จากอำเภอพร้าว สารภี สะเมิง ดอยสะเก็ด ไชยปราการ แม่อาย โดยภาคเอกชนได้สนับสนุนผ่านการส่งเสริม ให้ความรู้แก่เกษตรกรในการปลูกผลิตภัณฑ์เกษตรแต่ละชนิดให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งเป็นตัวแทนในการรับผลผลิตเข้ามาขาย และหาช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังตลาดและกระจายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ ช่วยสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ตลาดจริงใจสามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนได้กว่า 295 ล้านบาท โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินชมผลิตภัณฑ์จากกลุ่มตลาดสินค้าทำมือ ซึ่งได้รวบรวมช่างฝืมือท้องถิ่นไว้ในพื้นที่ถึง 190 ร้านค้า เช่น การทอผ้าท้องถิ่น การออกแบบเสื้อผ้าพื้นเมืองให้ร่วมสมัยจาก young designer ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้ จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันภายในตลาดจริงใจ
.
3. เวลา 15.00 น. นายกรัฐมนตรีไปเยี่ยมชมสินค้าและผลิตภัณฑ์จากโครงการตามพระราชดำริ ที่อาคารอเนกประสงค์ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โดยในงานดังกล่าวได้มีเวิค์คช็อปนำผู้ประกอบการภาคเอกชนร่วมพูดคุยกับพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ภายใต้ชื่อว่าหลักสูตรรวมมิตร โดยในงานได้แบ่งกลุ่มเวิร์คช็อปเป็น 14 กลุ่ม เพื่อให้ผู้ประกอบการและกลุ่มเกษตรกรได้พบปะพูดคุยกับเกษตรกรในหัวข้อต่างๆ อาทิเรื่องการปรับปรุงและพัฒนาสินค้า การเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการตลาด การทำสินค้าชุมชนให้น่าสนใจ โดยนายกรัฐมนตรีได้ร่วมพูดคุยในกลุ่มเวิร์คช็อปต่างๆ มีเกษตรกรเสนอประเด็นที่เดือดร้อนรวมถึงเรื่องของขั้นตอนของ อย. หรือการขอใบอนุญาตอาหารและยา ที่มีขั้นตอนยุ่งยากจนทำให้สินค้าชุมชนได้รับ อย. ยาก ทั้งที่สินค้าดังกล่าวเป็นที่ต้องการของชาวต่างชาติแต่ไม่สามารถส่งออกไปจัดจำหน่าย ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับปากจะนำปัญหาไปแก้ไข
.
4. นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า การมาศึกษาปรัชญาในการทำโครงการพระราชดำริและทำความเข้าใจความต้องการของพี่น้องประชาชนในหลายๆด้าน ทำให้หลายๆ คนเข้าใจ pain point ที่พี่น้องประสบปัญหาอยู่ว่าทำไมถึงยังไม่สามารถไปถึงศักยภาพที่จะไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเรื่องการตลาด เมื่อวันนี้ได้มาพูดคุยกันแล้ว พร้อมกับหาทางออกให้พี่น้องที่ทําการค้าขายทางด้านสินค้าเกษตรได้เยอะมาก ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการที่หลักสูตรต่างๆ จะเอาไปพัฒนา รวมทั้งสินค้าประเทศไทย ซึ่งเป็น OTOP จริงๆ สินค้าในโครงการวิชาชีพเป็นสินค้าของพี่น้องประชาชนคนไทยในจังหวัด มีศักยภาพสูงมีความต้องการสูง แต่ยังไม่สามารถเข้าถึงตลาดได้ จึงเชื่อว่าการหารือครั้งนี้จะเป็นการเปิดตลาดโลกให้กับพี่น้องประชาชนทุกคนได้
5. นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กไอดี Thavisin.Official เพิ่มเติมถึงกิจกรรมเวิร์คช็อประหว่างภาคเอกชนและตัวแทนเกษตรกรเพิ่มเติมด้วยว่า “การที่เอกชนสามารถเข้ามาสนับสนุนเกษตรกรโดยการหาตลาด และผลักดันผลผลิตที่แปรรูปแล้วไปสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้นได้ ผมถือว่าเป็นใบเบิกทางที่จะพาผลผลิตของเกษตรกรไทยไปสู่ตลาดโลกได้ครับ
.
ผมคิดว่า ความช่วยเหลือจากภาคธุรกิจแบบที่เคยทำมานั้น ยังไม่เพียงพอที่จะพัฒนาสินค้าของท้องถิ่นให้เติบโตได้ในระยะยาว ผมอยากสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างภาคเอกชน และเกษตรกรในชุมชน อยากให้เราเติบโตไปด้วยกัน ลดความเหลื่อมล้ำซึ่งเป็นปัญหาของสังคมไทยร่วมกันครับ”
.
ที่มา :
Facebook Comments


Social sharing

Related post