นายกฯ “เศรษฐา ทวีสิน” ตรวจสอบระบบตรวจคนเข้าเมือง หรือ Biometrics ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังเกิดเหตุระบบขัดข้องมา 2 ครั้ง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิในช่วงเช้า เพื่อตรวจสอบระบบตรวจคนเข้าเมือง หรือ Biometrics ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังเกิดเหตุระบบขัดข้องมา 2 ครั้งแล้ว ซึ่งส่งผลต่อระบบส่งต่อช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ หรือ Automatic channels ไม่สามารถตรวจได้ และส่งผลกระทบต่อช่วงเวลาที่มีเที่ยวบินขึ้นลงหนาแน่น โดยเฉพาะผู้โดยสารขาออกประเทศ

.

1. นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องเดินทางลงพื้นที่ไป เพราะอยากไปเห็นปัญหาด้วยตาตัวเอง ไม่อยากรับฟังรายงานจากใคร โดยสาเหตุที่ระบบตรวจคนเข้าเมืองล่ม พบว่ามาจากระบบที่ตอนนี้มีบริษัทไอทีหลายบริษัทมาดำเนินการ แต่ข้อมูลไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้ระบบแบ็คอัพ ไม่เสถียร พอนักท่องเที่ยวเข้ามามาก ระบบก็หน่วง โดยเวลาปกติ KPI ใช้เวลาประมาณ 45 วินาที แต่เมื่อมีการใช้งานพร้อมกันเยอะ ทำให้ KPI ใช้เวลานานถึง 1 นาทีกว่า ทำให้ช้าขึ้นอีก จึงได้ให้ KPI ไปว่า นักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้ามาแล้ว ควรจะยืนรอเข้าช่องประทับตราตรวจคนเข้าเมืองหนังสือเดินทางไม่ควรเกิน 30 นาที รวมถึงการไปยืนรอรับกระเป๋าที่ก่อนหน้านี้ที่ต้องรอเป็นเวลานาน

.

2. นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า วันนี้ในช่วงบ่าย และตลอดทั้งสัปดาห์ จะมีประชุมแก้ไขปัญหา รวมถึงเรื่องของกำลังคน เจ้าหน้าที่ ตม.ที่มีไม่เพียงพอ ซึ่งเรื่องนี้ จะเรียกผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมาหารือ เพื่อขอไปทาง ก.พ. ให้ขอเปิดตำแหน่งรับอัตรากำลังเพิ่ม รวมถึงฝากเรื่องพื้นที่พักผ่อนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม. ที่ไม่ค่อยดีและควรปรับปรุงให้สะดวกสบายมากขึ้น

.

3. ส่วนในด้านผู้โดยสารขาออกนั้น มีปัญหาช่องบริการน้อย นักท่องเที่ยวมาก ตั้งแต่ตรวจลงตราหนังสือเดินทาง และการตรวจเอกซเรย์กระเป๋า จนแถวล้นออกมาข้างนอก ทำให้เวลาเช็คอินมีพื้นที่ไม่เพียงพอ แต่เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาตรวจ ซึ่งมีอยู่ 2 เรื่อง คือการตรวจนักท่องเที่ยวที่อยู่เกินเวลาของวีซ่า และคนที่มีความผิดทางอาชญากรรมที่จะเดินทางออกนอกประเทศ ดังนั้นเรื่องของระบบไอที จะต้องเชื่อมต่อกันให้ได้ทั้งหมด

.

4. “อยากทำทุกอย่างให้ดี ตั้งแต่การเข้ามาในประเทศของนักท่องเที่ยว ให้มีความสะดวกสบาย ตั้งแต่ลงเครื่องบินมา และเดินเข้ามาภายในอาคารสนามบิน ไม่ต้องนั่งรถบัสตากฝน เข้ามาถึงก็ไม่ต้องรอประทับตราเกิน 30 นาที และรับกระเป๋าเดินทางออกนอกสนามบิน รวมถึงระบบแท็กซี่ต้องให้เหมาะสม และถูกต้อง” นายกรัฐมนตรี กล่าว